เนื้อหาในหมวด สุขภาพ

กินหอมใหญ่ดิบหรือสุกถึงจะดี? เคล็ดลับเลือกกินให้ได้ประโยชน์

กินหอมใหญ่ดิบหรือสุกถึงจะดี? เคล็ดลับเลือกกินให้ได้ประโยชน์

หอมใหญ่ เป็นผักที่อยู่คู่ครัวไทยมานาน ด้วยกลิ่นเฉพาะตัวและคุณประโยชน์ที่หลากหลาย แต่จะกินแบบไหนถึงจะดี? มาหาคำตอบในบทความนี้กัน

กินหอมใหญ่แบบไหนถึงจะดี

หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าหอมใหญ่มีสารอาหารที่ส่งผลดีต่อร่างกายมากมาย เช่น สารต้านอนุมูลอิสระ ฟลาโวนอยด์ เควอร์เซทิน (Quercetin) และกำมะถันธรรมชาติ ซึ่งช่วยลดการอักเสบ เสริมภูมิคุ้มกัน และลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง

หอมใหญ่ดิบ VS หอมใหญ่สุก แบบไหนดีกว่า?

  • หอมใหญ่ดิบ
    การกินแบบดิบจะช่วยคงสารอาหารไว้ได้มาก โดยเฉพาะสารเควอร์เซทินที่ช่วยลดความดันโลหิตและไขมันในเลือด อย่างไรก็ตาม หอมดิบอาจระคายกระเพาะหรือทำให้ท้องอืดได้ในบางคน ควรกินในปริมาณพอเหมาะ

  • หอมใหญ่สุก
    การผ่านความร้อน เช่น ผัด ต้ม หรืออบ อาจทำให้บางสารลดลง แต่จะช่วยให้ร่างกายย่อยง่ายขึ้นและลดกลิ่นฉุน เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาทางเดินอาหาร

วิธีทำให้หอมใหญ่คงคุณค่าสูงสุด

  • หากต้องการกินแบบสุก แนะนำให้ อบหรือตุ๋นด้วยไฟอ่อน แทนการทอด

  • หั่นแล้วทิ้งไว้ 5-10 นาที ก่อนปรุง จะช่วยให้สารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้น

  • ไม่ควรแช่หอมที่หั่นแล้วไว้นาน เพราะจะสูญเสียคุณค่าและอาจเกิดการปนเปื้อน

เมนูแนะนำจากหอมใหญ่ ทำง่าย ดีต่อสุขภาพ

การใส่หอมใหญ่ลงในอาหารประจำวันเป็นวิธีที่ช่วยเสริมสุขภาพแบบง่ายๆ ลองดูไอเดียเมนูเหล่านี้ได้เลย

1. สลัดหอมใหญ่สด

หั่นหอมเป็นเส้นบางๆ แช่น้ำเย็นเพื่อลดกลิ่นฉุน แล้วคลุกกับน้ำมันมะกอก น้ำมะนาว และเกลือเล็กน้อย

2. หอมใหญ่ตุ๋นซุปใส

ใส่หอมใหญ่ลงไปตุ๋นในน้ำซุปไก่หรือซุปผัก จะให้รสหวานตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องเติมผงชูรส

3. ข้าวผัดหอมใหญ่ไข่

เมนูง่ายๆ ที่หอมกรุ่น ทำโดยใช้หอมใหญ่ผัดกับไข่ ข้าว และซอสเล็กน้อย ได้ทั้งกลิ่นและความหวานตามธรรมชาติ

4. หอมใหญ่อบชีส

หั่นหอมเป็นวงๆ วางบนถาด อบพร้อมชีสและผักอื่นๆ เป็นเมนูว่างที่ทั้งอร่อยและดูดี

การเลือกกินหอมใหญ่ให้ได้ประโยชน์สูงสุดขึ้นอยู่กับวิธีการเตรียมและสภาพร่างกายของแต่ละคน หากคุณย่อยหอมดิบได้ดี การกินสดจะช่วยรักษาสารต้านอนุมูลอิสระได้มากที่สุด แต่การปรุงสุกอย่างเหมาะสมก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดในการย่อยอาหารเช่นกัน

วิธีลดกลิ่นปากจากกระเทียม สะตอ หอมหัวใหญ่ ทุเรียน กะปิ ปลาร้า

วิธีลดกลิ่นปากจากกระเทียม สะตอ หอมหัวใหญ่ ทุเรียน กะปิ ปลาร้า

รู้หรือไม่? กลิ่นกระเทียมในปาก สามารถอยู่ได้นานถึง 72 ชั่วโมง หรือ 3 วัน แล้วเราจะกำจัดกลิ่นกระเทียม รวมถึงสะตอ และอาหารกลิ่นแรงอื่นๆ ได้อย่างไร?