ตุ้ย เอเอฟ เปิดใจ ประสบอุบัติเหตุในรายการจนต้องจำเป็นบทเรียน
ทำเอาแฟนคลับต่างตกอกตกใจกันยกใหญ่ เมื่อทราบข่าวว่านักร้องหนุ่ม “ตุ้ย เกียรติกมล” หรือ “ตุ้ย เอเอฟ” ประสบอุบัติเหตุขณะถ่ายทำรายการอยู่ จนต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที
ล่าสุดมีโอกาสได้เจอ “ตุ้ย เอเอฟ” ในงาน Move Life Forward เพราะความสำเร็จไม่ได้มีเพียงหนึ่งเดียว เจ้าตัวก็ได้ออกมาเปิดใจให้ฟังถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น โดยเผยว่าทุกอย่างเป็นความประมาทของตนเองที่คิดว่าเวลาแป๊บเดียวคงจะไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งขณะนั้นเป็นจังหวะที่ตนต้องขี่มอเตอร์ไซค์แล้วมีคนกระโดดข้าม แต่ด้วยองค์ประกอบหลายอย่างที่ทำให้พลาด รถจึงล้ม แต่โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก
“อุบัติเหตุเกิดขึ้นเมื่อวานเลยครับ สดๆ ร้อนๆ ตอนไปถ่ายรายการต้องมีกิจกรรมที่ต้องทำ เราก็ลืมพูดคุยกับทีมงานไปว่าอันนี้ต้องทดลองก่อน จริงๆ มันไม่ได้มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น มันผิดที่ตัวผมด้วยถ้าผมบอกทีมงานว่าไม่ทำดีกว่า ตอนนั้นผมคิดแค่ว่ายังไงก็ได้ แป๊บเดียวเอง คงไม่เป็นอะไรหรอก เพราะเราก็ไปออกรายการบ่อย คือผมต้องขี่มอเตอร์ไซค์แล้วมีคนกระโดดข้าม รอบแรกไม่ได้มีปัญหาอะไร กระโดดข้ามไปได้ด้วยดีมีเฉี่ยวบ้างนิดหนึ่ง โดนตัวเรานิดหน่อยแต่ไม่ถึงกับเสียหลัก แต่พอรอบสองน้องเขาคงหมดแรงและมีองค์รวมหลายๆ อย่างจึงทำให้พลาด พอพลาดก็ทำให้เราแถลงซ้าย หัวเข่าและมือกระแทกพื้น ช่วงหัวก็มีบางส่วนที่ไปโดนน้องเขาครับ”
“พอเกิดการผิดพลาดทางทีมงานก็รีบพาไปส่งโรงพยาบาลเลย แต่พอได้เช็คทุกสิ่งทุกอย่างก็ไม่มีอะไรน่าห่วง ผมก็ได้เอ็กซเรย์ด้วยก็ไม่มีปัญหา มีแค่ถลอกที่หัวเข่าและมือนิดหน่อย”
“เอาจริงๆ เรื่องนี้จะไม่มีใครรู้เลยนะถ้าพี่ต้นหอมไม่ได้โพสต์ว่าหาคนร่วมรายการแทนหน่อยและดันจั่วหัวว่า ตุ้ย เอเอฟ ประสบอุบัติเหตุ คือถ้าพี่หอมไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องก็จะไม่มีอะไร (หัวเราะ)”
“หลังจากที่พี่ต้นหอมโพสต์แป๊บเดียวเองครับ มีคนโทรเข้ามายับเลย ผมก็บอกไปว่ามันไม่ได้หนักหน่วงอะไรมากมาย แต่ในคลิปอาจจะดูหนักอยู่ เพราะช่วงที่เกิดเหตุพี่ผู้จัดการผมถ่ายไว้ได้ทันและดันถ่ายแบบสโลโมชั่นด้วย เห็นชัดมาก แต่อย่างที่บอกครับทั้งทีมงานและตัวผมไม่ได้มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น”
“คุณพ่อคุณแม่ก็ตกใจนิดหนึ่ง แต่มันไม่ใช่ครั้งแรกครับกับการที่ต้องประสบอุบัติเหตุในการทำงานวงการบันเทิง เขาเห็นผมได้เดินได้ปกติก็ไม่มีปัญหา เมื่อวานผมยังขับรถกลับเองได้ปกติเลยครับ ทางทีมงานก็ดูแลดีมาก”
“ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้วครับ เหตุการณ์เกิดเมื่อวาน วันนี้ผมยังมางานได้ปกติ อาจจะมีกะเผลกนิดหน่อย”
“จริงๆ ผมอยู่ในวงการนี้มา 10 ปี ไม่ว่าจะเป็นรายการหรือถ่ายหนังผมจะเซฟตัวเองอยู่แล้ว แต่อันนี้ด้วยความที่ผมคิดไปว่ามันแป๊บเดียว เลยกลายเป็นบทเรียนที่ทำให้ผมต้องตั้งสติมากกว่านี้ และต้องมีการพูดคุยกับพี่ๆ ทีมงานนั้นๆ มากขึ้น โดยส่วนตัวอย่างที่บอกถ้าตอนนั้นผมปฏิเสธมันก็จบแล้ว แต่เรายังชิลจึงทำให้เกิดขึ้น”
