น้องแพร เปิดใจเหตุสามีดาราชาย ฟ.ทำร้ายลูกทิ้งเมีย
กลายเป็นประเด็นฮือฮาในโลกโซเชียลฯ ขึ้นมาทันที เมื่อคุณแม่ลูกอ่อน "แพร์ ชนิตา สุวรรณานุช" เปิดฉากระบายความอัดอั้นตลอดระยะเวลาที่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกับสามีนักแสดงวัยรุ่นจากละครซีรีส์น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ อย่าง "ฟิล์ม ณัฐกวี" หลังเจอพฤติกรรมที่ฝ่ายหญิงอ้างว่า มีการนอกใจ ทำลายข้าวของ รวมถึงทำร้ายลูกชายที่ขณะนั้นมีอายุเพียง 3 เดือน จนเกิดรอยฟกช้ำตามจุดต่างๆ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวก็ได้สร้างความแคลงใจให้กับแฟนๆ และคอบันเทิงว่า เป็นเรื่องจริงหรือเรื่องที่แต่งขึ้นกันแน่!?
ซึ่งล่าสุดเวลา 18.00 น. วันนี้ (19 ส.ค.) แพร์ ชนิตา ภรรยาสาวซึ่งเป็นคนโพสต์เรื่องราวดราม่าดังกล่าว ก็ได้ใช้พื้นที่รายการ "EFM on TV" เปิดใจแบบหมดเปลือกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมเผยในคืนวันที่ตัดสินใจโพสต์ข้อความลงโซเชียลฯ ฝ่ายชายได้มีการติดต่อมาหาหลายครั้งแต่ตนไม่ได้รับสาย ก่อนออกปากไม่เคยคิดอยากให้อีกฝ่ายถูกตัดอนาคต แค่อยากให้เปลี่ยนตัวให้ได้ก็เท่านั้นเอง...
เราเริ่มต้นคบกันรู้จักกันได้ยังไง ?
"ตอนที่แพร์เจอเขา ตอนนั้นแพรเป็นนักศึกษาอยู่ค่ะ ซึ่งเขาก็เป็นคนจีบแพร์นะ และเราก็คุยกันมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเราเรียนจบก็เลยตกลงที่จะเป็นแฟนกัน ส่วนเรื่องแต่งงาน เราแต่งงานกันหลังจากที่มีลูกด้วยกันแล้ว ซึ่งอายุของลูกตอนนั้นก็คือประมาณ 6 เดือน ในวันที่แต่งครอบครัวฝ่ายชายก็ไม่รู้เรื่องด้วย เพราะเขาอ้างความเป็นดารากับแพร์ ซึ่งแพร์ต้องบอกก่อนว่าช่วงแรกที่เราคบกันเขาปฏิบัติตัวกับแพร์ดีมาก ก่อนที่เขาจะเข้าวงการเขาคือเพอร์เฟคแมน"
"แพร์ต้องบอกว่าอุปนิสัยเขาก่อนเข้าวงการเขาคือผู้ชายนิสัยดี น่ารัก นอบน้อม เข้ากับทุกคนได้ง่ายมาก แต่พอเขาได้เข้าวงการแล้วเนี่ย มันเหมือนว่าเขาต้องเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในชีวิต เขาไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตครอบครัวได้เป็นปกติ ไปไหนมาไหนด้วยกันไม่ได้ แถมยังขี้หงุดหงิดมากๆ อันนี้แพร์มองว่าอาจจะเป็นเพราะภาวะความกดดันในงาน หากเขาลงที่ใครไม่ได้และถ้าเราทำอะไรให้ไม่พอใจนิดหน่อยเขาก็จะปรี๊ดใส่เรา"
ทำไมเราถึงยอมไม่ให้ครอบครัวฝ่ายชายรู้เรื่องที่เราคบกัน ?
