เนื้อหาในหมวด สุขภาพ

กลั้นจาม อันตรายกว่าที่คิด! รู้ไว้ก่อนเส้นเลือดแตกไม่รู้ตัว

กลั้นจาม อันตรายกว่าที่คิด! รู้ไว้ก่อนเส้นเลือดแตกไม่รู้ตัว

อาการจาม เป็นปฏิกิริยาธรรมชาติของร่างกายที่ช่วยขับสิ่งแปลกปลอมหรือสารก่อภูมิแพ้ออกจากระบบทางเดินหายใจ โดยทั่วไปแล้วเราไม่ควรฝืนธรรมชาติด้วยการ กลั้นจาม เพราะอาจนำมาซึ่งอันตรายที่หลายคนคาดไม่ถึง ตั้งแต่เรื่องเล็กน้อยไปจนถึงภาวะร้ายแรงที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต เช่น เส้นเลือดแตก บทความนี้จะมาอธิบายว่าทำไมการกลั้นจามถึงอันตราย และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกายมีอะไรบ้าง

ทำไมเราถึงต้องจาม?

การจามคือกลไกป้องกันตัวของร่างกาย เมื่อมีสิ่งแปลกปลอม เช่น ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ ขนสัตว์ หรือเชื้อโรค เข้าไปในจมูก ระบบประสาทจะส่งสัญญาณไปยังสมอง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการจามอย่างรวดเร็วและรุนแรง เพื่อขับไล่สิ่งเหล่านั้นออกไป ด้วยความเร็วลมที่พุ่งออกมาจากการจามอาจสูงถึง 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง! และด้วยแรงดันมหาศาลนี้เองที่ทำให้การกลั้นจามเป็นเรื่องอันตราย

อันตรายของการกลั้นจาม มีมากกว่าที่คุณคิด

เมื่อคุณพยายามกลั้นจามด้วยการปิดปากและบีบจมูก หรือแม้แต่แค่ปิดปากอย่างเดียว เป็นการบังคับให้แรงดันอากาศมหาศาลที่ควรจะพุ่งออกมาจากร่างกาย ต้องย้อนกลับไปภายใน ซึ่งแรงดันนี้สามารถสร้างความเสียหายให้กับอวัยวะภายในได้หลายส่วน ดังนี้

  • เส้นเลือดในสมองแตก: นี่คืออันตรายที่ร้ายแรงที่สุดและเป็นที่กล่าวถึงบ่อยที่สุด เมื่อแรงดันจากการจามถูกอั้นไว้ แรงดันนั้นจะพุ่งกลับขึ้นไปสู่ศีรษะ ทำให้เกิดแรงกดดันอย่างรุนแรงต่อหลอดเลือดขนาดเล็กในสมอง ซึ่งอาจนำไปสู่การ เส้นเลือดในสมองแตก (Cerebral Aneurysm Rupture) ได้ แม้จะเป็นกรณีที่พบได้น้อย แต่ก็เป็นภาวะที่อันตรายถึงชีวิต หรือทำให้เกิดความพิการถาวร
  • เส้นเลือดในตาแตก (Subconjunctival Hemorrhage): แรงดันที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอาจทำให้เส้นเลือดฝอยเล็ก ๆ ในดวงตาแตก ทำให้เกิดจุดแดงๆ ในตา ซึ่งมักไม่มีอันตรายร้ายแรงและจะหายไปเอง แต่ก็เป็นสัญญาณเตือนว่ามีแรงดันภายในร่างกายสูงเกินไป
  • เส้นเลือดในหูหรือแก้วหูฉีกขาด: แรงดันที่ย้อนกลับเข้าไปในโพรงจมูกและคอ อาจส่งผลกระทบต่อท่อยูสเตเชียน (Eustachian tube) ที่เชื่อมต่อจากคอไปยังหู ทำให้เกิดแรงดันในหูชั้นกลางสูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้ แก้วหูทะลุ หรือเส้นเลือดในหูแตกได้ ทำให้เกิดอาการปวดหู สูญเสียการได้ยินชั่วคราว หรือหูอื้อ
  • เจ็บคอหรือเจ็บหน้าอก: แรงดันจากการจามที่ถูกกักไว้ในลำคอหรือช่องอก อาจทำให้กล้ามเนื้อบริเวณคอ หน้าอก หรือกระบังลมเกิดการหดเกร็งหรือบาดเจ็บอย่างรุนแรงได้
  • กระบังลมฉีกขาด: ในบางกรณีที่รุนแรง การกลั้นจามด้วยแรงดันมหาศาลอาจทำให้กระบังลม ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่คั่นระหว่างช่องอกและช่องท้อง ฉีกขาดได้ แม้จะพบได้ยากมาก แต่ก็เป็นภาวะที่ต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์ทันที
  • เส้นเลือดที่คอหรือหลอดลมเสียหาย: มีรายงานเคสที่ผู้ป่วยกลั้นจามแล้วทำให้เส้นเลือดบริเวณลำคอเสียหาย หรือแม้กระทั่งหลอดลมฉีกขาด ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายและต้องผ่าตัดรักษา

แล้วควรทำอย่างไรเมื่อรู้สึกอยากจาม?

สิ่งที่ดีที่สุดคือ ปล่อยให้จามออกไปตามธรรมชาติ หากคุณอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถจามได้อย่างอิสระ เช่น อยู่ในที่สาธารณะ หรือต้องการจามอย่างสุภาพ ให้ทำดังนี้

  • หันหน้าหนี: หันหน้าไปจากคนรอบข้าง
  • ใช้กระดาษทิชชู หรือข้อพับแขนปิดปากและจมูก: เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคและสารคัดหลั่ง
  • อย่าปิดจมูกหรือปากสนิท: ให้มีช่องว่างเล็กน้อยเพื่อให้แรงดันอากาศสามารถระบายออกไปได้บ้าง

การกลั้นจาม อาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อยที่หลายคนมองข้าม แต่เบื้องหลังการกระทำนั้นซ่อนอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสี่ยงต่อการที่ เส้นเลือดแตก ในอวัยวะสำคัญต่างๆ ดังนั้น ครั้งต่อไปที่คุณรู้สึกอยากจาม โปรดจำไว้ว่าการปล่อยให้ร่างกายได้ทำหน้าที่ตามธรรมชาติอย่างเต็มที่ คือวิธีที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดสำหรับตัวคุณเอง และอย่าลืมป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคด้วยการจามอย่างถูกสุขอนามัย

อ่านเพิ่ม