เนื้อหาในหมวด สุขภาพ

ภาวะเลือดหนืดคืออะไร ภัยเงียบที่ควรสังเกตและดูแล

ภาวะเลือดหนืดคืออะไร ภัยเงียบที่ควรสังเกตและดูแล

เลือดหนืด เป็นปัญหาสุขภาพที่หลายคนมองข้าม ทั้งที่เป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดสมอง หัวใจ และภาวะลิ่มเลือดอุดตัน บทความนี้จะพาไปดูสัญญาณเตือน อาหารที่ควรกิน และวิธีดูแลให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น

เลือดหนืด คืออะไร? ทำไมต้องระวัง

เลือดหนืด หรือที่เรียกว่า "เลือดข้น" คือ ภาวะที่เลือดมีความหนืดสูงกว่าปกติ ทำให้การไหลเวียนช้าลง ส่งผลให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน ซึ่งอาจนำไปสู่โรคร้ายแรง เช่น รคหลอดเลือดสมอง, กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน หรือแม้แต่ เส้นเลือดดำอุดตันที่ขา

อาการแบบไหนที่อาจบอกว่าคุณมีเลือดหนืด

  • เหนื่อยง่าย ใจสั่น หายใจไม่อิ่ม

  • ปวดศีรษะบ่อย มึนหัว คล้ายขาดออกซิเจน

  • มือเท้าเย็น ชา หรือปวดหน่วงตามแขนขา

  • ปลายมือปลายเท้าคล้ำ

  • ความดันโลหิตสูงหรือผันผวน

  • มีอาการเส้นเลือดขอด หลอดเลือดฝอยแตกง่าย

หากมีอาการเหล่านี้ร่วมกันบ่อย ๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจเลือด

สาเหตุที่ทำให้เลือดหนืด

  • ดื่มน้ำน้อย: ทำให้เลือดข้นเพราะขาดความชุ่มชื้น

  • รับประทานอาหารมันจัด หวานจัด เค็มจัด

  • สูบบุหรี่ และ ดื่มแอลกอฮอล์

  • น้ำหนักเกินหรืออ้วนลงพุง

  • ไม่ออกกำลังกาย ทำให้ระบบไหลเวียนทำงานช้า

  • ขาดวิตามินบางชนิด โดยเฉพาะ วิตามิน C, E และโอเมก้า-3

เลือดหนืดกินอะไรได้บ้าง? อาหารช่วยบำรุงเลือด

ดื่มน้ำเปล่าให้พอ

  • อย่างน้อยวันละ 6–8 แก้ว เพื่อให้เลือดเจือจางพอดี และไหลเวียนสะดวก

ผักและผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง

  • มะเขือเทศ: มีไลโคปีน ช่วยลดความเสี่ยงหลอดเลือดตีบ

  • บีทรูท: ช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว เลือดไหลเวียนดี

  • ผลไม้ตระกูลเบอร์รี: เช่น บลูเบอร์รี สตรอว์เบอร์รี ต้านการอักเสบของหลอดเลือด

  • ทับทิม: มีโพลีฟีนอลช่วยลดภาวะเกาะตัวของเกล็ดเลือด

อาหารที่มีไขมันดี

  • ปลาแซลมอน ปลาทู ปลาซาร์ดีน: อุดมด้วยโอเมก้า-3

  • อโวคาโด: ช่วยลดไขมัน LDL และเสริม HDL

  • ถั่วอัลมอนด์ เมล็ดแฟลกซ์: มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวและแมกนีเซียม

สมุนไพรที่ช่วยให้เลือดไหลดี

  • ขิง: ลดการจับตัวของเกล็ดเลือด

  • ขมิ้นชัน: มีเคอร์คูมินช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือด

  • กระเทียม: ลดความดันและช่วยลดไขมันในเลือด

เลือดหนืดควรเลี่ยงอาหารแบบไหน

  • อาหารไขมันอิ่มตัวสูง: เช่น ของทอด เนื้อสัตว์ติดมัน

  • อาหารเค็มจัด: เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลาร้า ขนมกรุบกรอบ

  • น้ำตาลสูง: เค้ก เครื่องดื่มรสหวาน ชานมไข่มุก

  • แอลกอฮอล์: ทำให้เลือดข้นและความดันสูง

  • บุหรี่: ทำลายผนังหลอดเลือดโดยตรง

เลือดหนืดอันตรายแค่ไหน? ควรพบแพทย์เมื่อไร

หากมีอาการเรื้อรัง เช่น

  • ปวดหัว มึนงงทุกวัน

  • แขนขาชา หรือมีอาการเส้นเลือดขอด

  • หายใจลำบาก เหนื่อยง่ายผิดปกติ

  • มีภาวะเลือดออกง่าย หรือเลือดจาง

ควรพบแพทย์เพื่อตรวจ CBC (Complete Blood Count) และวิเคราะห์ค่าความหนืดของเลือด พร้อมเช็กไขมัน ไตรกลีเซอไรด์ และค่าการแข็งตัวของเลือด

สรุป

เลือดหนืด เป็นภาวะที่หลายคนมองข้าม แต่หากปล่อยไว้อาจกลายเป็นภัยเงียบที่ทำให้เกิดโรคร้าย การดูแลสุขภาพตั้งแต่วันนี้โดยปรับพฤติกรรมการกิน ดื่มน้ำให้เพียงพอ และเลือกอาหารที่ช่วยบำรุงเลือด จะช่วยให้หลอดเลือดของคุณแข็งแรงและลดความเสี่ยงได้ในระยะยาว

อ่านเพิ่ม