"เพราะเขาบอกกับแพร์ว่าเขาต้องเป็นดารา ซึ่งในจุดนั้นแพร์ไม่ได้แคร์ใครนอกจากลูก แพร์มีความสุขเวลาที่เขากลับมาบ้าน เพราะในเวลาที่เขาดีคือเขาก็ดีมากๆ แค่นั้นแพร์ก็โอเคแล้ว"
อย่างช่วงแรกเราบอกว่าเราแต่งงานกับเขาตอนลูก 6 เดือน แต่ที่เราโพสต์เราบอกว่าเขาทำร้ายลูกตอนลูกอายุ 3 เดือน ทำไมเราถึงยังแต่งงานกับเขา ?
"ไม่มีใครรู้เรื่องทำร้ายร่างกายนอกจาก เพื่อนสนิทแพร์ น้าแพร์ และก็คุณแม่ค่ะ ส่วนเรื่องแต่งงานอันนั้นเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ทางบ้านแพร์ที่เขาต้องการให้มีพิธีขึ้นเพื่อหน้าตาทางสังคม ซึ่งสุดท้ายเราก็ต้องยอม เพราะเอาจริงๆ ตัวแพร์เองก็ไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่ คือหลังจากแต่งงานได้ 1 วัน แพรก็จับได้ว่าเขานอกใจ"
สภาพน้องตอนที่โดนทำร้ายเป็นยังไงบ้าง ?
"บอบช้ำ แต่น้องยังร่าเริงได้อยู่ อีกอย่างวันนั้นแพร์กับแม่ก็พาน้องไปหาหมอตรวจเช็คร่างกาย ยอมรับเลยค่ะว่าตอนนั้นเสียใจมาก มันเป็นเรื่องที่รุนแรงมาก รุนแรงมากจริงๆ และสุดท้ายเราก็แยกกันอยู่สักพัก คือที่ผ่านมาแพร์เองก็ให้โอกาสเขามาตลอด แพร์ไม่แฉ ไม่เปิดเผย ไม่แจ้งความ เพราะแพร์คิดเสมอว่าการที่เขาร้ายใส่เรามันไม่ได้หมายความว่าเราต้องร้ายตอบกลับ เราแค่ดึงตัวเองกับลูกออกมาจากเขาก็พอ"
เรารู้สาเหตุไหมว่าทำไมเขาถึงทำร้ายลูกขนาดนั้น ?
"เหมือนเขาไม่มีสติ เหมือนเขาเครียด และเขาก็จัดการอารมณ์ของเด็กไม่ได้เพราะลูกร้องไห้หนักมาก รวมถึงวันนั้นแพร์ไม่ร้านสะดวกซื้อนาน มันก็เลยอาจจะทำให้เขาเครียด สุดท้ายเขาก็เลยทำรุนแรงไปเพราะความที่เขาเป็นคนอารมณ์ร้อนอยู่แล้วด้วย"
จริงๆ เขาเคยทำร้ายร่างกายเราด้วยไหม ?
"จะมีในช่วงหลังๆ ค่ะ เวลาที่เขาหงุดหงิด โมโห หรือแพร์พูดไม่เข้าหูไม่ถูกใจเพราะแพร์เองก็เหนื่อยกับการเลี้ยงลูก และพอเรามาปะทะกันต่างฝ่ายต่างไม่หยุด มันก็เลยกลายเป็นเรื่องเกิดขึ้น มีการทำร้ายร้างกายแพร์บ้าง 2-3 ครั้ง ทำลายข้าวของบ้าง แต่ทุกครั้งที่มีปัญหาแพร์ก็จะขับรถออกมา เพราะแพร์รู้ว่าแพร์สู้อะไรเขาไม่ได้"
ตอนที่เขาขอให้ปกปิดสถานะ ตอนนั้นเราก็โอเคหรือยังไง ?
"จริงๆ แพร์คิดจะเลิกนะคะ เพราะแพร์เองก็อยากให้เขาไปมีอนาคต แต่เป็นตัวเขาเองที่บอกว่าเขายังเลิกไม่ได้ เขายังอยากดูแลแพร์ อยากดูแลลูก อยากเจอลูก ซึ่งมันก็เลยทำให้แพร์ยอมที่จะอยู่ในสถานะที่ว่า "โลกของเขาก็คือโลกของเขา ส่วนโลกของเราในสถานะพ่อแม่ลูกก็คือที่บ้าน" ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายของลูกต่างๆ ในช่วงแรกๆ ที่เขายังไม่ได้มีรายได้มาก ก็จะเป็นทางบ้านแพร์มากกว่าที่เป็นคนช่วยดูแล"
อะไรคือสาเหตุที่เราตัดสินใจแล้วว่าจะเลิกกับคนนี้เด็ดขาด เพราะเห็นว่าคบกันอยู่ด้วยกันแบบนี้มาเกือบ 4 ปี ?
