
เดินออกกำลังกายตอนเช้าหรือตอนเย็นดีกว่ากัน
การเดินออกกำลังกายถือเป็นกิจกรรมเบสิคที่ให้ผลดีต่อหัวใจ กล้ามเนื้อ และสมอง แต่หลายคนยังลังเลว่า ควรเดินเวลาไหนดี จริงๆ แล้วไม่ใช่แค่เรื่องของเวลา แต่เป็นเรื่องของไลฟ์สไตล์ และเป้าหมายของการออกกำลังกายด้วย
ข้อดีของการเดินออกกำลังกายตอนเช้า
การเดินออกกำลังกายตอนเช้าเหมาะกับคนที่ต้องการเริ่มต้นวันอย่างสดชื่น การเดินตอนเช้าช่วยให้ร่างกายหลั่งเซโรโทนิน (serotonin) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยให้สมองตื่นตัว อารมณ์ดี และลดอาการซึมเศร้า นอกจากนี้ยังมีข้อดีเพิ่มเติม เช่น
- ช่วยเผาผลาญไขมันดีขึ้น โดยเฉพาะหากเดินก่อนอาหารเช้า
- กระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญ (metabolism) ตลอดวัน
- มีแนวโน้มว่าสม่ำเสมอมากกว่า เพราะยังไม่มีงานหรือกิจกรรมอื่นแทรก
- รับแสงแดดยามเช้า ช่วยตั้งนาฬิกาชีวิตให้หลับง่ายขึ้นตอนกลางคืน
อย่างไรก็ตาม อุณหภูมิตอนเช้าอาจต่ำและมีหมอกควันในบางฤดูกาล ควรหลีกเลี่ยงบริเวณถนนใหญ่ และวอร์มอัปร่างกายอย่างเพียงพอ
ข้อดีของการเดินออกกำลังกายตอนเย็น
การเดินออกกำลังกายตอนเย็นเหมาะกับผู้ที่ต้องการผ่อนคลายร่างกายและจิตใจหลังจากวันอันเหนื่อยล้า ร่างกายของคนเรามีอุณหภูมิสูงสุดในช่วงบ่ายถึงเย็น ทำให้กล้ามเนื้อยืดหยุ่นดีและเสี่ยงบาดเจ็บน้อยลง
- ช่วยลดฮอร์โมนความเครียด (cortisol)
- เผาผลาญพลังงานจากมื้อเย็นได้ดี
- ทำให้หลับสบายขึ้น โดยเฉพาะถ้าเว้นระยะอย่างน้อย 1–2 ชม.ก่อนนอน
- รู้สึกผ่อนคลายกว่าเพราะไม่เร่งรีบ
ข้อควรระวังคือควรหลีกเลี่ยงบริเวณที่แสงสว่างไม่เพียงพอ หรือถนนที่อาจไม่ปลอดภัย และไม่ควรออกกำลังกายหนักใกล้เวลานอนเกินไป เพราะอาจรบกวนการพักผ่อน
แล้วควรเลือกเดินเวลาไหนดี
คำตอบคือแล้วแต่เป้าหมายและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน
- หากคุณอยากกระตุ้นร่างกาย เพิ่มความสดชื่นในตอนเช้า ควรเดินออกกำลังกายตอนเช้า
- หากคุณอยากลดความเครียด และเผาผลาญหลังมื้อเย็น ควรเดินตอนเย็นจะเหมาะกว่า
สิ่งสำคัญกว่าคือ ควรทำได้อย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าคุณจะเลือกเดินตอนเช้าหรือตอนเย็น ขอแค่ออกกำลังกายเป็นประจำ ก็ได้สุขภาพที่ดีขึ้นแน่นอน