เนื้อหาในหมวด การเงิน

แจก “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” เพิ่มอีก 3 ล้านราย เริ่ม 21 ธันวาคม 2561 ใช้จริงวันปีใหม่

แจก “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” เพิ่มอีก 3 ล้านราย เริ่ม 21 ธันวาคม 2561 ใช้จริงวันปีใหม่

นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางได้จัดทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติมในกลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนได้ในปี 2560 โดยจะเริ่มแจกบัตรฯ ทั่วประเทศ จำนวน 3,042,741 ราย ซึ่งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่จะแจกในครั้งนี้ มี 2 แบบ ได้แก่

  • บัตรแบบ Contactless เป็นบัตรที่สามารถใช้ได้กับเครื่องรับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ชนิดโมบาย ที่จะแจกให้กับผู้มีสิทธิที่แจ้งที่อยู่ปัจจุบันใน 7 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม
  • บัตรแบบ Smart Card ซึ่งจะแจกให้กับผู้มีสิทธิในจังหวัดอื่น ๆ นอกเหนือจาก 7 จังหวัดข้างต้น
  • ขณะนี้ ได้จัดส่งบัตรไปที่สำนักงานคลังจังหวัดทุกจังหวัดและกรุงเทพมหานครเรียบร้อยแล้ว เพื่อส่งต่อให้ถึงมือผู้มีสิทธิได้รับบัตรตามที่มีการประกาศรายชื่อ โดยกำหนดระยะเวลาในการรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ดังนี้

  • ตั้งแต่วันที่ 21 – 28 ธันวาคม 2561 รับบัตรฯ ระดับตำบล-ชุมชน ซึ่งจะแจ้งจุดรับบัตรให้ทราบ และเริ่มใช้บัตรได้ในวันที่ 1 มกราคม 2562
  • ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2561 – 31 มกราคม 2562 รับบัตรฯ ระดับตำบล-ชุมชน ซึ่งจะแจ้งจุดรับบัตรให้ทราบ และบัตรจะเริ่มใช้ได้หลังจากรับบัตรไปแล้ว 2 วันทำการ
  • ตั้งแต่วันที่ 1 – 28 กุมภาพันธ์ 2562 ต้องไปรับบัตร ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือสำนักงานเขตในกรุงเทพมหานคร ตามที่อยู่ปัจจุบันที่ลงทะเบียนไว้ และบัตรจะเริ่มใช้ได้หลังจากรับบัตรไปแล้ว 2 วันทำการ
  • หากพ้นระยะเวลาดังกล่าว ผู้มีสิทธิจะต้องไปรับบัตรที่สำนักงานคลังจังหวัดหรือศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ในจังหวัดที่ผู้มีสิทธิได้ลงทะเบียนไว้ และบัตรจะเริ่มใช้ได้หลังจากรับบัตรไปแล้ว 2 วันทำการ
  • การขอรับบัตรฯ ให้ผู้มีสิทธินำบัตรประจำตัวประชาชนมารับบัตรด้วยตนเอง หากมอบให้ผู้อื่นมารับบัตรแทน ต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของผู้มีสิทธิและผู้มอบอำนาจ พร้อมด้วยหนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรฯ ของผู้มอบอำนาจที่ได้ลงนามรับรองสำเนาถูกต้องแล้ว  ทั้งนี้ ผู้ที่มารับบัตรทุกกรณีจะต้องลงชื่อเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันการรับบัตรด้วย

    เมื่อผู้มีสิทธิได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติมแล้ว จะสามารถใช้สิทธิได้ 2 ประเภท ได้แก่

  • สิทธิในกระเป๋าวงเงิน ประกอบด้วย
  •           1.1 ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

    • วงเงินค่าโดยสารรถ ขสมก.- รถไฟฟ้า จะได้รับ 500 บาทต่อคนต่อเดือน ใช้ได้สำหรับผู้มีสิทธิที่ได้รับบัตรแบบ Contactless เท่านั้น เมื่อผู้มีสิทธิต้องการใช้จ่ายเป็นค่าโดยสารรถไฟฟ้า ให้นำบัตรไปที่ห้องจำหน่ายตั๋วตามสถานีเพื่อแตะและแลกรับเป็นเหรียญแทนเงิน (Token) ส่วนผู้มีสิทธิที่ต้องการใช้จ่ายเป็นค่าโดยสารรถ ขสมก. พนักงานเก็บเงินจะมีเครื่องรับชำระค่าโดยสาร (Handheld) ไว้ที่ตัวเอง โดยจะนำบัตรไปแตะที่เครื่องและเลือกอัตราค่าโดยสารตามระยะทาง ซึ่งจะเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้มีบัตร
    • วงเงินค่าโดยสารรถ บขส. จะได้รับ 500 บาทต่อคนต่อเดือน โดยการใช้สิทธิจากจุดจำหน่ายบัตรโดยสารรถ บขส.
    • วงเงินค่าโดยสารรถไฟ จะได้รับ 500 บาทต่อคนต่อเดือน โดยการใช้สิทธิจากจุดจำหน่ายบัตรโดยสารรถไฟทุกสถานี (รฟท.)