"พอละครเขาเริ่มออนแอร์เขาก็มาบอกกับแพร์ว่าเขาไม่สามารถมาใช้ชีวิตอยู่กับแพร์ได้แบบนี้แล้วนะ เขาต้องการเลิก ซึ่งตอนนั้นแพร์ก็ยินดี คืออยากให้นึกภาพตามว่าเราจะไปอยากรั้งเขาไหม เขาพูดมาตรงๆ แบบนี้แล้ว อีกอย่างตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเราก็ไม่สามารถไปไหนมาไหนแบบพ่อแม่ลูกได้อยู่แล้ว เพราะแพร์ไปแค่กับลูกสองคนตลอด ถามว่าเสียใจไหมที่เขาอยากเลิก เสียใจค่ะเพราะเราฝ่าฟันกันมาเยอะ แต่ด้วยความที่เขามีอนาคตและแพร์เองก็ไม่อยากไปทำร้ายอนาคตเขา แพร์ก็เลยยอม"
คือเราบอกว่าเราโอเคที่เขาจะไปเป็นดาราและยินดีเลิก แล้วทำไมถึงได้ออกมาโพสต์ข้อความ ?
"คือเขายังทำตัวเหมือนปกติค่ะ เขาทำเหมือนแพร์ยังเป็นแฟนเขาทุกอย่าง เขายังมาบอกกับแพร์ว่าเขาไม่มีใคร เขายังรู้สึกกับแพร์เหมือนเดิม ไม่อยากให้แพร์หายไปไหน คือมันเหมือนกับว่าความรู้สึกแพร์ตอนนั้น มันเหมือนเราโดนรถสิบล้อชนตอนที่เขาบอกเลิกไปแล้ว และในขณะที่เรากำลังเยียวยาตัวเองได้เขาก็ถอยรถสิบล้อคันนั้นกลับมาชนซ้ำอีก เพราะแพร์มารู้ทีหลังว่าจริงๆ แล้วเขาก็คุยกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ และเขาจะมาพูดกับแพร์แบบนี้ทำไม ทำไมคุณไม่ให้แพร์ไปไหน คุณบอกว่าคุณรักแพร์รักลูก แต่จริงๆ คุณรักตัวเอง"
"อีกสาเหตุหนึ่งเลยก็คือแพร์ไม่อยากให้ผู้ชายแบบนี้ไปทำกับใครอีก แพร์ไม่ได้หึงหวงหรือกลัวจะโดนเทเลย แพร์รู้ดีในสังคมมีคนแบบนี้เยอะแต่ที่ยังลอยนวลได้ก็เพราะเขาไม่ได้เป็นดารา แต่กับผู้ชายคนนี้การเป็นดารามันคือจุดอ่อนของเขาที่เขากลัว และมันก็เป็นจุดที่เขาเอามาทำร้ายผู้หญิง เพราะการที่เขาเป็นดาราผู้หญิงที่ไหนก็อยากจะเข้าหา ดังนั้นภาพที่คุณสร้างไว้มันดูดีมาก แต่มันก็มีอีกมุมที่ฉันเห็นอยู่แค่คนเดียว ฉันก็ขอประกาศให้โลกรู้ไปเลยล่ะกันนะคะมันที่คุณไม่ดีมันเป็นยังไง ซึ่งหลังจากที่แพร์โพสต์ออกไปก็มีหลายคนส่งข้อความเข้ามาว่าเขาก็เคยโดนผู้ชายคนนี้หลอกเหมือนกัน"
แล้วทำไมเราถึงเลือกเรื่องที่เขาทำร้ายลูกออกมาแฉด้วย ?
