ครม.ไฟเขียวขึ้นภาษีบาป "เบียร์ -สุรา - ยาสูบ" 2 %
ครม.อนุมัติเก็บภาษีจาก "เบียร์ -สุรา - ยาสูบ" เพิ่ม 2% ส่งเข้ากองทุนผู้สูงอายุ พร้อมกำหนดเพดานการจัดสรรเงินเข้ากองทุนไว้ที่ 4,000 ล้านบาทต่อปี
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้(1 ส.ค. 2560 ) ว่า ที่ประชุมครม. มีมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.ผู้สูงอายุ โดยอนุมัติในหลักการส่วนการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนผู้สูงอายุจากภาษีสุรา ยาสูบ และเบียร์ ในอัตรา 2% ในแต่ละรายสินค้า เพื่อนำเงินที่ได้จากการจัดเก็บเข้ากองทุนผู้สูงอายุ ขณะเดียวกันได้กำหนดเพดานการจัดสรรเงินเข้ากองทุนไว้ที่ 4,000 ล้านบาทต่อปี
"กำหนดให้เก็บภาษีเพิ่มขึ้นจากสุรา ยาสูบ และเบียร์ ในอัตรา 2% ในแต่ละรายการสินค้า โดยยอมรับว่า ผู้ประกอบการจะผลักภาระไปยังผู้บริโภคบ้าง แต่ทั้งนี้ ในการเรียกเก็บภาษีนั้นยังไม่มีผลในทันที ทุกอย่างจะเริ่มเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย โดยคาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของสำนักงานกฤษฎีกาภายในระยะเวลา 2-3 เดือน และคาดว่าจะใช้เวลาในสภานิติบัญญัติแห่งชาติอีก 2 เดือน ดังนั้นคาดว่ากฎหมายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในต้นปี 2561" นายกอบศักดิ์ กล่าว
สำหรับในปัจจุบันกรมสรรพสามิตได้มอบเงินอุดหนุนให้แก่ 3 หน่วยงานประกอบด้วย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ปีละ 2% ของภาษีบาป องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือ TPBS 1.5% โดยกำหนดเพดานไม่เกิน 2,000 ล้านบาท และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติได้รับเงินจากภาษีบาปปีละ 2% แต่ไม่เกิน 2,000 ล้านบาท ส่งผลให้หลังจากนี้กรมสรรพสามิตจะต้องจัดสรรเงินจากภาษีบาปดังกล่าวรวมทั้งสิ้น 7.5% ต่อปี
ขณะที่กระทรวงการคลัง เตรียมหามาตรการจูงใจเพื่อให้ผู้สูงอายุที่มีฐานะ บริจาคเงินเข้ากองทุนดังกล่าวแบบสมัครใจด้วย โดยคาดว่าจะมีเงินเพิ่มเข้ากองทุนดังกล่าวอีก 4,000 ล้านบาท อย่างไรกตาม คาดว่าจากการจัดสรรเงินดังกล่าวเพิ่มขึ้น จะทำให้ผู้สูงอายุได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มเป็น 900-1,300 บาทต่อราย