              1.2 ค่าใช้จ่ายในครัวเรือน

    • วงเงินซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคในร้านธงฟ้าประชารัฐ สำหรับผู้มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี จะได้รับวงเงิน 300 บาทต่อคนต่อเดือน ส่วนผู้มีรายได้เกินกว่า 30,000 บาทต่อปี จะได้รับวงเงิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน
    • วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าที่กระทรวงพลังงานกำหนด จะได้รับ 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน

    หากวงเงินคงเหลือภายในบัตรของแต่ละเดือนจะไม่สามารถทบยอดไปใช้ในเดือนถัดไป และไม่สามารถถอนวงเงินสวัสดิการออกมาเป็นเงินสดได้

  • สิทธิในกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ประกอบด้วย
    • มาตรการสนับสนุนค่าใช้จ่ายช่วงปลายปี คนละ 500 บาท (จ่ายเพียงครั้งเดียว) จะโอนเงินเข้าบัตรให้ในวันที่ 1 มกราคม 2562
    • มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา ผู้มีสิทธิจะได้รับช่วยเหลือค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 230 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน สำหรับการใช้จ่ายตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 – กันยายน 2562 โดยจะโอนเงินเข้าบัตรตามจำนวนที่ได้รับแจ้งจากการไฟฟ้าและการประปา ทุกวันที่ 18 ของเดือน เริ่มจ่ายเดือนแรกวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562
    • มาตรการช่วยเหลือค่าเช่าบ้าน สำหรับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่มีอายุครบ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งมีภาระค่าเช่าบ้านและไม่มีที่อยู่อาศัย จะได้รับเงินช่วยเหลือ จำนวน 400 บาทต่อคนต่อเดือน หากผู้มีสิทธิรายใดมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในระหว่างเดือนธันวาคม 2561 จนถึงเดือนกันยายน 2562 จะได้รับเงินในเดือนเกิดเป็นครั้งแรกจนสิ้นสุดมาตรการ โดยจะโอนเงินเข้าบัตรให้ในวันที่ 1 มกราคม 2562 เป็นเดือนแรก จากนั้นจะโอนเงินช่วยเหลือให้ทุกวันที่ 12 ของเดือนเกิด
    • มาตรการช่วยเหลือค่าเดินทางไปรับการรักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอื่นเกี่ยวกับสุขภาพ สำหรับผู้มีสิทธิที่มีอายุครบ 65 ปีขึ้นไป ระหว่างเดือนธันวาคม 2561 – กันยายน 2562 ได้รับเงินคนละ 1,000 บาท (จ่ายเพียงครั้งเดียว) โดยจะโอนเงินเข้าบัตรให้ในวันที่ 1 มกราคม 2562 เป็นเดือนแรก จากนั้นจะโอนเงินให้กับผู้มีสิทธิที่มีอายุครบ 65 ปี ทุกวันที่ 21 ของเดือนเกิด

    นอกจากนี้ ผู้มีสิทธิที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินสงเคราะห์เพื่อยังชีพ จากบัญชีกองทุนผู้สูงอายุสำหรับภาษีสรรพสามิตและสุรายาสูบ โดยแบ่งออกเป็น 2 กรณี ได้แก่

  • ผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินสงเคราะห์ฯ 100 บาทต่อคนต่อเดือน
  • ผู้สูงอายุที่มีรายได้เกินกว่า 30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินสงเคราะห์ฯ 50 บาทต่อคนต่อเดือน เริ่มโอนเงินเข้าบัตรให้ในวันที่ 1 มกราคม 2562 เป็นเดือนแรก จากนั้นจะโอนให้ทุกวันที่ 15 ของเดือน สำหรับผู้สูงอายุที่อายุยังไม่ครบ 60 ปี จะได้รับเงินในวันที่ 15 ของเดือนเกิด จนถึงเดือนมีนาคม 2562
  • อธิบดีกรมบัญชีกลาง ย้ำว่า ผู้มีสิทธิที่รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในระหว่างวันที่ 21 - 28 ธันวาคม 2561 จะเริ่มใช้สิทธิที่กล่าวข้างต้นได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 เป็นต้นไป  หากไปรับบัตรหลังจากวันดังกล่าว จะสามารถใช้สิทธิได้หลังจากรับบัตรไปแล้ว 2 วันทำการ เพราะจะต้องส่งรายงานรายชื่อผู้รับบัตรให้สำนักงานคลังจังหวัด หรือกรมบัญชีกลาง จากนั้นจะส่งข้อมูลดังกล่าวให้กับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ดำเนินการเปิดสิทธิของบัตร (Activate) ป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่มีสิทธินำเงินในบัตรไปใช้ เช่น ผู้มีสิทธิไปรับบัตรในวันที่ 2 มกราคม 2562 จะเริ่มใช้สิทธิต่างๆ ได้ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2562 เป็นต้น 

    ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางได้จัดทำแผ่นประชาสัมพันธ์รายละเอียดข้อมูลต่างๆ ให้กับผู้มารับบัตรทุกคน  สำหรับเงินที่ผู้มีสิทธิได้รับการโอนเงินเข้ากระเป๋า e-Money ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งผู้มีสิทธิไม่จำเป็นต้องรีบถอนเงินทันที เพราะไม่จำกัดเวลาในการใช้จ่าย และไม่มีการดึงเงินกลับเข้าสู่ระบบแต่อย่างใด

    >> เว็บตรวจผลลงทะเบียนบัตรคนจน 3 เว็บ แค่พิมพ์เลขบัตรประชาชน 13 หลัก

    >> เปิด 4 สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมใน "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" รับปีใหม่

    >> ไม่ต้องรีบกดเงิน 500 บาท ออกจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพราะเงินไม่หายไปไหน

    >> “บัตรคนจน” เตรียมลงทะเบียนรับสิทธิ์ช่วยเหลือ “ค่าน้ำ-ค่าไฟ”

    จับตา คนละครึ่ง-เพิ่มเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน ครม. จ่อคิกออฟกระตุ้นเศรษฐกิจ?

    จับตา คนละครึ่ง-เพิ่มเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน ครม. จ่อคิกออฟกระตุ้นเศรษฐกิจ?

    คนละครึ่ง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน รอลุ้นผลที่ประชุม ครม. อนุมัติดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจ

    ลงทะเบียนคนละครึ่ง แจก 3,000 บาท คลังการันตี 29 ก.ย. นี้ ชัดเจนแน่นอน!

    ลงทะเบียนคนละครึ่ง แจก 3,000 บาท คลังการันตี 29 ก.ย. นี้ ชัดเจนแน่นอน!

    ลงทะเบียนคนละครึ่ง แจก 3,000 บาท กระทรวงการคลัง มั่นใจวันที่ 29 ก.ย. นี้ เข้าที่ประชุม ครม. ชัวร์ พร้อมเผยสาเหตุที่เลื่อนเพราะสภาพัฒน์ขอพิจารณารายละเอียดเพิ่มเติม

    บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน เตรียมเปิดลงทะเบียนรอบใหม่เมื่อไหร่กันแน่?

    บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน เตรียมเปิดลงทะเบียนรอบใหม่เมื่อไหร่กันแน่?

    บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน กระทรวงการคลังเผยเตรียมเปิดลงทะเบียนในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ย้ำรอสถานการณ์โควิด-คลี่คลาย

    คลังชงแจกเงิน 1,000-2,000 บาท กระตุ้นเศรษฐกิจ กู้วิกฤตไวรัสโคโรนา

    คลังชงแจกเงิน 1,000-2,000 บาท กระตุ้นเศรษฐกิจ กู้วิกฤตไวรัสโคโรนา

    คลังเตรียมออกมาตรการดูแลและลดผลกระทบจากไวรัสโคโรนา (โควิด-19) คาดใช้งบกว่าแสนล้านบาทครอบคลุมทุกกลุ่ม แจกเงิน 1,000-2,000 บาท เพื่อเป็นค่าครองชีพย้ำกำลังดูว่าคุ้มมั้ย?

    บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จ่อเปิดลงทะเบียนเดือน ม.ค. 63 ดันมารดาประชารัฐร่วมด้วย

    บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จ่อเปิดลงทะเบียนเดือน ม.ค. 63 ดันมารดาประชารัฐร่วมด้วย

    กระทรวงการคลัง คาดเปิดลงทะเบียนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ในช่วงปลายเดือน ม.ค. 63 พร้อมลุยต่อแก้ปัญหาความยากจนอย่างจริงจัง