เนื้อหาในหมวด การเงิน

เจาะทรัพย์สิน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาร์ค นักการเมืองชื่อดัง กับเงินทองที่พอมี

เจาะทรัพย์สิน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาร์ค นักการเมืองชื่อดัง กับเงินทองที่พอมี

ทรัพย์สิน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หรือ มาร์ค นักการเมืองชื่อดังแห่งพรรคประชาธิปัตย์ มีทรัพย์สินที่พอดิบพอดี

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หรือมาร์ค เป็นนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ และนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของไทย ดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2551 จนกระพ้นจากตำแหน่ง ในปี 2554

ประวัติ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

นายอภิสิทธิ์ เกิดที่เมืองนิวคาสเซิล ประเทศอังกฤษ เป็นลูกชายคนเดียวและ คนสุดท้องใน จำนวน 3 คน ของ ศ.นพ.อรรถสิทธิ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล และศ.พญ.สดใส เวชชาชีวะ เมื่ออภิสิทธิ์มีอายุไม่ถึงหนึ่งปี ครอบครัวเวชาชีวะก็เดินทางกลับเมืองไทย

อภิสิทธิ์ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่เข้าสู่สนามการเมืองค่อนข้างเร็วมากในสมัยนั้น โดยเริ่มเข้าสู่สนามการเมืองด้วยการเป็นอาสาสมัครช่วยหาเสียงให้กับ พิชัย รัตตกุล ในเขตคลองเตย ช่วงปิดภาคเรียนที่กลับมาเมืองไทย ต่อมาได้เข้าช่วยงานด้านวิชาการในเรื่องแผนพัฒนาเศรษฐกิจให้กับชวน หลีกภัย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ขณะนั้น

ก่อนจะลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคประชาธิปัตย์ ได้เป็น ส.ส. กรุงเทพมหานคร เมื่อปี 2535 ขณะมีอายุได้เพียง 27 ปี ซึ่งนับว่าเป็น ส.ส. ที่มีอายุน้อยที่สุดในขณะนั้น และเป็น ส.ส.เพียงคนเดียวของพรรคประชาธิปัตย์ในเขตกรุงเทพมหานครและพื้นที่ภาคกลาง ท่ามกลางกระแส "มหาจำลองฟีเวอร์" กับการเป็นนักการเมือง "หน้าใหม่" ที่เพิ่งลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นครั้งแรก

อภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต่อจากบัญญัติ บรรทัดฐาน ตั้งแต่ 5 มีนาคม 2548 หลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับคะแนนเสียงน้อยกว่าพรรคไทยรักไทยในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเทศไทย 2548 และอภิสิทธิ์ได้ลาออกจาตำแหน่งภายหลังจากพ่ายแพ้การเลือกตั้งให้กับพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้ง 2554 แต่ก็ได้รับเลือกกลับมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอีกครั้ง ในเดือนสิงหาคมของปีเดียวกัน

วันที่ 23 เมษายน 2548 อภิสิทธิ์ ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรไทย คนที่ 7 หลังแพ้การเลือกตั้งเป็นการทั่วไปในปี 2548 และมีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของนายกรัฐมนตรี และได้พ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ภายหลังจากที่มีการรัฐประหารรัฐบาลของทักษิณ ชินวัตร

นายอภิสิทธิ์ ได้เข้ารับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2551 หลังแพ้การเลือกตั้งเป็นการทั่วไปในปี 2550 ให้กับสมัคร สุนทรเวช และต่อมาในวันที่ 9 กันยายน 2551 สมัคร สุนทรเวช ถูกศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และมีการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เป็นผลให้สมชาย วงศ์สวัสดิ์ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อมา จวบจนกระทั่งเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2551 ได้มีการยุบพรรคพลังประชาชน และเป็นเหตุให้สมชาย วงศ์สวัสดิ์ พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และ ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี จึงทำให้มีการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่อีกครั้งหนึ่งผลปรากฏว่า อภิสิทธิ์ ได้คะแนนเสียงในสภามากกว่า จึงได้เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 17 ธันวาคม 2551 เรียกได้ว่าทั้งชีวิตของนายอภิสิทธิ์ ทุ่มเทให้กับวงการการเมืองอย่างมาก

ทรัพย์สินของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

สำหรับ ทรัพย์สินของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถือว่าน่าสนใจทีเดียว โดยข้อมูลจากสำนักข่าวอิศรา และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เคยรายงาน ระบุว่า นายอภิสิทธิ์ ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตอนรับตำแหน่งนายกฯ วันที่ 22 ธันวาคม 2551 แจ้งมีทรัพย์สิน 37 ล้านบาท ผศ.ดร.พิมพ์เพ็ญ ภรรยา 15.3 ล้านบาท บุตรไม่บรรลุนิติภาวะ 469,582 บาท รวม 52.8 ล้านบาท หนี้สิน 1,087,674 บาท (หนี้สินของนายอภิสิทธิ์)

ตอนพ้นตำแหน่ง นายกฯ วันที่ 10 ส.ค. 2554

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แจ้งว่ามีทรัพย์สิน 37,068,145.40 บาท ได้แก่

  • เงินฝาก 1,192,145.40 บาท
  • ที่ดิน 2 แปลง เนื้อที่ 15-1-27 ไร่ ในกรุงเทพ และปากช่อง จ.นครราชสีมา มูลค่า 19,581,000 บาท
  • โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 13,800,000 บาท
  • ยานพาหนะ รถยนต์ 2 คัน 2,070,000 บาท
  • ทรัพย์สินอื่น นาฬิกา สร้อยทองคำ 4 รายการ 425,000 บาท

ไม่มีหนี้สิน

ผศ.ดร.พิมพ์เพ็ญ มีทรัพย์สิน 16,780,237.10 บาท ได้แก่

  • เงินฝาก 7,742,237.10 บาท
  • เงินลงทุน พันธบัตรออมทรัพย์ธนาคารแห่งประเทศไทย 5,000,000 บาท
  • ทรัพย์สินอื่น นาฬิกา เครื่องประดับ 25 รายการ 4,038,000 บาท

ไม่มีหนี้สิน

บุตรไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สิน เงินฝาก 507,503.04 บาท

รวมมีทรัพยสินทั้งสิ้น 54,355,885.54 บาท

ธุรกิจรายได้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

Sanook Money ได้ตรวจสอบข้อมูลจาก Creden Data ที่รวบรวมรายชื่อบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พบว่ามี บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2537 พบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท โดยเข้ามานั่งเป็นกรรมการเมื่อปี 2567 แจ้งดำเนินธุรกิจบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ตรามาม่าผงซักฟอก เปา ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 330,000,000 บาท โดยมีผลประกอบการย้อนหลังดังนี้

  • ปี 2563 รายได้ 32,298,733,857 บาท กำไร 1,560,981,661 บาท
  • ปี 2564 รายได้ 33,554,548,260 บาท กำไร 1,599,421,543 บาท
  • ปี 2565 รายได้ 35,222,039,315 บาท กำไร 1,652,831,501 บาท
  • ปี 2566 รายได้ 37,848,037,882 บาท กำไร 2,264,568,268 บาท

ปี 2566 มีสินทรัพย์รวม 36,570,846,877 บาท หนี้สินรวม 11,114,227,743 บาท