วิธีทำ Kokedama สวนทรงกลมสไตล์ญี่ปุ่น พื้นที่จำกัดก็เป็นสายเขียวได้
Kokedama เป็นหนึ่งในรูปแบบการจัดสวนของคนญี่ปุ่น โดยคำว่า koke หมายถึงมอส ส่วนคำว่า dama คือทรงกลม จึงเป็นการปลูกไม้ในกระถางด้วยมอสให้มีลักษณะเป็นทรงกลม จะนำไปวางบนแผ่นไม้ เปลือกไม้ หรือแผ่นกระเบื้องก็ได้ การจัดสวนแบบนี้เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่จำกัด หรือบ้านเล็กๆ ใครอยากลอง หรือชอบสวนสไตล์ญี่ปุ่นลองมาทำกันดู
จัดสวน Kokedama ที่บ้านอย่างไร
อุปกรณ์ที่จำเป็น
1.ดินปลูกบอนไซ
2.พีทมอส คือวัสดุปลูกที่เกิดจากการย่อยสลายของซากมอส และซากพืชที่ทับถมกันมานานนับพันปี มีลักษณะเป็นสีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงสีดำ เนื้อโปร่ง น้ำหนักเบา
3.สแฟคนัมมอส หรือมอสข้าวตอกฤาษี เป็นพวกพืชชั้นต่ำที่ขึ้นอยู่ในหนองน้ำ ได้ชื่อว่าเป็นฟองน้ำมีชีวิต เนื่องจากมีโครงสร้างพิเศษที่ช่วยให้สแฟคนัมมอสสามารถเก็บน้ำไว้ได้จำนวนมาก
4.เฟิร์น หรือพืชใกล้เคียง
5.เส้นใยปอกระเจานานาชนิด
6.กรรไกร
7.น้ำ
ขั้นตอนการทำ Kokedama
1.สร้างดินเป็นทรงกลมผสมพีทมอสและดินบอนไซเข้าด้วยกันในอัตราส่วน 7 : 3 ส่วน แล้วค่อยๆ เติมน้ำลงไปจากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากัน จนเกิดเป็นก้อนดินที่ติดกันให้มีขนาดเท่ากับลูกส้มโอลูกใหญ่
2.ห่อเฟิร์นด้วยมอสแช่สแฟคนัมมอส ในน้ำจนชื้นแล้วล้างออก จากนั้นนำต้นเฟิร์นมาทำความสะอาดดินออกจากราก แล้วใช้สแฟคนัมมอสห่อรากและมัดเฟิร์นให้เป็นเกลียว
3.สร้างดินทรงกลมรอบๆ มอส บอลแบ่งดินทรงกลมออกมาประมาณครึ่งลูก แล้ววางต้นไม้ที่ห่อด้วยเฟิร์นไว้ตรงกลางของลูกดินที่แบ่งครึ่ง จากนั้นนำดินอีกด้านหนึ่งมาประกบแล้วปั้นเป็นลูกบอล ก่อนจะใช้แผ่นมอสห่อลูกบอลดินนั้นอีกครั้ง แล้วมัดเป็นเกลียว จากนั้นให้ฉีดน้ำ ถือว่าเสร็จเรียบร้อย
วิธีดูแล Kokedama
-วิธีดูแลสวนประเภทนี้ดีที่สุดคือการรดน้ำ เมื่อรู้สึกว่าลูกบอลเริ่มเบาให้รดน้ำ หรือให้สังเกตว่าปลายใบต้นไม้เริ่มเป็นสีน้ำตาลก็ควรรดน้ำได้แล้ว และให้ตัดส่วนสีน้ำตาลออกเพื่อป้องกันไม่ให้สีน้ำตาลกระจาย วิธีรดน้ำนั้นทำได้ง่ายคือให้แช่ลูกบอลลงในชามที่มีน้ำเปล่าทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที จากนั้นนำลูกบอลต้นไม้ไปวางบนกระชอนสักครู่เพื่อระบายน้ำส่วนเกินออก เมื่อน้ำไม่หยดแล้วก็พร้อมขึ้นแขวน
แต่หากต้นไม้ที่ปลูกใบเหลือง หรือมีเชื้อรา นั่นแสดงว่ามีน้ำมากจนเกินไป วิธีแก้ไขคือให้เล็มใบที่ติดเชื้อราออก หรือล้างออกด้วยการใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น
-เรื่องแสงสว่าง ลูกบอลมอสเหมือนกับพืชส่วนใหญ่ ต้องการแสงบางส่วนเพื่อการเจริญเติบโต แต่ก็ไม่ต้องมากจนเกินไป เนื่องจากพืชมีตะไคร่น้ำเป็นหลัก จึงอาจทำให้เกิดความแห้งมากขึ้น ดังนั้นจุดที่ควรแขวนลูกบอลต้นไม้ควรเลือกจุดกึ่งร่มกึ่งมีแสงในบ้าน
-ให้ปุ๋ยประมาณเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่จำเป็น สำหรับปุ๋ยที่ใช้คือปุ๋ยสำหรับพืชในร่มที่ละลายน้ำได้