เทคนิคใช้เครื่องปรับอากาศหน้าฝน ได้ทั้งอากาศเย็น สุขภาพดี ใช้งานยาวนาน
หลังจากที่เครื่องปรับอากาศภายในบ้านของเราต้องทำงานอย่างเต็มกำลังเพื่อมอบอากาศเย็นสบายตลอดช่วงฤดูร้อน และยังต้องรับบทหนักอย่างต่อเนื่องในการทำงานท่ามกลางสภาพอากาศที่แปรปรวนในช่วงฤดูฝนที่มีทั้งอากาศร้อน อากาศเย็น และความชื้น ซึ่งหากเครื่องปรับอากาศภายในบ้านไม่ได้รับการตรวจเช็กสภาพและการบำรุงรักษาที่เหมาะสม ก็อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานโดยรวม เช่น ทำความเย็นได้ช้าลง กินไฟมากขึ้น และยังอาจส่งผลให้อายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศสั้นลงอีกด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าสมาชิกทุกคนในครอบครัวจะได้สัมผัสอากาศที่เย็นสบายและช่วยดูแลสุขภาพ แม้ในวันที่สภาพอากาศนอกบ้านจะเต็มไปด้วยความเปียกแฉะ อีกทั้งยังรวบรวมวิธีการยืดอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศภายในบ้านให้ยาวนานยิ่งขึ้น แม้ต้องใช้งานในสภาพอากาศที่ยากต่อการคาดเดา ดังนี้
3 เคล็ดลับใช้เครื่องปรับอากาศหน้าฝน
ตั้งค่าเครื่องปรับอากาศด้วยอุณหภูมิและโหมดที่เหมาะสม
ในช่วงระหว่างฝนตกที่อุณหภูมิมักจะเย็นกว่าปกติ เราควรปรับอุณหภูมิภายในบ้านให้ต่ำกว่าอากาศภายนอก โดยอยู่ที่ประมาณ 18-23 องศา เพื่อให้คอยล์ระบายความร้อนได้ทำงาน และสามารถส่งลมเย็นภายในห้องได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความเย็นในช่วงฤดูฝน ควรเลือกตั้งค่าเครื่องปรับอากาศภายในบ้านด้วยการใช้โหมดไล่ความชื้น (Dry Mode) เพื่อขจัดความชื้นส่วนเกินภายในบ้าน ซึ่งจะช่วยมอบความเย็นพร้อมความแห้งสบาย ไม่ให้เกิดความรู้สึกเหนอะหนะ และเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ลมจากเครื่องปรับอากาศโดนตัวของคนในครอบครัวโดยตรง ซึ่งอาจส่งผลให้เจ็บป่วยได้ การดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศเพื่อความปลอดภัยในฤดูฝน
ด้วยสภาพอากาศชื้นซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดเชื้อราและกลิ่นอับ เราจึงควรทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ โดยควรล้างเครื่องปรับอากาศเป็นประจำทุก ๆ 6 เดือน นอกจากนี้ก่อนปิดใช้งานเครื่องปรับอากาศภายในบ้านในช่วงฤดูฝนควรใช้ฟังก์ชั่น Auto cleaning ไล่ความชื้นบนแผงคอยล์เย็น เพื่อป้องกันความชื้นสะสมในเครื่องปรับอากาศ ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่มีให้บริการอยู่ในเครื่องปรับอากาศภายในบ้านสำหรับในกรณีที่เกิดเหตุไฟฟ้าขัดข้องหรือไฟดับเป็นเวลานานจากฝนที่ตกหนัก แนะนำให้สับเบรกเกอร์เครื่องปรับอากาศลงก่อน และติดต่อช่างหรือศูนย์บริการใกล้บ้าน