เนื้อหาในหมวด สุขภาพ

7 สัญญาณที่บ่งบอกว่าเรานอนหลับไม่สนิท พร้อมวิธีแก้

7 สัญญาณที่บ่งบอกว่าเรานอนหลับไม่สนิท พร้อมวิธีแก้

แม้จะนอนครบ 8-10 ชั่วโมง แต่หากนอนหลับไม่สนิท นอนหลับไม่ลึกพอ อาจมีผลต่อสุขภาพ มาเช็กสัญญาณบอกว่าเรานอนหลับไม่สนิทพร้อมวิธีแก้กัน

7 สัญญาณที่บ่งบอกว่าเรานอนหลับไม่สนิท

ฝันร้ายหรือฝันบ่อย

การฝันร้ายหรือฝันบ่อยอาจรบกวนการนอนหลับ หรือทำให้หลับไม่สนิทและทำให้รู้สึกไม่สดชื่นในตอนเช้า

รู้สึกง่วงหรืออ่อนเพลียในตอนกลางวัน

แม้จะนอนครบ 8-10 ชั่วโมง แต่ยังรู้สึกง่วงหรือไม่มีพลังงาน อาจเกิดจากการนอนที่ไม่มีคุณภาพ เช่น การตื่นบ่อยหรือหลับไม่สนิท

ตื่นกลางดึกและใช้เวลานานกว่าจะหลับต่อ

การตื่นกลางดึกบ่อยๆ และใช้เวลานานกว่าจะหลับต่อ เป็นสัญญาณของการนอนหลับที่ไม่ต่อเนื่อง

นอนหลับยาก ใช้เวลานานกว่าจะหลับ

หากใช้เวลานานกว่า 30 นาทีในการหลับ อาจเป็นสัญญาณของปัญหานอนหลับยากหรือภาวะนอนไม่หลับ

ตื่นเช้ากว่าที่ตั้งใจและไม่สามารถหลับต่อได้

การตื่นก่อนเวลาที่ตั้งใจและไม่สามารถกลับไปนอนได้ อาจเป็นสัญญาณของปัญหาการนอนหลับหรือภาวะซึมเศร้า

รู้สึกไม่สดชื่นหลังตื่นนอน

แม้นอนครบ 8 ชั่วโมง แต่ยังรู้สึกเหนื่อยหรือไม่สดชื่น อาจเกิดจากการนอนหลับไม่สนิท

มีอาการปวดหัวหรือเครียดหลังตื่นนอน

การตื่นนอนพร้อมอาการปวดหัวหรือความเครียด อาจเป็นผลจากการนอนหลับที่ไม่เพียงพอ ร่างกายไม่ได้พักผ่อน 

วิธีแก้ไขปัญหาการนอนหลับไม่สนิท

ฝึกผ่อนคลายก่อนนอน

การหายใจลึก ๆ การทำสมาธิ หรือยืดกล้ามเนื้อเบา ๆ สามารถช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและพร้อมสำหรับการนอนหลับ ​

ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายเป็นประจำช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ แต่ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักก่อนนอน

รับแสงธรรมชาติในตอนเช้า

การสัมผัสแสงแดดในตอนเช้าช่วยปรับนาฬิกาชีวภาพและส่งเสริมการนอนหลับในเวลากลางคืน

จำกัดการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนนอน

แสงสีฟ้าจากหน้าจอมือถือหรือคอมพิวเตอร์จะไปรบกวนการผลิตเมลาโทนิน (ฮอร์โมนที่ช่วยในการนอนหลับ) ลองเปลี่ยนไปอ่านหนังสือเบาๆ หรือฟังเพลงช้าๆ แทน

กินอาหารเย็นเบา ๆ และไม่ดึกเกินไป

การกินอาหารมื้อหนักก่อนนอนอาจทำให้ระบบย่อยทำงานหนัก ส่งผลให้ “หลับไม่ลึก” หรือมีอาการจุกเสียดในตอนกลางคืน

หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และนิโคตินก่อนนอน

แม้แอลกอฮอล์จะทำให้รู้สึกง่วงในช่วงแรก แต่จริงๆ แล้วมันรบกวนการนอนหลับลึก ส่วนสารนิโคตินในบุหรี่ก็เป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้นอนหลับยาก

กินอาหารเย็นเบา ๆ และไม่ดึกเกินไป

การกินอาหารมื้อหนักก่อนนอนอาจทำให้ระบบย่อยทำงานหนัก ส่งผลให้หลับไม่ลึกหรือมีอาการจุกเสียดในตอนกลางคืน

ใช้กลิ่นบำบัด

กลิ่นลาเวนเดอร์ คาโมมายล์ หรือเซนต์จอห์นวอร์ต สามารถช่วยผ่อนคลายสมอง ลดความเครียด และทำให้หลับง่ายขึ้น

จัดห้องนอนให้เหมาะกับการพักผ่อน

ห้องนอนควรมีอุณหภูมิที่สบาย ไม่ร้อนหรือหนาวเกินไป ไม่มีเสียงรบกวน และควรจัดให้แสงน้อยเพื่อกระตุ้นการหลั่งเมลาโทนิน เพื่อเลี่ยงการหลับไม่สนิท 

สร้างกิจวัตรก่อนนอนให้เป็นกิจวัตรเดิมทุกวัน

การทำกิจกรรมเดิมๆ เช่น แปรงฟัน ดื่มน้ำอุ่น หายใจลึกๆ ฟังเพลงเบาๆ จะช่วยให้ร่างกายเรียนรู้ว่านี่คือ “เวลานอน”

ลองจด Sleep Diary

การบันทึกพฤติกรรมการนอนหลับ เช่น เข้านอน/ตื่นกี่โมง กินอะไร รู้สึกอย่างไร ช่วยให้เห็นรูปแบบปัญหาและหาทางแก้ได้ง่ายขึ้น

เลี่ยงการ “ฝืนหลับ” เมื่อไม่ง่วง

ถ้าข่มตานอนแล้วนอนไม่หลับ ให้ออกจากเตียงไปทำกิจกรรมผ่อนคลาย (เช่น อ่านหนังสือ) จนกว่าจะเริ่มง่วง แล้วค่อยกลับมานอนใหม่

หากปัญหานอนหลับเรื้อรัง ควรพบแพทย์

บางครั้งปัญหาอาจมาจากภาวะผิดปกติ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) หรือภาวะวิตกกังวล แพทย์สามารถแนะนำแนวทางรักษาที่เหมาะสมได้