เปิดหน้ากาก 'วอริกซ์' ยักษ์เล็กหน้าใหม่ชุดกีฬาไทย
แต่ไหนแต่ไรมา เมื่อนึกถึงชื่อของผู้ผลิตชุดกีฬาสัญชาติไทย หลายคนจะนึกถึงชื่อของ แกรนด์สปอร์ต หรือไม่ก็ ฟุตบอลไทย (เอฟบีที)
ทว่าในช่วง 3-4 ปีมานี้ มีอีกชื่อหนึ่งที่เบียดแทรกตัวเข้ามาอยู่ในตลาดได้อย่างน่าสนใจ แบรนด์ที่ว่านั้นก็คือ วอริกซ์ (Warrix)
เมื่อแรกจัดตั้งในเดือน ก.ค. 56 ใช้ชื่อไทยว่า วาริกซ์ ซึ่งมาจากคำว่า “Warrior” ความหมายคือ “นักรบ” สื่อถึงการเป็นแบรนด์สัญชาติไทยที่พร้อมทุ่มเทและมุ่งมั่นแข่งขันในทุกสังเวียน รวมถึงบ่งบอกถึงความเป็นเลือดนักสู้ของคนไทยมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ในขณะที่ด้านดีไซน์ เน้นให้มีความเป็นสากล แต่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งหมดเป็นฝีมือดีไซเนอร์ชาวไทย 100%
ในช่วงแรกใช้วิธีแจ้งเกิดด้วยการเข้าไปเป็นสปอนเซอร์สนับสนุนชุดให้กับทีมฟุตบอลในลีก ก่อนที่จะมาดังเปรี้ยงปร้างจากการทุ่มเงิน 400 ล้านบาทให้กับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ แลกกับสิทธิ์ในการเป็นผู้ผลิตชุดให้กับทัพ “ช้างศึก” เป็นเวลา 4 ปี นับตั้งแต่ปี 2560 - 2563
ปัจจุบัน บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (เปลี่ยนจากวาริกซ์เมื่อ พ.ค. 60) มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท ผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี เป็นดังนี้
ปี 57 รายได้ 68 ล้านบาท กำไร 3.9 ล้านบาท
ปี 58 รายได้ 138 ล้านบาท กำไร 2.5 ล้านบาท
ปี 59 รายได้ 181 ล้านบาท กำไร 3.5 ล้านบาท
จากงบกำไรขาดทุน สังเกตได้ว่ามีค่าใช้จ่ายในการทำตลาดสูงขึ้นทุกปีส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิออกมาในระดับต่ำ
ลองมาดูขาใหญ่หน้าเดิมในวงการกันบ้าง แต่เนื่องจากทั้งเอฟบีทีและแกรนด์สปอร์ตมีนิติบุคคลอยู่หลายแห่ง Sanook! Money ขอหยิบกิจการที่น่าจะเป็นตัวแทนของทั้ง 2 แบรนด์มารายงานคือ
บริษัท โรงงานฟุตบอลล์ไทย สปอร์ตติ้ง กู๊ดส์ จำกัด ทุนจดทะเบียน 190 ล้านบาท
ปี 57 รายได้ 1,021 ล้านบาท ขาดทุน 38.6 ล้านบาท
ปี 58 รายได้ 1,026 ล้านบาท ขาดทุน 72.6 ล้านบาท
ปี 59 รายได้ 1,079 ล้านบาท ขาดทุน 707.7 ล้านบาท
บริษัท แกรนด์สปอร์ตกรุ๊ป จำกัด ทุนจดทะเบียน 110.5 ล้านบาท
ปี 57 รายได้ 905 ล้านบาท ขาดทุน 1.7 ล้านบาท
ปี 58 รายได้ 993 ล้านบาท ขาดทุน 4.8 ล้านบาท
ปี 59 รายได้ 1,504 ล้านบาท มีกำไร 5.1 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่าเมื่อเทียบกับ 2 พี่เบิ้มในวงการชุดกีฬาไทย วอริกซ์ยังตามอยู่หลายช่วงตัว แต่เมื่อเทียบกับกิจการอายุอานามเพียง 4 ขวบปี กับการต้องต่อกรกับบรรดาแบรนด์ระดับโลกและแบรนด์ในประเทศที่มีประวัติมายาวนาน น่าสนใจว่าก้าวต่อไปของยักษ์เล็กรายนี้จะทำให้เจ้าตลาดที่มีอยู่สั่นสะเทือนได้หรือไม่
