"ทัพกีฬาไทย" ยังแรงเดินหน้าโกยเหรียญ "พาราลิมปิก2016"
ความเคลื่อนไหวการแข่งขันกีฬา "พาราลิมปิกเกมส์ 2016" ที่ นครรีโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล เมื่อช่วงเช้าวันที่ 17 ก.ย. ที่ผ่านมา (ตามเวลาไทย) เป็นการชิงชัยเหรียญทองในวันที่เก้า โดยทัพนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย ยังมีโปรแกรมลงแข่งขันอย่างต่อเนื่องพร้อมสามารถฝ่าด่านเข้าไปลุ้นเหรียญในหลายชนิดกีฬา อาทิ บอคเซีย, ว่ายน้ำ, กรีฑา-วีลแชร์เรซซิ่ง และ เทเบิลเทนนิส พร้อมกันนี้ยังสามารถคว้าเหรียญรางวัลเพิ่มได้อย่างต่อเนื่อง
นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากภาพรวมการแข่งขันทั้งหมดจนถึง ณ เวลานี้ ต้องบอกว่าเป็นผลงานที่น่าภูมิใจอย่างยิ่ง เพราะในครั้งนี้นักกีฬาของเราสามารถทำผลงานได้เกินเป้าหมายที่วางไว้ อีกทั้งผลงาน 6 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน และ 6 เหรียญทองแดง ยังถือเป็นประวัติศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่ ที่เป็นการคว้าเหรียญทองมากที่สุดทำลายสถิติ เมื่อปี 2000 ที่เราเคยทำไว้ 5 ทอง 2 เงิน 2 ทองแดงลงได้และเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมมาก แล้วแม้จะยังไม่จบการแข่งขันก็ตาม
"สำหรับความสำเร็จในครั้งนี้เกิดจากการเตรียมตัวทีดี่ ซึ่งในอนาคตผมเองมั่นใจว่านักกีฬาเราจะทำผลงานได้ดียิ่งขึ้นกว่านี้และอยากให้ภาครัฐและเอกชนเข้ามาร่มสนับสนุนกันให้มากยิ่งๆขึ้น และจากผลงานของนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทยที่ออกไปทางสื่อต่างๆ นั้นคนไทยน่าจะรู้ดีว่า ทำให้ทุกๆคนมีความสุขมากขนาดไหน ส่วนในจุดที่ต้องพัฒนาอย่างเร่งด่วนคือการพัฒนานักกีฬาดาวรุ่งในก้าวขึ้นมาทดแทนนักกีฬารุ่นพี่ให้ได้เร็วที่สุด เพราะนักกีฬาปัจจุบันของเราต่างมีอายุมากหลายคน ซึ่งนักกีฬากลุ่มนี้ก็จะเป็นที่เลี้ยงที่ดีให้กับรุ่นน้อง เหมือนกับคู่ ประวัติ-พงศกร ที่ฝึกซ้อมร่วมกันจนประสบความสำเร็จทั้งคู่" โดยกีฬาไฮไลต์อยู่ที่บอคเซีย ประเภทบุคคล บีซี 2 รอบชิงชนะเลิศ ซึ่ง วัชรพล วงษา และ วรวุฒิ แสงอำภา 2 นักโยนลูกนิ่มหนุ่มทีมชาติไทยผ่านเข้ามาชิงชนะเลิศกันเอง
ซึ่งเกมการแข่งขันในคู่นี้ทั้งสองคนออกมาโยนลูกทำแต้มสู้กันอย่างสนุกตลอด 4 เกม ก่อนที่จะเป็น วัชรพล วงษา แม่นยำกว่าในเกมสุดท้าย พลิกกลับมาเฉือนชนะไปได้แบบหวุดหวิด 5-4 คะแนน พร้อมคว้าเหรียญทองที่ 6 ให้ทัพไทยได้สำเร็จ
ส่วน วรวุฒิ ได้เหรียญเงินปลอบใจ และเหรียญทองแดงเป็นของ หย่าง ซี เกียง จากจีนที่เอาชนะ จอง โซ ยอง จากเกาหลีใต้ ในรอบชิงที่สาม 5-4 คะแนน ส่วนในประเภทบีซี 4 รอบชิงเหรียญทองแดง ซึ่งมี พรโชค ลาภเย็น นักบอคเซียหนุ่มทีมชาติไทย ลงดวลกับ โซ ฮยอน ซอก จากเกาหลีใต้ โดยเกมนี้ พรโชค โชว์ฟอร์มโยนลูกได้อย่างแม่นยำเหนือชั้นกว่าหลายขุมต้อนเอาชนะไปได้แบบสบายๆ 8-1 คะแนน พร้อมคว้าเหรียญทองแดงมาครองได้สมใจ ส่วนรอบชิงชนะเลิศ วิง เลือง ยุค จากฮ่องกง คว้าเหรียญทองหลัง ชนะ ซามูเอล แอนด์ราจซิค จากสโลวาเกียไปได้ 4-3 คะแนน
ด้าน เทเบิลเทนนิส ประเภททีมชาย คลาส 3 รอบชิงเหรียญทองแดง ซึ่งทีมไทย ที่ประกอบด้วย อนุรักษ์ ลาววงษ์ และ ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตบกรุ่ยทางเข้ามาลงเล่นในรอบนี้ได้ โดยลงดวลกับ ทีมนักปิงปองเจ้าถิ่น บราซิล ที่ประกอบด้วย เคนาฟ เวลเดอร์ กับ เดวิส แอนดาร์เด้ เดอ เฟียร์ทัส และในเกมการแข่งขันรอบนี้ในแบบ 2 ใน 3 คู่ ผลปรากฎว่า คู่หูนักตบลูกเด้งหนุ่มไทยสามารถทำผลงานสุดยอดไล่ตบเอาชนะ ทีมลูกเด้งเจ้าภาพได้แบบราบคาบ 2-0 คู่
