เนื้อหาในหมวด หนัง-ละคร

ดูแล้วบอกต่อ วิจารณ์หนัง GHOSTBUSTERS สี่สาวล่า(ฮา)ผี

ดูแล้วบอกต่อ วิจารณ์หนัง GHOSTBUSTERS สี่สาวล่า(ฮา)ผี

ดูเหมือนว่ากระแสตอบรับของ Ghostbusters ในบ้านเรา ออกจะเงียบกริบผิดหูผิดตา เพราะเอาเข้าจริงแล้ว เชื่อว่าหลายคนที่โตมากับ “บริษัทกำจัดผี” ในรูปแบบดั้งเดิมที่มีทีมนักแสดงอย่าง บิล เมอร์เรย์, แดน แอ็ครอยด์, ฮาโรลด์ รามิสและเออร์นีย์ ฮัดสัน อาจจะไม่ค่อยสนใจทีมนักแสดงชุดใหม่ที่เป็นเหล่าหญิงล้วนอันประกอบไปด้วย เมลิสซา แม็คคาร์ธีย์, คริสเตน วิ้ก, เคท แม็คคินนอน, เลสลีย์ โจนส์ และพ่วงด้วยหนุ่มกล้ามโตอย่าง คริส เฮมส์เวิร์ธ  

จะว่าไปแล้วในฐานะของการรีบูตและมองหนัง Ghostbusters ในมุมมองใหม่นั้นก็ควรมองหนังในทิศทางใหม่ไปเลย สืบเนื่องจากตัวละครหลักในการเดินเรื่องเป็นผู้หญิง แถมยังว่าด้วยการรวมกลุ่มแบบผู้หญิงไปอีก บรรดาหนุ่มๆดูแล้วอาจจะเกิดอาการรำคาญความ “เยอะ” ของเหล่าสตรีทั้ง 4 นางที่แย่งกันพูด แย่งผู้ชาย (คริส เฮมส์เวิร์ธ) แต่สำหรับคนดูเพศหญิงแล้ว นี่อาจจะเป็นความแฟนตาซีที่พวกเธออาจจะได้รับความรู้สึกเหมือนดูเพื่อนสาวที่ต้องออกไปลุยปราบผี และมีผองเพื่อนที่รู้ใจให้เมาท์มอยผู้ชาย 

มิตรภาพแบบผู้หญิงที่ก่อตัวในหนังนั้น อาจจะทำให้คนดูผู้หญิงสนุกไปกับการเห็นตัวละครปราบเหล่าผี ที่ดูตลกมากกว่าเป็นภัยคุกคาม ซึ่งเอาเข้าใจหนังก็วางตัวเองมาในทิศทางแบบนั้น ที่เน้นความบันเทิงไม่ซีเรียส เคร่งขรึมนัก และกว่า 50% ของมุกตลกในหนังเรื่องนี้ไม่ใช่มุกตลกประเภทตัวละครเจ็บตัว แต่เป็นมุกเสียดสี มุกการใช้ภาษา คำและสแลง รวมถึงมุกล้อเลียนหนังดังในอดีต ซึ่งแน่นอนคนที่เข้าใจมุกตลกก็จะขำมาก ส่วนคนที่ไม่เข้าใจก็คงจะเกิดอาการงง

แม้ว่าหนังพยายามจะอ้างว่าแท้ที่จริงแล้วผีก็เป็นพลังงานทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถตรวจจับ วิเคราะห์และใช้หลักฟิสิกส์อธิบายได้ แต่หนังก็ไม่ได้เน้นความสมจริงตามหลักวิทยาศาสตร์ใดๆ แต่หยิบขึ้นมาเพื่อใช้รองรับสถานการณ์วายป่วงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตามเวลาที่หนังดำเนินไปมากกว่า 

