พี่ฉอด สายทิพย์ แจงถูกปลดฟ้าผ่า ยันได้ตำแหน่งสูงขึ้น แต่ไม่ได้ดูเอไทม์แล้ว
กลายเป็นกระแสฮือฮาขึ้นมาทันที หลังจากที่มี กระแสข่าวลือออกมาหนาหูว่า “ฉอด สายทิพย์” ที่ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (สายธุรกิจสื่อ) ถูกปลดฟ้าผ่า อีกทั้งหนุ่มคนสนิท “เอส วรฤทธิ์” ก็โดนด้วยเหมือนกัน
ล่าสุด “พี่ฉอด” ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนถึงกรณีดังกล่าว โดยเจ้าตัวได้ยืนยันว่าไม่ได้ถูกปลดแน่นอน แต่ยอมรับว่ามีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างบริษัท ซึ่งเธอได้ขยับขึ้นมาในตำแหน่งที่สูงขึ้นนั่นก็คือ รองประธานกรรมการ และยังคงอยู่ในตึกเหมือนเดิม ไม่ได้ไปไหนแน่นอน
“ยังอยู่ค่ะ โชคดีจริงๆ หลังจากเป็นข่าวมีกำลังใจมาให้มากมาย และอีกอย่างมีคนอยากได้ตัวไปทำงานเยอะมาก พอมีข่าวว่าเราจะไปจากตึกแกรมมี่ก็มีคนมาเสนองานให้เยอะมาก ขอบคุณนะคะวันหลังจะไปรับใช้ทุกคนเลย”
มีการลดหรือเพิ่มตำแหน่งจริงไหม ?
“เราจะมีการปรับเรื่องโครงสร้าง เนื่องจากจะมีกลุ่มผู้เข้ามาถือหุ้นได้เข้ามาคุยกันเรื่องการปรับโครงสร้างต่างๆ ส่วนตัวพี่ฉอดในช่วงหลังใช้เวลากับงานโอเปอร์เรชั่นเยอะมาก คือต้องทำงานบริหารช่อง ขณะเดียวกันเราตระหนักว่าความสำคัญที่สุดของธุรกิจบันเทิงในวันนี้คือเรื่องของคอนเทนต์"
"ในขณะที่ช่องและแพทฟอร์มต่างๆ มีมากมาย ความสำคัญที่สุดอยู่ที่การทำคอนเทนต์ แล้วค่อยไปสู่แพทฟอร์มต่างๆ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ไปอยู่ช่องใดช่องหนึ่งเท่านั้น"
"วันนี้บทบาทหน้าที่ที่สำคัญที่สุดของพี่ที่ได้รับมอบหมาย อย่าไปคิดเรื่องตำแหน่ง มันเป็นเรื่องหัวโขน แต่ภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบจริงๆ คือเรื่องบริหารจัดการคอนเทนต์ดีๆ ในทุกๆ รูปแบบ มันเป็นเรื่องบริษัทระหว่างที่กำลังทำงานอยู่ ยังไม่ได้บอกใครๆ แต่ก็มีข่าวออกมาก่อน จึงต้องออกมาตอบ”
“ส่วนที่ว่าโดนปลดต่างๆ นานา ตอนนี้โดยตำแหน่งที่ได้รับมาสำหรับจีเอ็มเอ็มชาแนลเทรดดิ้ง มีแกรมมี่ถือหุ้น 50 เปอร์เซ็นต์ และทางกลุ่มสิริวัฒนภักดีอีก 50 เปอร์เซ็นต์ จะมีคุณไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม เป็นประธานกรรมการ และมีคุณฐาปน สิริวัฒนภักดี เป็นประธานกรรมการบริหาร ตอนนี้ตำแหน่งพี่ฉอดเป็นรองประธานกรรมการ นั่นก็คือเป็นรองจากคุณไพบูลย์ จะคอยดูแลในเรื่องของส่วนดูแลต่างๆ มากขึ้น นี่แหละค่ะคือสิ่งที่พยายามปรับปรุงกันไป”
“ด้านภาระเรื่องคอนเทนต์ในแง่ของละครและรายการ เป็นสิ่งที่ต้องหาวิธีพัฒนาและสร้าวคอนเทนต์ให้ได้มากที่สุด”
ในส่วนของเอไทม์ยังคงดูแลอยู่ใช่ไหม ?
