เนื้อหาในหมวด สุขภาพ

กินตับหมูอย่างไรให้ปลอดภัยและได้ประโยชน์

กินตับหมูอย่างไรให้ปลอดภัยและได้ประโยชน์

ตับหมูเป็นแหล่งสารอาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็กและวิตามิน A แต่หากกินไม่ถูกวิธีอาจเสี่ยงพยาธิและโลหะหนักได้ ไปรู้จักวิธีกินที่ถูกต้องกัน

ประโยชน์ของตับหมูที่ควรรู้

ตับหมูเป็นเครื่องในที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ประกอบด้วย

  • ธาตุเหล็ก ช่วยป้องกันโลหิตจาง

  • วิตามิน A บำรุงสายตาและผิวพรรณ

  • วิตามิน B12 ส่งเสริมการทำงานของระบบประสาท

  • โปรตีน ที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ

โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะขาดธาตุเหล็ก เช่น ผู้หญิงวัยมีประจำเดือนหรือผู้ที่ตั้งครรภ์ การกินตับหมูในปริมาณพอเหมาะจึงมีประโยชน์มาก

กินตับหมูอย่างไรให้ปลอดภัย

ล้างให้สะอาดก่อนปรุง

ควรล้างตับด้วยน้ำเกลือหรือแช่นมสด 15–20 นาที ช่วยลดกลิ่นคาวและขับเลือดตกค้างที่อาจมีสารตกค้างหรือพยาธิ

ปรุงให้สุกทั่วถึง

ตับต้องปรุงให้สุกเต็มที่ ไม่ควรกินแบบกึ่งสุกกึ่งดิบ เพราะอาจมีพยาธิ Fasciola hepatica หรือเชื้อโรคจากสัตว์สู่คน

เลือกแหล่งวัตถุดิบที่เชื่อถือได้

เลือกซื้อจากแหล่งที่สะอาด ได้มาตรฐาน เช่น ร้านค้าที่มีเครื่องหมาย อย. หรือร้านค้าปลอดสาร

ข้อควรระวังในการกินตับหมู

แม้ตับหมูจะมีสารอาหารมาก แต่ก็มีระดับคอเลสเตอรอลสูง และหากบริโภคมากเกินไปอาจสะสมวิตามิน A จนเกินความต้องการของร่างกาย ซึ่งในระยะยาวอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ผิวลอก ตับทำงานหนัก หรืออาการเวียนศีรษะ

คำแนะนำ:

  • ไม่ควรกินตับเกิน 1–2 ครั้งต่อสัปดาห์

  • ผู้ป่วยโรคเกาต์หรือคอเลสเตอรอลสูงควรหลีกเลี่ยง

  • หญิงตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภค

เมนูตับหมูเพื่อสุขภาพ

  • ตับหมูผัดพริกไทยดำ ใช้น้ำมันรำข้าว ปรุงสุกทั่วถึง

  • ตับหมูต้มข่า ใส่สมุนไพรช่วยลดกลิ่นคาว

  • ตับหมูลวกจิ้ม สำหรับคนควบคุมน้ำหนัก (แนะนำต้มจนสุกและจิ้มกับน้ำจิ้มใส่มะนาว)

ตับหมูคืออาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและดีต่อสุขภาพ หากรู้จักวิธีเตรียมและปรุงอย่างเหมาะสมก็สามารถนำมาเป็นส่วนหนึ่งของมื้ออาหารได้อย่างปลอดภัย ลดความเสี่ยงสารตกค้างและเพิ่มประโยชน์ให้กับร่างกายได้เต็มที่

ตับหมู ตับเป็ด ตับไก่ ตับวัว ต่างกันอย่างไร? เลือกให้เหมาะกับสุขภาพ

ตับหมู ตับเป็ด ตับไก่ ตับวัว ต่างกันอย่างไร? เลือกให้เหมาะกับสุขภาพ

เปรียบเทียบตับหมู ตับเป็ด ตับไก่ ตับวัว ต่างกันอย่างไร? สรุปข้อดี-ข้อเสีย พร้อมแนะนำตับชนิดที่เหมาะกับสุขภาพ กินอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุดตามหลักโภชนาการ