เนื้อหาในหมวด สุขภาพ

“น้ำมันมะกอก” ชนิดไหนใช้ทอด ผัด หรือทานกับสลัด?

“น้ำมันมะกอก” ชนิดไหนใช้ทอด ผัด หรือทานกับสลัด?

มีใครสงสัยเรื่องประเภทของ “น้ำมันมะกอก” หรือเปล่า ทำไมบางชนิดใช้ทอดได้ บางชนิดใช้ใส่ในสลัดได้ แล้วเราจะเอาชนิดที่ใส่สลัดไปทอดได้หรือเปล่า Sanook Health จะอธิบายให้ฟังค่ะ 

ประเภทของน้ำมันมะกอก

น้ำมันมะกอกแบ่งออกเป็น 5 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้

  • น้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้น (extra virgin)

    น้ำมันมะกอกประเภทนี้เป็นน้ำมันมะกอกที่มีสีเขียวเข้ม ไดด้มาจากการบีบเอาน้ำมันออกมาจากมะกอกสดๆ ดังนั้นจึงเป็นน้ำมันมะกอกที่ดีที่สุดในบรรดาน้ำมันมะกอกทุกประเภท และมีราคาสูง ใช้ทานสดๆ แบบผสมเป็นน้ำสลัด หรือทำเป็นซอสพาสต้าได้ แต่ต้องไม่ผ่านความร้อนเด็ดขาด เพราะจะทำให้น้ำมันมะกอกสูญเสียคุณค่าทางโภชนาการไป และไขมันดีก็จะเปลี่ยนเป็นไขมันชนิดที่ไม่ดีต่อร่างกายแทน

    ควร : นำไปผสมในน้ำสลัด ซอสต่างๆ ที่ไม่ต้องผ่านความร้อน

    ไม่ควร : ไม่เหมาะกับการในการทอด หรือผัด
    น้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้น extra virgin
  • น้ำมันมะกอกเวอร์จิ้น (virgin)

    เป็นน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ที่ได้จากการบีบสดจากลูกมะกอกเหมือนกัน แต่ผลมะกอกจะแก่กว่า มีคุณภาพรองลงมาจากน้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้น ดังนั้นยังถือว่าดีต่อสุขภาพเหมือนกัน แค่ราคาจะถูกกว่าเล็กน้อย

    ควร : นำไปผสมในน้ำสลัด ซอสต่างๆ ที่ไม่ต้องผ่านความร้อน

    ไม่ควร : ไม่เหมาะกับการใช้การทอด หรือผัด
    น้ำมันมะกอกเวอร์จิ้น virgin
  • น้ำมันมะกอกแบบผสม (olive oil หรือ pure olive oil)

    เป็นน้ำมันที่ผสมผสานกันระหว่าง น้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้น กับน้ำมันมะกอกที่ผ่านกรรมวิธีเพิ่มคุณค่าทางสารอาหารเข้าไป ทำให้ได้ออกมาเป็นน้ำมันที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูงใกล้เคียงกับน้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้น แต่เพิ่มเติมคือทนความร้อนได้ดีขึ้น จึงสามารถนำไปประกอบอาหารโดยผ่านความร้อนแบบเร็วๆ ได้ แต่ก็ยังทอดไม่ได้ เพราะคุณค่าทางสารอาหารในน้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้นก็จะหายไป กลายเป็นไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกายเหมือนเดิม

    ควร : นำไปใช้ผัดอาหารแบบเร็วๆ เช่นผัดผัก ข้าวผัด

    ไม่ควร : ไม่เหมาะกับการใช้ทอดอาหารนานๆ เด็ดขาด
    น้ำมันมะกอกแบบผสม olive oil หรือ pure olive oil
  • น้ำมันมะกอกแบบผ่านกรรมวิธี (Refined Olive Oil, Light Olive Oil, Extra Light Olive Oil)