“ตอนนี้จีเอ็มเอ็มมีเดียและเอไทม์มีน้องๆ ที่เป็นคนเก่าคนแก่ทำงานกันมาเยอะและแข็งแรงกันหมดแล้ว พี่ก็รู้สึกว่ามันสมควรแก่เวลาที่ตัวเองต้องถอยออกมา น้องๆ จะได้เติบโต ถ้าพี่ยังอยู่น้องเขาก็ยังจะไม่โตกันสักที จริงๆ คนทำงานยังเหมือนเดิมทุกประการ ไม่ได้มีการขยับปรับเปลี่ยนกันไปไหน มีพี่คนเดียวที่ถอยออกมา”
ถูกปรับให้ได้ตำแหน่งสูงขึ้น แต่กลับมีข่าวว่าถูกปลดสายฟ้าผ่า ?
“อันนี้พี่ไม่ทราบจริงๆ อาจจะเริ่มมีคนโพสต์ไปต่างๆ พี่ก็ไม่ทราบ ถ้าถามว่าตกใจไหม ก็ไม่ได้ตกใจอะไร เพราะพี่อยู่ตรงนี้มานาน มีข่าวสารอะไรแบบนี้อยู่ตลอด พอเป็นข่าวมันเลยกลายเป็นข่าวใหญ่”
แต่ก็มีข่าวว่าที่ได้ตำแหน่งไป เป็นเพียงการแขวนตำแหน่งไว้เท่านั้น ?
“พี่ว่าจะแขวนหรือไม่แขวนต้องรอดูที่ผลงานนะ เรื่องแบบนี้พูดไปก็ไม่รู้จริงเท็จเป็นยังไง ถ้าพี่โดนแขวนจริงๆ ก็คงนั่งอยู่เฉยๆ ไม่มีงานออกมา เดี๋ยวคอยดูว่าจะมีงานออกมาเยอะ รวมถึงงานบะครตอนสองทุ่มยี่สิบก็ยังทำปกติ งานเดิมๆ ที่ทำอยู่ก็ยังทำต่อไป ส่วนข่าวที่ว่าคุณเอสก็โดนปลดไปเหมือนกัน เขาโดนข่าวโดนปลดไปก่อนพี่อีก แต่เขาก็ยังทำละครต่อไป”
มีข่าวออกมาว่า พี่ฉอดและพี่เอส จะทำละครถึงแค่สิ้นปีนี้ ?
“คำว่าทำแค่สิ้นปีนี้หมายถึงว่าละครเดิมที่แพลนไว้ทั้งหมดก็ยังทำไปถึงสิ้นปี ขณะเดียวกันหน้าที่ของเราคือการสร้างงานใหม่ๆ ออกมาสำหรับงานปีหน้า”
ตำแหน่งเดิมของพี่ฉอดได้พี่เล็ก บุษบา รักษาการแทนใช่ไหม ?
“พี่เล็กไป ซีอีโอ กลางอยู่แล้ว พอพี่ถอยออกมาตรงนี้ปุ๊บ พี่เล็กก็ต้องรักษาการโดยอัตโนมัติตามตำแหน่งอยู่แล้ว”
ทำให้นโยบาย GMM 25 เปลี่ยนไปไหม ?
“ในแง่การทำงานจีเอ็มเอ็มยี่สิบห้าไม่ได้เกิดจากใครคนใดคนหนึ่ง แต่ต้องมาจากบอร์ดที่ประชุม ซึ่งพี่ก็ยังนั่งอยู่ในบอร์ดอยู่ รวมทั้งกลุ่มสิริวัฒนภักดีที่มานั่งอยู่ในบอร์ดด้วย เราบริหารงานแบบมืออาชีพ เพราะเรามีเป้าหมายที่จะไปต่อเยอะ”
“ส่วนเรื่องความกดดันในการทำงานมันเกิดขึ้นมานานแล้ว เพราะเราต้องทำงานกันแบบแข็งแรงมากๆ เพราะธุรกิจตรงนี้จะเห็นว่ามีการแข่งขันต่อสู้กันสูง เพราะฉะนั้นไม่ได้กดดันแค่การขยับตำแหน่ง จะเห็นว่าในแกรมมี่มีการขยับเคลื่อนย้ายเป็นข่าวบ้าง ไม่เป็นข่าวบ้าง แต่พอดีกรณีพี่ดันเป็นข่าวขึ้นมา”
หลายคนตกใจเพราะพี่ฉอดนั่งตำแหน่งผู้บริหารเอไทม์มา 20 ปี แต่ตอนนี้โดนปรับตำแหน่ง ?
