เนื้อหาในหมวด สุขภาพ

“กล้วย” แต่ละชนิด มีประโยชน์และโทษต่างกันอย่างไร

“กล้วย” แต่ละชนิด มีประโยชน์และโทษต่างกันอย่างไร

กล้วยหอม กล้วยน้ำว้า กล้วยไข่ และกล้วยชนิดอื่น ๆ มีสารอาหารหลัก ๆ เหมือนกัน แต่บางอย่างก็ต่างกัน สุขภาพของบางคนอาจจะเหมาะกับกล้วยบางชนิดมากกว่า

ในฐานะผู้บริโภค เราคงทราบกันดีว่ากล้วยแต่ชนิด แต่ละสายพันธุ์ มีรสชาติใกล้เคียงแต่ก็แตกต่างกันไปชนิดที่บางชนิดปิดตากินก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นกล้วยพันธุ์ไหน นอกจากรสชาติและรูปร่างลักษณะภายนอกที่แตกต่างกันแล้ว ยังให้สารอาหารบางอย่างที่ต่างกัน และอาจจะเหมาะกับสุขภาพของแต่ละคนต่างกันด้วย

“กล้วย” แต่ละชนิด มีประโยชน์และโทษต่างกันอย่างไร

  • กล้วยหอม

    กล้วยหอม เป็นหนึ่งในกล้วยที่ให้ปริมาณมากที่สุดต่อ 1 ผล หลายคนจึงเลือกกินเป็นมื้ออาหารเช้า เพราะนอกจากจะอิ่มแล้ว กล้วยหอมยังให้พลังงานสูงด้วย เราจึงเห็นนักวิ่ง หรือนักกีฬากินกล้วยหอมก่อนหรือระหว่างการแข่งขัน เพื่อให้พลังงานแบบด่วนๆ นั่นเอง

    นอกจากนี้ กล้วยหอมยังช่วยให้คนเลิกบุหรี่ได้ง่ายขึ้นด้วย เพราะในกล้วยหอมมีวิตามินบี 6 บี 12 และโพแทสเซียม ที่ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัว และลดอาการเหวี่ยงจากการขาดนิโคตินของบุหรี่ได้เป็นอย่างดี ถ้าอยากกินกล้วยหอมเพื่อช่วยลดอยากบุหรี่ ควรกินมื้ออาหาร ที่เป็นช่วงที่อยากบุหรี่มากที่สุด
  • กล้วยน้ำว้า

    หากเป็นกล้วยน้ำว้าที่มีความสุกไม่มาก ติดห่ามๆ เล็กน้อย จะมีธาตุเหล็กสูง ช่วยสร้างเม็ดเลือด ป้องกันโรคโลหิตจาง นอกจากนี้กล้วยน้ำว้ายังมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินซี แคโรทีน ไนอะซิน และมีกากใยอาหารที่เหมาะสมและช่วยในการทำงานของระบบย่อยอาหาร ขับถ่ายได้สะดวกยิ่งขึ้นอีกด้วย
  • กล้วยไข่

    กล้วยไข่มีคุณสมบัติช่วยชะลอวัย เพราะมีวิตามินบี 1 บี 2 บี 6 บี 12 และสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อว่า เบต้าแคโรทีน ที่ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ได้เป็นอย่างดี 
  • กล้วยหักมุก

    กล้วยหักมุกมีผลใหญ่ ก้านยาว ปลายลีบแหลม มีสันเหลี่ยมและเปลือกหนากว่ากล้วยชนิดอื่นๆ กล้วยหักมุกมีสารที่ชื่อว่า ไซโตอินโดไซด์ ช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ อันเนื่องจากแผลในกระเพาะอาหารได้ดี

ข้อควรระวังในการกินกล้วย

แม้ว่ากล้วยจะมีประโยชน์ต่อร่างกายมาก และแตกต่างกันออกไปในแต่ละชนิด แต่สำหรับคนที่ชอบกินกล้วยเป็นประจำอาจต้องทราบเอาไว้ว่า กล้วยเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานสูงจากปริมาณน้ำตาลในกล้วย กล้วยหอม 1 ผลให้พลังงานราว 105 กิโลแคลอรี่ น้ำตาลราว 2.8 ช้อนชา ในขณะที่กล้วยลูกเล็กๆ อย่างกล้วยไข่ 2 ผล ให้พลังงาน 56 กิโลแคลอรี่ หรือน้ำตาลราว 2.2 ช้อนชา เช่นกัน ดังนั้นจึงควรจำกัดปริมาณของกล้วยที่กินต่อวันให้ดี อย่ากินมากเกินไป และกล้วยเหมาะกับการให้พลังงานก่อนออกกำลังกายได้ดีมาก

นอกจากนี้ควรเลือกกินเฉพาะกล้วยสุก เพราะกล้วยดิบจะมีแป้งมาก ย่อยยาก ทำให้ท้องอืด และท้องผูก เพราะเส้นใยอาหาร (เพคติน) ในกล้วยที่อาจไปดูดซึมน้ำในลำไส้ เมื่อลำไส้ไม่มีน้ำไปหล่อเลี้ยงกากอาหาร อุจจาระจึงแข็งตัวจนเกิดอาการท้องผูก

 

กินเจอย่างไร ไม่ให้อ้วน และไม่ขาดสารอาหาร

กินเจอย่างไร ไม่ให้อ้วน และไม่ขาดสารอาหาร

กินเจอย่างไรไม่ให้อ้วน แนะนำเคล็ดลับการเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ พร้อมวิธีควบคุมน้ำหนักระหว่างเทศกาลกินเจ เพื่อให้คุณกินอร่อยและเฮลตี้ได้ทุกวัน

เทศกาลกินเจ 2567 เริ่มวันไหน ควรเตรียมตัวอย่างไร พร้อมประวัติความเป็นมา

เทศกาลกินเจ 2567 เริ่มวันไหน ควรเตรียมตัวอย่างไร พร้อมประวัติความเป็นมา

เทศกาลกินเจ 2567 ตรงกับวันที่ 3-11 ตุลาคม 2567 รวมเป็นเวลา 9 วัน ทำไมเราต้องกินเจ กินเจแล้วได้อะไร แล้วเทศกาลกินเจถือกำเนิดขึ้นมาได้อย่างไร Sanook Health จะเล่าให้ฟังค่ะ

เช็กก่อนกิน “คีโตเจนิค” เหมาะกับใคร ใครควรกิน-ไม่ควรกิน

เช็กก่อนกิน “คีโตเจนิค” เหมาะกับใคร ใครควรกิน-ไม่ควรกิน

คีโตเจนิค คืออะไร หากคุณอยู่ในกลุ่มที่ไม่ควรกิน คีโตเจนิค ก็ควรลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่น เพราะอาจส่งผลอันตรายต่อร่างกายได้

ผู้ป่วย PTSD ภาวะป่วยทางจิตหลังถูกทรมาน จะเยียวยาจิตใจอย่างไร?

ผู้ป่วย PTSD ภาวะป่วยทางจิตหลังถูกทรมาน จะเยียวยาจิตใจอย่างไร?

อาการ PTSD คือ สภาวะป่วยทางจิตใจเมื่อเผชิญกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างร้ายแรง ส่งผลให้เกิดความเครียดอย่างมาก รู้จักกลุ่มเสี่ยงและการรักษา