“แอมโมเนีย” ประโยชน์ การใช้ การเก็บ ทำอย่างไรให้ถูกต้อง ปลอดภัย
จากเหตุการณ์ก๊าซแอมโมเนียรั่วไหลจากโรงงานน้ำแข็งที่เขาค้อ จนต้องระดมเจ้าหน้าที่ใช้เครื่องพ่นน้ำฉีดควบคุมสถานการณ์ซึ่งก็สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว สำหรับแอมโมเนียนั้น หลายคนอาจยังไม่ทราบถึงประโยชน์ และโทษของมัน (กรณีใช้ไม่ถูกต้อง) ดังนั้นมาทำความรู้จักสารเคมีตัวนี้กันดีกว่า
แอมโมเนีย เป็นสารเคมีพื้นฐานที่มีประโยชน์อย่างมากทั้งต่อภาคเกษตรกรรมและภาคอุตสาหกรรม แต่ในขณะเดียวกันแอมโมเนียก็อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สิน และสิ่งแวดล้อมได้ ถ้าขาดความระมัดระวังในการใช้งาน การเก็บรักษา หรือการขนส่ง
สำหรับประโยชน์ของแอมโมเนียนั้นส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้ในการผลิตปุ๋ยแอมโมเนียไนเตรต และปุ๋ยยูเรีย นอกจากนั้นในภาคอุตสาหกรรมยังใช้เป็นสารทำความเย็นในอุตสาหกรรมห้องเย็น โรงน้ำแข็งและห้องแช่แข็ง รวมทั้งยังใช้แอมโมเนียเป็นวัตถุดิบในการทำเส้นใยไนลอน ใช้แอมโมเนียเป็นสารตั้งต้นในอุตสาหกรรมการผลิตกรดไนตริก ใช้ในอุตสาหกรรมชุบแข็งและเคลือบผิวโลหะ ฯลฯ
คำแนะนำในการเก็บแอมโมเนีย
ภาชนะบรรจุแอมโมเนียควรได้รับการรับรองอย่างถูกต้องจากหน่วยงานที่ดูแลไม่ว่าจะเป็นกรมโยธาธิการ กรมโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งมีทั้งแบบที่ไม่มีระบบทำความเย็นและแบบที่มีระบบทำความเย็น โดยทั้งสองประเภทจะต้องมีเครืองหมายพร้อมแผ่นป้ายอยู่บนด้านนอกที่มองเห็นได้ชัดเจน และต้องมีการระบุความจุของภาชนะ ความดันและอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการจัดเก็บ รวมถึงควรมีขีดบอระดับสูงสุดของแอมโมเนียที่สามารถบรรจุได้
ไม่เพียงแต่การให้ความสำคัญกับภาชนะเท่านั้น แต่ห้องเก็บแอมโมเนียก็ยังมีความสำคัญ สถานที่เก็บต้องติดป้ายแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน โดยตั้งอยู่ห่างจากสถานที่ทำงานที่มีคนทำงานหนาแน่น และควรมีการควบคุมการเข้าออกอย่างรัดกุม ห้องที่เก็บควรมีอุณหภูมิเย็น อากาศถ่ายเทเพียงพอ ผนังห้องควรสร้างจากวัตถุดทนไฟ มีทางเข้าออกเพื่อกรณีดับเพลิงได้อย่างสะดวก นอกจากนั้นในบริเวณที่เก็บควรปราศจากวัสดุลุกติดไฟง่าย เช่นลังกระดาษ เศษไม้ ถ้าเป็นแอมโมเนียแบบติดตั้งถาวรต้องอยู่ห่างจากบ่อน้ำหรือแหล่งน้ำดื่ม น้ำใช้อย่างน้อย 15 เมตร
แนวทางปฏิบัติเมื่อเกิดการรั่วไหลและเกิดอัคคีภัย
การช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ
- กรณีที่แอมโมเนียสัมผัสตา ให้รีบล้างออกด้วยน้ำปริมาณมากๆ โดยเปิดน้ำให้ไหลผ่านตา อย่างน้อย 15 นาที แล้วรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว
- กรณีที่แอมโมเนียสัมผัสผิวหนังล้างออกด้วยน้ำสบู่และน้ำถ้าเกิดแผลใหญ่เนื่องจาก ความเย็น ห้ามถูหรือราดน้ำบริเวณนั้นให้รีบนำส่งแพทย์ทันที
- กรณี หายใจเอาก๊าซแอมโมเนียเข้าไป ควรรีบเคลื่อนย้ายออกจากที่เกิดเหตุไปไว้ในที่อากาศถ่ายเท ถ้าผู้ประสบเหตุหายใจอ่อนให้ใช้ออกซิเจนช่วยหายใจ นาน 2 นาที แต่ไม่เกิน 15 นาที แต่หากหัวใจหยุดเต้นให้ปั๊มหัวใจทันที
- กรณีกลืนกินแอมโมเนีย ให้บ้วนปากด้วยน้ำมากๆ และดื่มน้ำ 1 แก้ว และทำให้อาเจียนโดยใช้ยาขับเสมหะหรือวิธีการล้วงคอ ยกเว้น ในรายที่หมดสติ ให้รีบนำส่งแพทย์ทันที