“ที่คุยกับคุณไพบูลย์ จริงๆ แล้วมันไม่มีอะไรที่เป็นของเราด้วยการผูกติดไปตลอดชีวิต พี่ฉอดเป็นคนสร้างเอไทม์ ทำกรีนเวฟ และทำคลับฟรายเดย์มา ทุกคนก็รู้ว่าพี่เป็นคนเริ่มต้น แต่ส่วนการทำงานต่อไปมันอยู่กับพี่ไม่ได้ ถ้าพี่ตายไปแล้วกรีนเวฟ เอไทม์ต้องตายตามเหรอ มันไม่ได้ค่ะ มันต้องมีคนรับช่วงต่ออยู่แล้ว แต่ทุกคนก็จำได้ว่าพี่สร้างขึ้นมา การทำงานจึงต้องเดินหน้าต่อไป พี่ก็ยังอยู่ในตึก น้องๆ ปรึกษาได้ตลอดไม่ได้ไปไหน ยังคอยช่วยเหลือกัน”
สร้างมา 20 ปี มีความผูกพันหรืออาลัยอาวรณ์ไหม ?
“หนูอย่ามาดราม่าใส่สิ อย่างที่บอกเราไม่ได้ไปไหน ถ้าสมมติวันนี้พี่เดินออกไป พี่คงเสียดาย เสียใจ แต่เราไม่ได้ไปไหน อย่ามาดราม่าใส่ฉัน (หัวเราะ) ฉันไม่ได้เล่นคลับฟรายเดย์”
ส่วนหนึ่งที่ต้องปรับเปลี่ยนเพราะมีกระแสว่า GMM 25 มีปัญหาเรื่องเรตติ้ง ?
“เรื่องปัญหาเรตติ้งมันมีมาตลอดอยู่แล้ว เราเป็นช่องเล็กเรตติ้งเลยอาจจะไม่ได้สูง แต่เราสร้างกระแสมาตลอด มีคนรู้จักจีเอ็มเอ็มยี่สิบห้า รู้จักงานของเราแล้ว มันเป็นคนละเรื่องกับเรตติ้ง พี่เชื่อว่าไม่มีใครหรอกที่สร้างเรตติ้งได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว มันเป็นธุรกิจที่ต้องใช้เวลา”
เพราะมีกลุ่มสิริวัฒนภักดีเข้ามาถือหุ้นด้วยหรือเปล่า ?
“ตรงนี้ต้องขอยืนยันว่าทางกลุ่มของสิริวัฒนภักดีที่เข้ามาน่ารักมากๆ เพราะมันก็มีข่าวออกไปว่าเข้ามาทำให้พี่ต้องมีข่าวแบบนี้ ต้องเรียนว่าไม่มีอะไรเลย ทางคุณหนุ่ม ฐาปน สิริวัฒนภักดี ไม่ได้เข้ามาสร้างแรงกดดันใดๆ ทั้งสิ้น เราต้องทำงานด้วยกัน พี่ก็ต้องรับนโยบายจากคุณหนุ่มและคุณไพบูลย์คนละครึ่งอยู่แล้ว”
ถามถึงเรื่องที่ ต๊ะ นารากร โพสต์ข้อความมีนัย ทำให้โซเชียลร้อนระอุขึ้น ?
“พี่ไม่รู้จริงๆ ไม่มีอะไรจะฝากบอกเขาหรอกค่ะ พี่ต๊ะเขาเป็นนักข่าว แน่นอนว่าพอเขารู้ข่าวอะไรด้วยสัญชาตญาณของความเป็นนักข่าวก็คงต้องแพร่กระจายอะไรไปเป็นเรื่องปกติ แต่พี่ไม่ได้รู้สึกอะไร ขอบคุณจริงๆ ค่ะที่ทุกคนเป็นห่วง”
มีข่าวออกมาอีกว่า GMM 25 ขายหุ้นเพิ่ม ?
“ไม่ค่ะ ไม่มีอะไรเคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น ทุกอย่างยังเป็น 50:50 ในส่วนของพนักงานก็ยังเหมือนเดิม ยังไม่เห็นใครขยับไปไหนเพิ่มเติม มีแค่พี่ฉอดที่เปลี่ยนบทบาทรับผิดชอบนิดหน่อย แต่ทุกอย่างเหมือนเดิม สบายใจกันนะคะ ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงค่ะ ถ้าไปไหนจริงๆ จะบอกทุกคนค่ะ (ยิ้ม)”