ผัวเมียต่างชาติร้อง เจ้าของหอพักยกพวกบุกทำร้าย แค่ไปถามเรื่องเน็ตล่ม
ผัวเมียต่างชาติร้อง เจ้าของหอพักยกพวกบุกทำร้ายถึงในห้อง แค่ไปถามเรื่องเน็ตล่มแล้วสื่อสารไม่รู้เรื่อง
(13 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายโคลบจอร์น อายุ 72 ปี สัญชาตินอร์เวย์ กับนางอนุสอน อายุ 40 ปี สัญชาติลาว สองสามีภรรยา และทนายความ เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.อมรเทพ ใหม่มา รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ตามหมายเรียกครั้งที่ 1 เพื่อมาให้ปากคำกรณี นางชนิดาภา เจ้าของอพาร์ทเม้นท์ให้เช่า พัทยาใต้ หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ นายมิก โคลบจอร์น อิงกี้ ในข้อหาบุกรุก โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.14 จำนวน 2 นายมาสังเกตการณ์
ภายหลังนางอนุสอน และนายโคลบจอร์น ได้ออกมาร้องเรียนผู้สื่อข่าวเพื่อขอความเป็นธรรม โดยนางอนุสอน ซึ่งสามารถพูดไทยได้ชัดเจน เล่าให้ฟังว่า ในอดีตสามีเคยเป็นนายทหาร สังกัดกองทัพเรือนอร์เวย์ ปัจจุบันเกษียณอายุราชการแล้ว ส่วนตนเองประกอบธุรกิจส่วนตัวอยู่ที่ประเทศนอร์เวย์ แต่จะบินกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่ สปป.ลาว และเดินทางมาพักผ่อนตากอากาศที่เมืองพัทยาปีละครั้ง โดยเข้าพักที่อพาร์ทเม้นท์แห่งนี้เป็นประจำติดต่อกันมา 5 ปีแล้ว ซึ่งในครั้งนี้ตนกับสามีตั้งใจจะอยู่ที่เมืองพัทยานานถึง 8 เดือน พนักงานรีเซฟชั่นของอพาร์ทเม้นท์ จึงเสนอลดราคาค่าเช่าจากเดิมเดือนละ 20,000 บาท หากเหมาจ่ายทั้งหมดรวม 8 เดือน จะคิดค่าเช่าแค่เดือนละ 17,500 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 140,000 บาท ตนกับสามีจึงตอบตกลงพร้อมกับทำสัญญาเช่าและจ่ายเงินทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 27 ก.ย.2560
จนกระทั่งช่วงเช้าวันที่ 20 ต.ค. สัญญาณอินเตอร์เน็ตของอพาร์ทเม้นท์เกิดล่มใช้งานไม่ได้ สามีของตนจึงลงไปเคาะประตูออฟฟิศเพื่อสอบถามพนักงาน แต่ก็พูดจากันไม่รู้เรื่อง เพราะไม่เข้าใจภาษา พอช่วงบ่ายสามีลงไปสอบถามอีกครั้งแต่ก็คุยกันไม่รู้เรื่องเหมือนเดิม ทำให้ต้องเดินกลับขึ้นมาบนห้องในสภาพมีอาการหงุดหงิดหัวเสีย ก่อนที่จะหันไปดื่มแล้วผลอยหลับไป เวลาประมาณ 17.00 น.วันเดียวกัน นางชนิดาภา เจ้าของอพาร์ทเม้นท์ พร้อมด้วยพนักงานรีเซฟชั่นหญิง และแม่บ้านรวม 3 คน เดินขึ้นมาเคาะห้อง ทันทีที่ตนเปิดประตู เจ้าตัวได้ตรงเข้ามาผลักตน 2 ครั้งและตะโกนด่าว่า “ทำไมไม่ดูแลผัวดีๆ” จากนั้นจึงปรี่ไปหาสามีที่กำลังนอนอยู่บนเตียง แล้วใช้กำปั้นทุบตีตามร่างกายหลายครั้งจนสะดุ้งสุดตัวด้วยความเจ็บ ส่วนรีเซฟชั่นกับแม่บ้าน ได้แต่ยืนมองอยู่เฉยๆ โดยไม่คิดจะห้ามปราม หลังทุบตีจนหนำใจ นางชนิดาภา จึงออกจากห้องไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
นางอนุสอน เล่าอีกว่า หลังเกิดเหตุสามีของตนจึงไปแจ้งสามีชาวต่างชาติของนางชนิดาภา ว่าจะขอย้ายออก พร้อมกับขอเงินค่าเช่าซึ่งเหลือ 3 เดือนเศษๆ ที่จ่ายล่วงหน้าไว้ แต่เจ้าของอพาร์ทเม้นท์กลับบ่ายเบี่ยงไม่ยอมคืนให้ ตนจึงไม่ยอมฉีกสัญญาและยึดกุญแจห้องไว้ ก่อนที่จะย้ายออกไปพักที่อื่นเพราะเกรงจะไม่ปลอดภัย ต่อมาเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ส่งทนายมาพูดจาไกล่เกลี่ยแต่สุดท้ายก็ไม่ยอมคืนเงินที่เหลือให้ท่าเดียว เลยตัดสินใจพาสามีเข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 17 ก.ย.และไปตรวจร่างกายที่ รพ.พัทยาเมโมเรียล ซึ่งผลการตรวจระบุว่าซี่โครงแตกร้าว มีรอยชกช้ำตามร่างกายหลายแห่ง และทางตำรวจได้ออกหมายเรียกคู่กรณีให้มาพบถึง 2 ครั้งแล้วแต่เจ้าตัวไม่ยอมมา ซ้ำยังทนายเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับสามีของตน ฐานบุกรุกเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น จนถูกออกหมายให้มาพบตำรวจในวันนี้
“วันเกิดเหตุสามีอ่านภาษาไทยไม่ออก เลยไม่รู้ว่ามีป้ายคำว่า ‘เฉพาะพนักงาน’ ติดอยู่ จึงไปเคาะประตูเรียก แต่ก็ไม่ได้เข้าไปในออฟฟิศ การที่เจ้าของอพาร์ทเม้นท์บุกมาทำร้ายร่างกายลูกค้าแบบนี้มันไม่มีในสัญญา ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ตนกับสามีในฐานะนักท่องเที่ยวจึงต้องวอนขอความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ และอยากให้คู่กรณีออกมารับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องคืนค่าเช่าที่เหลือ และรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลสามีวัยชราที่ถูกทุบตีได้รับบาดเจ็บซี่โครงร้าว” นางอนุสอน ชาว สปป.ลาว กล่าว