วิธีทำความสะอาดท็อปเปอร์ที่นอน สะอาด ปลอดภัย หลับสบายไร้กังวล
การซักผ้าปูที่นอนทุกสัปดาห์อาจไม่เพียงพอ แต่สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาถึงเพิ่มเติมขึ้นคือสิ่งที่อยู่ใต้ผ้าปูที่นอนนั่นก็คือ "ท็อปเปอร์" ซึ่งวางทับอยู่บนที่นอนเพื่อช่วยรองรับแรงกระแทกประโยชน์ของท็อปเปอร์นั้นมีมากมาย แต่เราควรรู้วิธีทำความสะอาดทั้งคราบ และกลิ่นไม่พึงประสงค์ของท็อปเปอร์เพราะท็อปเปอร์สามารถสะสมไรฝุ่น และสารก่อภูมิแพ้อื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย
ท็อปเปอร์ทำความสะอาดได้หรือไม่
ท็อปเปอร์ที่นอนนั้นสกปรก แต่เราสามารถซักท็อปเปอร์ที่นอนได้จริงหรือไม่ คำตอบคือขึ้นอยู่กับวัสดุของท็อปเปอร์ของคุณ เพราะท็อปเปอร์มีหลากหลายประเภททั้งเมมโมรี่โฟม ผ้าฝ้าย ลาเท็กซ์โพลีเอสเตอร์ผสม ขนสัตว์ ขนเป็ด ซึ่งวิธีที่ดี่ที่สุดในการพิจารณาว่าคุณสามารถซักท็อปเปอร์ได้หรือไม่คือการดูคำแนะนำในฉลากกำกับการดูแล
แล้วควรทำความสะอาดท็อปเปอร์บ่อยแค่ไหน
คุณไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดท็อปเปอร์ทุกสัปดาห์ ต่างจากผ้าปูที่นอน และปลอกหมอนอันที่จริงการทำความสะอาดท็อปเปอร์ที่นอนบ่อยเกินไปอาจทำให้อายุการใช้งานสั้นลงได้ ตามหลักแล้วคุณควรทำความสะอาดท็อปเปอร์ของคุณทุกๆ 3 เดือน ขึ้นอยู่กับว่ามันสกปรกแค่ไหน
สัญญาณบ่งบอกว่าถึงเวลาทำความสะอาดท็อปเปอร์
เนื่องจากผ้าปูที่นอนของคุณคลุมท็อปเปอร์ไว้ จึงไม่ง่ายเสมอไปที่จะแยกแยะว่าเมื่อใดต้องทำความสะอาดท็อปเปอร์ของคุณ แม้ว่าคำแนะนำคือทุกๆ 3 เดือน แต่คุณอาจต้องทำความสะอาดเร็วกว่านี้หากคุณมีอาการแพ้ และคิดว่าท็อปเปอร์ของคุณมีคราบสกปรก โดยคุณควรหมั่นสังเกต
กลิ่น
หากท็อปเปอร์ของคุณเริ่มมีกลิ่น ซึ่งกลิ่นเหล่านั้นอาจมาจากเหงื่อ ซึ่งก็สามารถทำความสะอาดได้ด้วยการล้างออก หรือซัก อย่างไรก็ตามหากที่นอนของคุณเริ่มมีกลิ่นเหมือนเชื้อราก็เป็นสัญญาณที่บอกว่าถึงเวลาต้องซื้อท็อปเปอร์ตัวใหม่เพื่อเชื้อรานั้นเติบโตได้ในสภาพแวดล้อมที่ชื้นและยังเสี่ยงต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง การนอนทับบนท็อปเปอร์ที่มีเชื้อราอาจทำให้เกิดอาการไอ ปวดหัว ปวดข้อ เหนื่อยล้า และอื่นๆ
คราบ
แม้แต่รอยเปื้อนที่ยากที่สุดก็สามารถทำให้หายได้ด้วยการทำความสะอาดอย่างล้ำลึกเป็นระยะๆ ในกรณีที่คุณทำของบางอย่างหกใส่ท็อปเปอร์ สิ่งสำคัญคือต้องดูแลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายอย่างถาวร คราบก็ควรจัดการทันทีเพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถนำคราบออกไปได้อย่างง่ายดาย
การเปลี่ยนสี
หากคุณใช้ท็อปเปอร์ฟูกมาเป็นเวลานาน คุณอาจสังเกตเห็นการเปลี่ยนสีเป็นหย่อมๆ การเปลี่ยนสีมักเกิดจากเหงื่อ น้ำมันในร่างกาย หรือแม้แต่การหกเลอะเทอะ ซึ่งต่างจากคราบสกปรกตรงที่พวกมันสามารถทำความสะอาดจุดที่ยากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่อาจจำเป็นต้องทำความสะอาด
