วิธีกำจัดเชื้อราบนที่นอนด้วยของในบ้าน ทำง่าย นอนอย่างสบายใจ
การพบเชื้อราบนพื้นผิวของที่นอนนั้นเป็นสัญญาณที่บอกถึงปัญหาที่ใหญ่กว่าเชื้อราที่อยู่บนที่นอนหากสภาวะรอบๆ ที่นอนมีความอุ่น และชื้นเกินไป จะยิ่งทำให้พบเชื้อราอย่างรวดเร็ว ถ้าเชื้อราเกิดขึ้นในบริเวณขนาดเล็กอาจเหมาะสำหรับการกำจัดอย่างง่าย ดังนั้นมาดูกันว่าวิธีกำจัดเชื้อราบนที่นอนนั้นต้องทำอย่างไรบ้าง
อุปกรณ์
- เครื่องดูดฝุ่นแบบมือจับ
- เครื่องดูดฝุ่นบนพื้นพร้อมสายยาง และชุดแปรงทำความสะอาดเบาะ
- พัดลม
- แว่นตาป้องกัน หรือหน้ากากป้องกัน
- ถุงมือยาง
- เครื่องฟอกอากาศ
- ผ้าไมโครไฟเบอร์
- ชามขนาดเล็ก
- น้ำยาฆ่าเชื้อฟีนอล
- สารฟอกคลอรีน
- น้ำยาฆ่าเชื้อไพน์ออยล์
- ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์
- สเปรย์ฆ่าเชื้อ
- ถุงขยะ
ขั้นตอนการทำความสะอาด
เพื่อลดโอกาสที่คุณอาจจะเกิดอาการแพ้ต่อสปอร์ของเชื้อราให้สวมอุปกรณ์ป้องกันดวงตา คือหน้ากาก ถุงมือยาง สวมเสื้อผ้าที่สามารถโยนลงเครื่องซักผ้าได้ ถ้าเป็นไปได้ให้วางเครื่องฟอกอากาศไว้ในห้อง เพื่อช่วยดักจับสปอร์เชื้อราในอากาศ
ถอดผ้าปูที่นอนออกทั้งหมด รวมทั้งผ้ารองกันเปื้อนที่นอนแล้วซักด้วยน้ำร้อนจัดที่เหมาะสมกับเนื้อผ้า เติมสารฆ่าเชื้อ สารฟอกขาวคลอรีน สารฆ่าเชื้อน้ำมันสนหรือสารฆ่าเชื้อฟีนอลที่ปลอดภัยสำหรับใช้กับผ้า ผึ่งผ้าปูที่นอนให้แห้งด้วยความร้อนสูงสุดที่เหมาะสมกับเนื้อผ้าเป็นขั้นตอนสุดท้าย เพื่อให้แน่ใจว่าสปอร์ของเชื้อราถูกกำจัดไปแล้ว
ใช้เครื่องดูดฝุ่นแบบมือถือโดยเริ่มดูดฝุ่นจากปลายที่นอนด้านหนึ่ง และดูดฝุ่นบนพื้นผิวทั้งหมด แม้กระทั่งบริเวณที่ไม่มีรา อย่าลืมดูดฝุ่นด้านข้างที่นอน ถ้าเป็นไปได้ให้พลิกที่นอนแล้วตรวจดูอีกด้านเพื่อหาการเจริญเติบโตของเชื้อรา และดูดฝุ่นซับอีกรอบ เมื่อดูดฝุ่นเสร็จแล้วให้นำเครื่องดูดฝุ่นออกไปด้านนอกเพื่อลดโอกาสที่สปอร์ของเชื้อราจะแพร่กระจาย และเทถุงหรือถังเก็บฝุ่นแบบใช้แล้วทิ้งลงในถุงขยะ ปิดถุงขยะให้แน่นแล้วทิ้งลงในถังขยะกลางแจ้ง
บริเวณที่มีการเจริญเติบโตของเชื้อราต้องทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ที่จะฆ่าสปอร์คุณไม่ควรทำให้ที่นอนเปียกด้วยสารละลายเพราะอาจทำให้ที่นอนเสียหายได้ การฆ่าเชื้อราบนพื้นผิวที่นอนให้ผสมสารละลายไอโซโพรพิล แอลกอฮอล์ 50:50 กับน้ำ แล้วจุ่มผ้าสะอาดลงในสารละลายแล้วถูพื้นผิวที่ขึ้นราเบาๆ เป็นวงกลม
หลังจากทำความสะอาดและล้างแล้ว ให้ฉีดสเปรย์ทำความสะอาดผ้า ที่สามารถช่วยป้องกันเชื้อราบนพื้นผิวที่อ่อนนุ่มได้
นำที่นอนไปตากแดดโดยตรง เพื่อทำให้แห้งเร็วขึ้น และทั่วถึงที่สุด