น่าเสียดายที่เราสัมผัสได้ว่านักแสดงนำหญิงอย่างเมลิสซา แม็คคาร์ธีย์และคริสเตน วิ้ก ปล่อยของได้ไม่ดีเท่าหนังเรื่องก่อนๆของเธอ พวกเธอดู “ไม่สุด” ในหลายๆครั้ง และยิ่งพวกเธอพยายามมากแค่ไหน พวกเธอก็ดู “ตลกฝืด” มากขึ้นเท่านั้น ส่วนบทของเลสลีย์ โจนส์ เธอก็ดูเป็นบทตลกคนผิวดำขี้โวยวายและเล่นใหญ่แบบรัชดาลัยเธียเตอร์เข้าว่า ส่วนบทบาทของคริส เฮมสเวิร์ธนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรมากมายนอกจากการรับบทเป็นหนุ่มหล่อสมองกลวง มีแต่กล้ามและมาเพื่อให้สาวๆมี “อาหารตา” แก้เซ็งนั่นเอง

ในภาพรวมนั้น Ghostbusters ฉบับผู้หญิงล้วน เป็นหนังที่พอดูได้ไม่ได้ดีเด่น แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ย่ำแย่แบบหนังรีบูตหรือรีเมคแบบเรื่องอื่นๆ เพียงแต่หนังควรจะ “สนุก” ได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้ 

@พริตตี้ปลาสลิด

2.5 คะแนนจาก 5 คะแนน

Ghostbusters: Frozen Empire บริษัทกำจัดผี ภาคใหม่กลับมาแล้ว

Ghostbusters: Frozen Empire บริษัทกำจัดผี ภาคใหม่กลับมาแล้ว

หลังจากการคืนชีพแฟรนไชส์ฮิตยุค 80 อย่าง Ghostbusters: Afterlife (2021) ประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยมทั้งด้านคำวิจารณ์และรายได้ พวกเขากลับมาอีกครั้งกับภาคต่อที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Ghostbusters: Frozen Empire

Ghostbusters: Afterlife ตำนานบทใหม่ของบริษัทรับปราบผี

Ghostbusters: Afterlife ตำนานบทใหม่ของบริษัทรับปราบผี

Ghostbusters คนรุ่นใหม่ที่อายุต่ำกว่า 30 อาจจะไม่รู้จัก หรือไม่ก็คงพอจะคุ้นๆเหมือนเคยจะได้ยินชื่อมาแบบแว่วๆ ในปีนี้ Ghostbusters: Afterlife คือภาคต่อ ที่สานต่อเรื่องราวจากแฟรนไชส์ดั้งเดิมในปี 1984 กับเรื่องราวสุดตื่นเต้นครั้งใหม่

ผู้กำกับ Ghostbusters ต้นฉบับ ร้องไห้โฮหลังจากได้ดูหนังฉบับใหม่ที่กำกับโดยลูกชาย โดย ตั๋วร้อนฯ

ผู้กำกับ Ghostbusters ต้นฉบับ ร้องไห้โฮหลังจากได้ดูหนังฉบับใหม่ที่กำกับโดยลูกชาย โดย ตั๋วร้อนฯ

มันคงจะรู้สึกดีไม่น้อยที่ตำนานของคุณพ่อ ถูกลูกชายหัวแก้วหัวแหวนสานต่อแล้วออกมาดีจนคุณพ่อร้องไห้โฮ นี่คือการพูดถึงหนัง Ghostbusters : Afterlife โดย ตั๋วร้อน ป๊อปคอร์นชีส

GHOSTBUSTERS เมื่อสี่สาวถึงคราวปราบผี!

GHOSTBUSTERS เมื่อสี่สาวถึงคราวปราบผี!

เด็กยุคใหม่คงจะไม่คุ้นชื่อ Ghostbusters กันสักเท่าไหร่ แต่ถ้าแฟนหนังในยุค 80 หลายคนคงจะคุ้นชื่อหนังเรื่องนี้เป็นอย่างดี เพราะคือบริษัทกำจัดผีชื่อดังในอดีตที่เป็นหนังฮิตมากและมีโลโก้รถปราบผี Ecto-1 รวมถึงโลโก้ของบริษัท