"คือถ้าออกมาประกาศแค่ว่าเขานอกใจฉันมันก็เหมือนกับแค่เรื่องทั่วไป เพราะสังคมสมัยนี้มันมีเยอะมาก แต่เรื่องลูกมันคือเรื่องละเอียดอ่อน และมันคือเรื่องจริง ซึ่งแพร์ไม่ผิดที่แพร์จะเอาออกมาพูด แต่เขาทำร้ายลูกแค่ครั้งเดียวนะคะ"
ตอนที่เขาทำร้ายลูกเขาไม่ได้เมาอะไรใช่ไหม ?
"อาจจะเครียดมากกว่าค่ะ"
การที่เราโพสต์เราแค่อยากตัดเขาออกไป ไม่ได้อยากให้เขาแสดงความรับผิดชอบ ?
"ไม่อยากให้เขาแสดงความรับผิดชอบเลยค่ะ ถ้าอยากให้เขาแสดงความรับผิดชอบแพร์ไม่โพสต์ดีกว่า อีกอย่างที่ผ่านมาเขาเองก็ไม่เคยแสดงความรับผิดชอบอะไรอยู่แล้ว ดังนั้นถึงโพสต์ไม่โพสต์ความรับผิดชอบก็เหมือนเดิม คือแพร์ดูแลลูก"
เห็นว่าเราต้องทำขนมเลี้ยงลูกด้วย ?
"ใช่ค่ะ แพร์ทำขนมแบรนด์ตัวเองขายออนไลน์ เพิ่งจะเริ่มทำเลยเพราะมันไม่มีอาชีพไหนที่เราจะสามารถหอบลูกไปทำงานได้ ถึงแม้รายได้จะไม่ได้มาก แต่เราก็มีความสุขค่ะ"
จริงๆ เขาเคยให้เงินช่วยเหลือค่าใช้จ่ายบ้างไหม ?
"เขาบอกว่าเขาให้ได้ตามกำลังเขาค่ะ เอาจริงๆ แพร์ก็ขอนะ ขอเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการผ่อนรถกับของใช้ลูก แต่ค่าใช้จ่ายของแพร์เขาไม่ต้องให้เลย แพร์หากินเองได้"
ฟีดแบคหลังจากที่เราโพสต์ออกไปเป็นยังไงบ้าง ?
"ฟีดแบคจากทางเขาแพร์ไม่รู้เลยเพราะแพร์ไม่ได้ติดต่อไปหาเขา แต่มีค่ะที่เขาโทรมาวันนั้นที่แพร์โพสต์ ซึ่งแพร์ก็บล็อกไป คือแพร์ไม่อยากรับรู้แล้วว่าอะไรเป็นยังไง แพร์แค่อยากให้แพร์เป็นเคสสุดท้ายที่เขาทำก็พอ"
อย่างข้อความแชทที่ออกมาและเขาเขียนว่าเรามีคนอื่น อันนี้คือเรื่องจริงหรือเปล่า ?
"เขากลัวค่ะ กลัวว่าแพร์จะไปแอดเพื่อนเขา เขากลัวเพื่อนเขารู้ว่าเขามีลูกกับแพร์ ดังนั้นเขาก็เลยทำเป็นสไตล์ว่าหึงหวง แต่จริงๆ ก็คือกลัวเพื่อนเชื่อมโยงได้ว่าเขามีครอบครัว"
ล่าสุดที่พ่อเขามีความเคลื่อนไหวและโพสต์ข้อความออกมา เรารู้สึกยังไงบ้าง ?
"แพร์เพิ่งเห็นเมื่อสักครู่นี้เหมือนกันค่ะ และแพร์ก็อยากจะบแกตรงนี้เลยนะคะเผื่อเขาได้ยิน "แพร์ชอบเผชิญหน้ากับความจริงมากค่ะ ไม่อย่างนั้นแพร์ไม่นั่งอยู่ตรงนี้หรอก""
เหมือนก่อนหน้านี้พ่อเขาไม่รู้ว่าเขามีลูกมีครอบครัวกับเรา ?