โดยประเภทคู่ อนุรักษ์ ลาววงษ์ และ ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น ตบเอาชนะ คู่เจ้าภาพ 3-2 เกม (5-11,11-5,11-3,7-11,11-9), จากนั้นในประเภททีมเดี่ยวมือ 1 ยุทธจักร ตบเอาชนะ เคนาฟ เวลเดอร์ ไปได้ 3-0 เกม (11-2,11-2,11-7) พร้อมกับคว้าเหรียญทองแดงมาครองได้สำเร็จ
กรีฑา ในประเภทวีลแชร์ซิ่ง นักกีฬาไทย มีโปรแกรมแข่งขัน 2 รายการ เป็นรอบคัดเลือกทั้งหมด คือ วีลแชร์ผลัด 4x400 ม. ชาย ที 53-54 รอบคัดเลือก ซึ่งทีมไทย ส่ง 4 นักซิ่งวีลแชร์ทีมชาติไทย นำโดย สายชล คนเจน, เรวัตร์ ต๋านะ, พงศกร แปยอ และ ประวัติ วะโฮรัมย์ ซึ่งก็ไม่ทำแฟนกีฬาช่วงไทยผิดหวัง ช่วยกันควบวีลแชร์ทำผลงานได้สุดยอดอีกครั้งด้วยการมาเป็นอันดับ 1 ด้วยเวลา 3.08.37 นาที โดยเอาชนะ ทีมผลัดจากเกาหลีใต้ และ แคนนาดา ที่ตามเข้ามาเป็นอันดับ 2 และ 3 ตามลำดับไปแบบขาดลอย พร้อมทะยานผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปลุ้นเหรียญทองที่ 7 ให้กับทัพไทยอีกครั้ง
ขณะที่ในรายการวีลแชร์ 100 ม. ชาย ที 54 รอบคัดเลือก ซึ่งมี "โอ๊ต" สายชล คนเจน นักซิ่งวีลแชร์ทีมชาติไทย ที่คว้าไปแล้ว 1 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง ก่อนหน้านี้ ลงล่าเหรียญรางวัลเหรียญที่ 3ให้กับตัวเอง โดย สายชล ลงแข่งขันในรอบคัดเลือก ฮีทที่สอง และนักซิ่งวีลแชร์ความหวังของไทย ก็สามารถผลงานได้ดีสามารถซิ่งเข้าเส้ยชัยมาเป็นอันดับ 3 ด้วยเวลา 14.44 วินาที พร้อมตีตั๋วผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปได้สำเร็จ
กีฬาประเภทลาน กระโดดสูง ชาย คลาส ที 47 ซึ่งมี อังคาร ชนะบุญ ลงแข่งขันในรายการนี้ด้วย ซึ่งอังคาร สามารถโชว์ฟอร์มทำผลงานได้ดีทีเดียว โดยสามารถกระโดดทำความสูงได้ถึง 1.96 ม. เป็นอันดับ 4 ของการแข่งขันโดยแพ้อันดับ 3 อารอน แชทแมน จากจากออสเตรเลีย ที่กระโดดทำความสูงได้ 1.99 ม. ไปเพียงแค่ 3 เซนติเมตรเท่านั้น ส่วนเหรียญทอง โรเบิร์ต โรโดริค ทาวเซ็น จากสหรัฐฯ สถิติ 2.09 ม. และ เหรียญเงิน ฮง จี ชาน จากจีน สถิติ 1.99 ม. (กระโดดทำสถิติได้ก่อน)
ส่วนกีฬาว่ายน้ำ ซึ่งมี 2 นักว่ายน้ำทีมชาติไทย ประกอบด้วย "น้องปิ่น" อัญชญา เกตุแก้ว และ สมชาย ดวงแก้ว ลงแข่งขันรอบคัดเลือกใน 2 รายการ โดยรายการแรก กรรเชียง 100 ม. หญิง คลาส เอส 9 ปรากฎว่า อัญชญา เกตุแก้ว ที่ลงว่ายฮีทแรกในช่องว่ายที่ 2 ทำผลงานได้ไม่ดีนัก แตะขอบสระได้เป็นอันดับ 5 ของการแข่งขันด้วยเวลา 1.21.66 นาที ไม่ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ
รายการเดี่ยวผสม 150 ม. ชาย คลาส เอสเอ็ม 3 รอบชิงชนะเลิศ ซึ่ง สมชาย ดวงแก้ว สามารถฝ่าด่านลงล่าเหรียญรางวัลในรายการนี้ โดยลงว่ายช่องว่ายที่ 2 ซึ่งฉลามหนุ่มหนึ่งเดียวจากแดนสยามพยายามจ้วงสโตรกการว่ายอย่างเต็มที่ก่อนจบที่ 5 ด้วยเวลา 3.06.25 นาที ชวดเหรียญรางวัลไปอย่างน่าเสียดาย เหรียญทองตกเป็นของ เวิ่น เปง ฮง จากจีน สถิติ 2.40.19 นาที (ทำลายสถิติโลก) เหรียญเงิน ดิมิทรี ไวโนราเดทส์ จากยูเครน 2.40.75 นาทีและ ทองแดง เจียนปิง ดู จากจีน สถิติ 2.52.32 นาที
ทำให้ถึงตอนนี้ ทีมชาติไทย เก็บไปแล้ว 6 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน และ 6 เหรียญทองแดง รั้งอันดับที่ 20 ในการแข่งขัน พาราลิมปิกเกมส์ 2016