
"อุจจาระตกค้าง" สาเหตุสารพัดปัญหาสุขภาพที่คุณคาดไม่ถึง
ใครๆ ก็ทราบดีว่าเรื่องของการขับถ่าย ถึงจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่แท้ที่จริงแล้วการขับถ่ายเป็นจุดเริ่มต้นของสุขภาพ จะสุขภาพดี หรือมีโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ก็สามารถเริ่มต้นสังเกตได้จากการขับถ่ายนี่แหละค่ะ
อุจจาระตกค้าง หมายถึงการที่เราขับถ่ายอุจจาระออกไปไม่หมด หากค้างอยู่ตามผนังลำไส้นานๆ เข้า อุจจาระจะติดแน่น ไม่หลุดออกไปง่ายๆ ถึงแม้จะมีอุจจาระล็อตใหม่ออกมาดันของเก่า แต่อุจจาระที่ติดแน่นอาจจะไม่หมดออกไปจากลำไส้ด้วย หากอุจจาระล็อตใหม่เหลวกว่า ก็แทรกตัวออกไปทางทวารหนักก่อน อุจจาระที่ตกค้างอยู่ ก็จะค้างอยู่อย่างนั้น ซึ่งส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างที่คาดไม่ถึงเลยทีเดียว
ใครที่มีความเสี่ยงที่จะมีอุจจาระตกค้าง
อันตรายจากอาการอุจจาระตกค้าง
หากอุจจาระตกค้างมากยิ่งขึ้น จนไปกดทับเส้นเลือดต่างๆ ในกระเพาะอาหาร และกดทับกระดูกสันหลัง อาจทำให้เกิดความผิดปกติต่อร่างกายได้ เช่น
- ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องผูกเรื้อรัง
- ปวดเมื่อยตามร่างกาย เช่น ปวดหลัง ปวดขา ปวดกล้ามเนื้อไหล่ และสะบัก
- เวียนหัว อ่อนเพลีย
- นอนไม่หลับ
- ผิวเป็นฝ้า
- มีอาการปวดหัวไมเกรน
นอกจากนี้ยังมีวิธีตรวจหาอุจจาระตกค้างในลำไส้ได้ด้วยตัวเองมาฝากด้วยค่ะ
คลำบริเวณท้องด้านซ้ายล่าง ระดับใต้สะดือเล็กน้อย ใช้นิ้วมือลองกดๆ ลงไปลึกๆ คลำหาท่อนยาวๆ ในลำไส้ ยิ่งคนผอมจะยิ่งคลำเจอง่ายกว่าคนเจ้าเนื้อ หากกดไม่ถึง หรือกดหาไม่เจอ ลองนอนหงาย แขม่วพุง แล้วคลำๆ กดๆ หาอีกครั้ง
วิธีป้องกันไม่ให้มีอุจจาระตกค้าง
เรื่องของการขับถ่ายอาจเป็นเรื่องน่าอายหากจะพูดคุยกับคนทั่วไป แต่เป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อระบบร่างกายภายใน ซึ่งอาจทำให้มีปัญหาในการดำเนินชีวิตในอนาคตได้ เพราะฉะนั้นกันไว้ดีกว่าแก้นะคะ อย่าให้อุจจาระตกค้างมากจนถึงขั้นต้องปรึกษาแพทย์จริงจังจะดีกว่า