"ใช่ค่ะ คนที่รู้มีแค่บ้านเขา น้าเขา กับฝ่ายแม่เขาค่ะ ถามว่าทำไมแพร์ถึงยอมให้เขาไม่รู้ ก็คือมันไม่มีผลกระทบอ่ะค่ะ เพราะถึงเขารู้และเขาไม่ได้ช่วยเหลือเรามันก็ไม่ได้มีค่าอะไร เรารับผิดชอบตัวเองดีกว่า"
จริงๆ การที่เขาเปิดเรื่องเราไม่ได้เป็นเพราะต้นสังกัดเขาขอไว้หรือเปล่า ?
"แพรก็ไม่รู้นะคะ หรือเป็นเพราะดาราอาจจะยังมีลูกไม่ได้ หรือเขาอยากตัดไฟตั้งแต่ต้นลมโดยการเลิกกับเราดีกว่า แต่อย่างที่บอกค่ะถ้าเขาไปเลยไปตั้งแต่ตอนที่บอกเลิก ไม่ถอยรถสิบล้อกลับมาทับพแพร์อีก มันก็คงไม่ออกมาเป็นแบบนี้"
รู้สึกยังไงบ้างที่ตอนนี้ผู้ใหญ่ก็สั่งพักงานเขาไปแล้ว ?
"แพร์ก็ไม่ได้อยากให้เขาถูกสังคมลงโทษถึงขนาดตัดอนาคต หรือไม่ให้งานเขานะคะ แพร์แค่อยากให้เขาแก้ไขตัวเองได้ ปรับปรุงตัวเองได้ แพร์เห็นใจเขานะเพราะแพร์ก็มีลูกชาย แพร์ก็มีแม่ และสิ่งที่แพร์อยากโพสต์แพร์ก็แค่อยากให้คนรู้ว่าเขาทำร้ายร่างกายนะ เขามีผู้หญิงอื่นนะ แพร์ไม่ได้อยากให้ใครต้องมาเป็นเหยื่ออารมณ์เขาอีก"
จะมีโอกาสใจอ่อนกลับไปคืนดีกันอีกไหม ?
"ไม่มีแล้วค่ะ แต่ถ้าความเป็นพ่อกับลูกแพร์ให้เขากับลูกเป็นคนตัดสินใจค่ะ"
เอกสารรองรับบุตรเขาเซ็นต์รับด้วยหรือเปล่า ?
"มีค่ะ มีในใบเกิดเป็นชื่อเขา คือแพร์เป็นคนขอเขาไว้ เพราะแพร์มองว่ามันจำเป็นสำหรับลูก แพร์ไม่ได้คิดอะไรแพร์ขอแค่ให้มีชื่อเขาแค่นั้นจริงๆ เรื่องเงิน เรื่องทองแพร์ไม่เอาก็ได้ ขอแค่ให้เขาเซ็นต์เพื่อลูก"
ถ้าครอบครัวเขาขอคุยหรือติดต่อมาเราโอเคไหม ?
"ไม่ต้องติดต่อมาค่ะ แพร์ไม่ติดต่อด้วย และแพร์ขออย่างเดียวอย่าพูดอะไรที่กระทบแพร์กับลูกแค่นั้น ส่วนอื่นคุณจะพูดอะไรให้ตัวเองดูดีหรือกลับมาในสังคมยังไงก็ได้แพร์ไม่ว่าค่ะ"
ลูกรู้ไหมว่าพ่อคือใคร ?
"รู้ค่ะ เพราะลูกเพิ่งจะเริ่มพูดเก่งขึ้น เริ่มถามว่าป๊าไปไหน ป๊าเที่ยว (ยิ้ม)"
เราอยากบอกอะไรเขาไหม ?
"อยากบอกว่าคุณรู้ดีว่าผิดชอยชั่วดีเป็นยังไง คุณเข้าวัดเข้าวาคุณรู้หมด แต่ถ้าคุณไม่เอามาปฏิบัติเอามาใช้ ต่อให้คุณเลิกกับชั้นไปคุณก็ยังเป็นอยู่แบบนี้ คือเราอาจจะไม่ใช่คู่แท้ แต่ชีวิตความเป็นพ่อมันจะติดตัวคุณไปตลอด ลูกก็ยังรู้ว่าคุณคือพ่อ ดังนั้นมันก็อยู่ที่คุณแล้วว่าคุณจะทำตัวเป็นพ่อไหม"