    เป็นน้ำมันประเภทข้างบนแบบเพียวๆ โดยที่ไม่มีน้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้นผสมอยู่ ยังถือว่ามีคุณค่าทางสารอาหารดีๆ อยู่บ้าง แต่ก็หายไปบ้างจากการสกัดเอาสี กลิ่น รส เดิมออกไปโดยผ่ายกรรมวิธีทางเคมี และผ่านความร้อน ทำให้นำมันค่อนข้างใส และมีราคาไม่สูง แต่สามารถทนความร้อนได้สูงขึ้นด้วยเช่นกัน

    ควร : นำมาใช้ทอดอาหารได้นานยิ่งขึ้น เช่น ทอดหมู ไก่ ปลา

    ไม่ควร : ไม่เหมาะกับการนำมาทานสดๆ ผสมน้ำสลัด หรือผสมซอส
    น้ำมันมะกอกแบบผ่านกรรมวิธี Refined Olive Oil, Light Olive Oil, Extra Light Olive Oil
  • น้ำมันกากมะกอก (olive pomace oil)

    มาจากการสกัดเอาน้ำมันออกมาจากกากมะกอกอีกที แล้วนำไปผ่านกรรมวิธีทางเคมี และผ่านความร้อน ถึงแม้ว่าจะเป็นน้ำมันมะกอกเกรดคุณภาพต่ำที่สุด แต่ก็ยังสามารถนำมาใช้ประกอบอาหารได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารประเภททอดที่ใช้เวลานาน แต่ก็มีค่าไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกายสูงกว่าน้ำมันมะกอกชนิดอื่นๆ เช่นกัน จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมนัก

    ควร : นำมาใช้ทอดอาหารได้นานยิ่งขึ้น เช่น ทอดหมู ไก่ ปลา

    ไม่ควร : ไม่เหมาะกับการนำมาทานสดๆ ผสมน้ำสลัด หรือผสมซอส
    น้ำมันกากมะกอก olive pomace oil
  • ประโยชน์ของน้ำมันมะกอก

  • ควบคุมคอเลสเตอรอล 
  • ลดภาวะไขมันในเลือดสูง 
  • ลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ 
  • ลดน้ำหนัก
  • ลดความดันโลหิตสูง 
  • ส่งเสริมระบบการหมุนเวียนโลหิต 
  • แก้อาการท้องผูก 
  • มีสารต้านอนุมูลอิสระ 
  • วิธีการใช้น้ำมันมะกอกอย่างปลอดภัย

  • สำหรับการผัด - ใช้น้ำมันมะกอกแบบผสม (Olive Oil หรือ Pure Olive Oil)
  • สำหรับการทอด - ใช้น้ำมันมะกอกแบบผ่านกรรมวิธี (Refined Olive Oil) หรือน้ำมันกากมะกอก (Olive Pomace Oil)
  • สำหรับการบริโภคสด - ใช้น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิน (Extra Virgin) หรือ น้ำมันมะกอกเวอร์จิน (Virgin)
  • ปริมาณที่แนะนำ - บริโภคประมาณ 2 ช้อนโต๊ะต่อวัน (28 กรัม) หรือ 14% ของแคลอรีที่บริโภคในแต่ละวัน
  • การใช้ที่ผิวหนัง - ระวังอาการแพ้ หรือ ผิวหนังอักเสบ
  • ข้อควรระวังในการบริโภคน้ำมันมะกอก

  • ผู้ตั้งครรภ์และให้นมบุตร - ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม
  • ผู้ป่วยโรคเบาหวาน - ควรตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำ
  • ก่อนการผ่าตัด - ควรงดการบริโภคน้ำมันมะกอกอย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • สรุป การใช้น้ำมันมะกอกให้ถูกประเภท และ ควบคุมปริมาณจะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่หากใช้ไม่ถูกต้องหรือเกินปริมาณ อาจส่งผลเสียได้ ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการบริโภค

    หากอยากรู้รายละเอียดของน้ำมันแต่ละประเภท กับไขมันอิ่มตัว และไม่อิ่มตัวอย่างละเอียด สามารถอ่านได้ใน “น้ำมันหมู VS น้ำมันพืช ตกลงอันไหนมีประโยชน์มากกว่ากัน?” นะคะ

    อ่านเพิ่มเติม