ดาวร้ายชื่อดัง "กิตติ ดัสกร" ขับรถตกคลอง ลูกสาวยันไม่ถึงขั้นโคม่า
หลังมีข่าวว่าดาวร้ายรุ่นใหญ่ “กิตติ ดัสกร” น้องชาย ดามพ์ ดัสกร ประสบอุบัติเหตุรถยนต์ตกคลอง ก่อนลูกสาวนำตัวส่งโรงพยาบาล และแพทย์ตรวจพบโรคแทรกซ้อน ทั้งความดัน เบาหวาน แต่มีบางกระแสลือว่ามีอาการโคม่า เป็นอัมพฤกษ์เดินไม่ได้
ด้าน “คิตตี้ ดัสกร” ลูกสาวของ “กิตติ ดัสกร” เผยผ่านเฟซบุ๊ก คิตตี้ ดัสกร ว่า คุณพ่อไม่ได้อาการหนักอย่างที่ข่าวออกไป ยังมีสติ รู้สึกตัวพูดได้ แต่เริ่มขาไม่มีแรงเพราะเคยประสบอุบัติเหตุและไม่ทำตามหมอสั่ง
"เอาเรื่องจริงนะบางข้อมูลก็ลงผิดเพี้ยน ยังไม่เป็นอัมพฤกษ์โคม่านะคะ หรือว่าเดินไม่ได้นะค่ะ แค่เริ่ม ถ้าเป็นคงกินข้าวไม่ได้ค่ะ นี่ยังทานข้าวได้แต่ต้องป้อนนิดนึง เพราะยังไม่ค่อยถนัด มีโอกาสหายค่ะ เพราะต้องทำกายภาพบำบัด ยังรู้สึกตัวอยุ่นะคะ ขาไม่มีเรี่ยวเเรง เนื่องจากไม่ทานยาตามหมอสั่งนานนานจะทานที แล้วปะป๋ามีละครสองเรื่องติดต่อกัน เทพสามฤดู กับ ขุนแผนแสนสะท้าน อดนอนค่ะ นอนน้อย ต้องท่องบททั้งคืน
ที่รับละครสองเรื่อง เนื่องจากต้องการที่จะ มีทุนไปทำการค้าขายเล็กๆค่ะ ประกอบธุรกิจเล็กๆ เพราะงานวงการบันเทิงป่ะป๋าเคยพูดว่า มันไม่แน่นอน คนใหม่ๆเข้ามาเยอะ อีกอย่างปะป๋าก็มีอายุค่อนข้างมากเเล้ว จะเจ็ดสิบเเล้ว นานๆ อาจจะมีละคร เล่นที จึงหักโหมทำงานหนัก ทำให้ตนเองนอนน้อย นอนวันละเเค่สามชั่วโมงร่างกายทรุดค่ะ แล้วทานข้าวไม่ตรงต่อเวลา มีโรคประจำตัวมีค่ะ เบาหวานเริ่มขึ้นตา ทำให้สายตาไม่ค่อยดีบางครั้งและชอบขับรถยนและรถมอไซค์ ช้อปเปอร์
ก่อนหน้านี้ เคยขับรถมอไซค์ชนฟุตปาทค่ะ เกิดอุบัติเหตุอยู่เป็นเดือน อาการสาหัส ลุกไม่ได้เลย ยาไม่ยอมทาน เลย ไม่ทำตามหมอสั่ง นานนานปะป๋าจะกินยาที เตือนเเล้วไม่เชื่อค่ะ ดื้อยา คิดว่าร่างกายตนเองแข็งแรงอยู่เสมอ พอนั่นทรุดค่ะ เพราะร่างกายขาดน้ำตาลไปหล่อเลี้ยงกระดูก ทำให้ขาไม่มีเรี่ยวเเรง ร่างกายขาดแคลเซี่ยม เลยมีอาการขาลุกไม่ขึ้นทั้งสองข้าง แขนขาขาดโปรตีน นมก็ไม่ค่อยทานค่ะ
และตอนนี้ ปะป๋า รับปากกลับหมอแล้วค่ะ ต่อไปจะทานยาตลอดชีวิต ทำตามแพทย์สั่ง ป๋าแกไม่ได้เป็นอัมพฤกษ์ขั้นรุนแรงนะคะ ไม่ได้อาการโคม่านะคะ ยังมีสติค่ะ รู้สึกตัวพูดได้อยุ่ค่ะ บางครั้งก็พูดชัดบ้างครั้งก็ไม่ค่อยชัด แต่พอให้น้ำเกลือเริ่มพูดชัดมากขึ้นค่ะ เพราะร่างกายได้นอนพักผ่อนเต็มที่เเล้วค่ะ แล้วปากก็ไม่มีอาการเบี้ยวเเล้วค่ะ ใช้เวลาซักพักร่างกายกลับมาเป็นปรกติค่ะ ขอบคุณค่ะเพื่อนๆที่ห่วงใย"