สิ่งที่ต้องเตรียมเพื่อทำความสะอาดท็อปเปอร์
-เครื่องดูดฝุ่น
-น้ำยาซักผ้า
-ขวดสเปรย์เปล่า
-เบกกิ้งโซดา
-น้ำส้มสายชูกลั่น
-ผ้าสะอาด
-น้ำเย็น
วิธีทำความสะอาดท็อปเปอร์ทีละข้ั้นตอน
1.ดูดฝุ่น
การดูดฝุ่นเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดในการกำจัดสิ่งสกปรก เศษผง ฝุ่นละอองและสารก่อภูมิแพ้อื่นๆ แต่เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ทำให้ท็อปเปอร์ของคุณเสียหาย การเลือกประเภทเครื่องดูดฝุ่นที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ เครื่องดูดฝุ่นแบบใช้มือถือที่มีหัวแปรงขนอ่อนหรือเครื่องดูดฝุ่นแบบน้ำเป็นเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการกำจัดสิ่งสกปรก
การเริ่มต้นดูดฝุ่น ก่อนอื่นให้วางท็อปเปอร์บนพื้นเรียบๆ จากนั้นดูดฝุ่นบริเวณผิวท็อปเปอร์ทั้งหมดเพื่อกำจัดฝุ่นละออง อย่าลืมดูดฝุ่นเป็นวงกลมเล็กๆ และเน้นที่รอยแยกเพื่อขจัดสิ่งสกปรก และเศษอาหารออกให้หม จากนั้นพลิกอีกด้านและทำแบบเดียวกัน
หากคุณใช้เครื่องดูดฝุ่นแบบน้ำ อาจต้องใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงในการทำให้แห้ง และควรเช็กให้แน่ใจว่าท็อปเปอร์คุณแห้งสนิทก่อนนำไปวางบนที่นอน
2.ทำความสะอาดเฉพาะจุด
คราบสกปรกเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติต่อทันทีที่คุณสังเกตเห็นเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ทิ้งรอยไว้ถาวร มีหลายวิธีในการขจัดคราบขึ้นอยู่กับว่าคราบมันคืออะไรและติดตัวหรือไม่
เบกกิ้งโซดาเป็นส่วนผสมยอดนิยมในการขจัดคราบและทำหน้าที่เป็นสารดับกลิ่นตามธรรมชาติ หากต้องการขจัดคราบ เพียงผสมเบกกิ้งโซดา 1 ส่วนกับน้ำเย็น 2 ส่วน ใช้ผ้าแห้งถูส่วนผสมเบาๆ ให้ทั่วบริเวณที่เปื้อน แล้วทิ้งไว้ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง จากนั้นเช็ดน้ำยาออกด้วยกระดาษทิชชู่จนบริเวณนั้นดูสะอาด หากท็อปเปอร์ที่นอนของคุณยังส่งกลิ่นแปลกๆ ออกมา ให้โรยเบกกิ้งโซดาให้ทั่วแล้วปล่อยทิ้งไว้ค้างคืนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด วันรุ่งขึ้นดูดท็อปเปอร์เพื่อขจัดอนุภาคเบกกิ้งโซดา
3.ทำให้แห้ง
ก่อนที่คุณจะวางแผ่นรองที่นอนเมมโมรี่โฟมกลับคืนบนที่นอน ปล่อยให้ผึ่งลมให้แห้งหากคุณใส่ท็อปเปอร์กลับเข้าไปก่อนที่มันจะแห้งสนิท ความชื้นส่วนเกินอาจดึงเชื้อราเข้ามาได้
วิธีดีที่สุดในการทำให้ท็อปเปอร์แห้งคือทิ้งให้ถูกแสงแดดส่องถึงโดยตรงจนกว่าจะแห้งสนิทหรือคุณอาจใช้เครื่องอบผ้าแบบใช้ความร้อนต่ำและตั้งเครื่องปั่นแห้งก็ได้ แต่ควรใช้ความระมัดระวังเพราะเครื่องอบผ้าอาจทำให้แผ่นรองเสียหายได้ ดังนั้นโปรดปฏิบ้ติตามคำแนะนำในการดูแลของผู้ผลิตเพื่อความปลอดภัย