เนื้อหาในหมวด สุขภาพ

วิตามินบีรวม กินทุกวันได้ไหม? ช่วยเรื่องอะไร เหมาะกับใครบ้าง

วิตามินบีรวม กินทุกวันได้ไหม? ช่วยเรื่องอะไร เหมาะกับใครบ้าง

วิตามินบีรวม (Vitamin B Complex) คือกลุ่มวิตามินที่ร่างกายต้องการทุกวันเพื่อให้ระบบประสาท สมอง และการเผาผลาญทำงานเป็นปกติ ถึงแม้หลายคนจะได้จากอาหาร แต่ในบางช่วงวัยหรือบางอาชีพ การเสริมวิตามินบีรวมก็กลายเป็นสิ่งจำเป็น แล้วควรกินตอนไหน? มีผลข้างเคียงไหม? ควรกินทุกวันหรือเปล่า? มาหาคำตอบกัน

วิตามินบีรวม คืออะไร มีอะไรบ้าง?

วิตามินบีรวม (Vitamin B Complex) คือ กลุ่มวิตามินบี 8 ชนิด ได้แก่

  • B1 (ไทอามีน) – ช่วยเปลี่ยนน้ำตาลเป็นพลังงาน

  • B2 (ไรโบฟลาวิน) – บำรุงผิวและสายตา

  • B3 (ไนอะซิน) – ช่วยระบบย่อยอาหารและสุขภาพสมอง

  • B5 (แพนโทธีนิก แอซิด) – ซ่อมแซมเซลล์

  • B6 (ไพริดอกซีน) – ผลิตเซโรโทนิน ปรับสมดุลอารมณ์

  • B7 (ไบโอติน) – ดูแลผม ผิว เล็บ

  • B9 (โฟเลต/โฟลิก แอซิด) – สร้างเม็ดเลือดแดง สำคัญต่อหญิงตั้งครรภ์

  • B12 (โคบาลามิน) – บำรุงสมอง ป้องกันโรคโลหิตจาง

  • วิตามินบีรวม ช่วยเรื่องอะไร?

    วิตามินบีรวมช่วยในหลายระบบของร่างกาย ได้แก่

    • เพิ่มพลังงานและการเผาผลาญ

    • บำรุงสมอง ความจำ และสมาธิ

    • ลดความเครียด ปรับอารมณ์ให้นิ่งขึ้น

    • บำรุงผิว ผม เล็บ

    • ป้องกันโรคโลหิตจาง บำรุงเม็ดเลือดแดง

    • สำคัญต่อหญิงตั้งครรภ์ ช่วยพัฒนาสมองทารก

    • เสริมภูมิคุ้มกัน และสุขภาพโดยรวม

    วิตามินบีรวม เหมาะกับใคร?

    • คนที่เครียดง่าย พักผ่อนไม่พอ

    • ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์บ่อย

    • ผู้สูงอายุที่ดูดซึมได้น้อย

    • ผู้ที่กินมังสวิรัติหรือวีแกน (เสี่ยงขาด B12)

    • หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร

    • คนทำงานหนัก นักกีฬา หรือเรียนหนัก

    วิตามินบีรวม กินตอนไหนดีที่สุด?

    • ควรกิน หลังอาหารเช้า หรือ ก่อนเที่ยง เพราะวิตามินบีเป็นวิตามินละลายน้ำ

    • ไม่ควรกินก่อนนอน เพราะอาจทำให้ร่างกายตื่นตัวเกินไป

    • หากต้องเสริมในรูปแบบเม็ด ให้ดื่มน้ำตามมาก ๆ เพื่อช่วยการดูดซึม

    วิตามินบีรวม กินทุกวันได้ไหม?

    กินได้ทุกวัน เพราะเป็นวิตามินที่ละลายน้ำ ร่างกายไม่สะสม หากเกินจะขับออกทางปัสสาวะ
    แต่ไม่ควรกินเกินขนาดโดยไม่จำเป็น หรือซ้ำซ้อนกับวิตามินอื่น โดยเฉพาะ B6 หากเกิน 100 มก./วัน อาจเสี่ยง ชาปลายมือปลายเท้า ได้ในระยะยาว
    แนะนำให้เลือกวิตามินบีรวมแบบ “ตามปริมาณที่แนะนำต่อวัน (RDI/DRI)” ก็เพียงพอ

    ขาดวิตามินบีรวม มีอาการอย่างไร?

    อาการของการขาดวิตามินบีแตกต่างกันไป แต่รวม ๆ ได้แก่

    • อ่อนเพลียเรื้อรัง

    • สมาธิสั้น ความจำถดถอย

    • ปากแห้ง มุมปากแตก

    • ผิวแห้ง ผมร่วง เล็บเปราะ

    • ชา มือ เท้า หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง

    • โลหิตจาง อารมณ์แปรปรวน

    ทําไมกินวิตามินบีแล้วปัสสาวะเหลืองมาก

    การที่ปัสสาวะมีสีเหลืองเข้มหลังรับประทานวิตามินบีรวม เป็นเรื่องปกติที่ไม่ต้องกังวล เพราะเกิดจากวิตามินบี 2 (ไรโบฟลาวิน) ซึ่งมีสีเหลืองตามธรรมชาติ และเมื่อร่างกายได้รับเกินความต้องการ จะขับออกทางปัสสาวะ ทำให้สีและกลิ่นของปัสสาวะเปลี่ยนไปชัดเจน แต่ไม่เป็นอันตราย เพราะวิตามินบีเป็นวิตามินละลายน้ำ ไม่สะสมในร่างกาย

    กินวิตามินแล้วเวียนหัว คลื่นไส้

    หากคุณกินวิตามินบีรวมแล้วรู้สึกคลื่นไส้ อาจเกิดจากการรับประทานขณะท้องว่าง ซึ่งวิตามินบางชนิดในกลุ่มบี เช่น B3 (ไนอะซิน) หรือ B6 อาจกระตุ้นกระเพาะอาหารจนทำให้ระคายเคืองได้

    อีกทั้งหากปริมาณวิตามินเข้มข้นเกินความจำเป็น หรือร่างกายไวต่อสารบางตัว ก็อาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ตามมาได้เช่นกัน

    วิธีแก้ไขคือ ควรรับประทานหลังอาหารทันที ดื่มน้ำตามมาก ๆ และหากอาการยังไม่ดีขึ้น ควรหยุดใช้และปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุหรือพิจารณาเปลี่ยนยี่ห้อที่เหมาะสมกับร่างกายมากกว่าเดิม

    สรุป วิตามินบีรวม จำเป็นแค่ไหน?

    • หากคุณกินอาหารครบหมู่ก็อาจไม่ต้องเสริม

    • แต่ถ้าคุณใช้ร่างกายเยอะ เครียด นอนดึก หรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยง วิตามินบีรวมช่วยได้มาก

    • ควรเลือกสูตรที่เหมาะกับตัวเอง และไม่กินเกินขนาด

    • หมั่นสังเกตอาการขาด และปรึกษาแพทย์หากมีโรคประจำตัว

    อ่านเพิ่มเติม