โยงไทย...ให้เลือกข้าง อยู่ตรงกลางในเกมออฟโธรนส์!!!
ไม่นานมานี้ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้พูดต่อหน้าแขกจากต่างประเทศในการประชุมที่ปักกิ่งว่า “พวกเราต้องทำให้มั่นใจได้ว่า เราไม่ได้อาศัยอยู่ในโลกที่กำลังเข้าสู่สงครามอันวุ่นวายใน 7 อาณาจักรแห่งเวสเทอรอส”
ซึ่งหากใครได้ดูซีรีย์เกม ออฟ โธรนส์ มหาศึกชิงบัลลังก์ จะรู้ดีว่า ในการแย่งชิงความเป็นผู้นำที่มีอำนาจของเมืองต่าง ๆ โยงใยพันธมิตรและความเป็นศัตรู ซึ่งแต่ละตอนจะมีตัวละครที่เป็นเหยื่อของความขัดแย้ง
หากดูข่าวจากสื่อต่างประเทศ ที่สะท้อนภาพความกดดัน การหาจุดสมดุลของมหาอำนาจอย่างอเมริกา และจีน และมีตัวแปรที่สำคัญอย่างญี่ปุ่นและรัสเซีย ซึ่งการที่สื่อต่างประเทศจับสัญญาณร้อนแรง การเมืองโลก สงครามการค้า
อเมริกา จีน ชิงความได้เปรียบบนพื้นที่สื่อ ทำให้ประเทศเล็ก ๆ อย่างไทย ต้องมีความรู้ความเข้าใจ และบทบาทสื่อไทยมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ในการสร้างภูมิคุ้มกันให้คนไทยมีสติ เอาหลัก ความจริง และคำนึงถึงการพัฒนา และความมั่นคงของประเทศด้วย
ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ไม่ให้ประเทศไทย ตกเป็นเหยื่อการเมืองโลก ที่เกิดจากสื่อที่ขาดความรับผิดชอบ แต่สื่อสารแบบเป็นกลาง เพราะอย่างไรไทยก็เป็นมิตรกับทุกคน
ท่ามกลางสงครามที่ไม่ได้ใช้อาวุธ แต่ใช้สงครามข่าวสารชิงพื้นที่สื่อ ซึ่งไทยก็เปิดใจรักทุกคน แต่ยังไงก็ต้องระวังการถูกจับชนของคนไม่หวังดี!!
หากไทยเรารู้ไม่เท่าทัน ทะเล่อทะล่า ไม่ดูตาม้าตาเรือ โดยเฉพาะสื่อไทย จะช่วยเป็นภูมิคุ้มกันให้ประเทศได้ หากมองภาพขาด ไม่พลาดเป็นเครื่องมือในระดับมหภาคให้กับการเมืองโลก มิเช่นนั้น ไทยอาจเผลอเข้าไปในสนามรบของ เกม ออฟ โธรนส์ โดยไม่รู้ตัว
อย่างเช่นอีอีซีที่ควรจะเป็นความได้เปรียบของไทยในการดึงพันธมิตรจากทั่วโลก สร้างจุดสมดุลของประเทศต่าง ๆ ในการมาลงทุน แต่หากสื่อไทยไม่ทันเกม มองว่าไทยเลือกข้าง ไม่เป็นกลางในสงครามการค้า
ทำไปทำมาอาจถูกดึงมาเป็นส่วนหนึ่งของสนามรบความขัดแย้ง Battle Field ซึ่งหากไทยหลงกลเข้าไป สื่อโหมกระแสโดยไม่ได้ตั้งใจ เราอาจทำร้ายประเทศและคนไทยด้วยกันโดยไม่รู้ตัว เพราะเรากำลังอยู่ในสงครามข้อมูลข่าวสาร
อีกตัวอย่างของสงครามข่าวสารของโลกในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมากับวิชามโนแจ่ม ที่พยายามสร้างประเด็นความสัมพันธ์กับจีนที่สื่อนอกตีข่าว และลากยาวมาถึงสื่อไทย หวังจุดกระแสซีพีดึงจีนมาลงทุนอีอีซี ปั่นดีกรีชี้ความสัมพันธ์ไทย-จีน
ทั้งที่ข้อมูลจริง ๆ หากดูพันธมิตรร่วมลงทุนกลุ่มซีพี ในโครงการใหญ่ ๆ ของอีอีซี มีทั้งจากญี่ปุ่น อิตาลี จีน เกาหลี และอีกหลายประเทศ ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของไทย ในการเปิดเวทีการค้ากับทุกประเทศในโลก
และที่สำคัญซีพีมีการค้ากับอเมริกามากมาย เช่น การเข้าซื้อกิจการ Bellisio ที่สหรัฐฯ ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ทั้งไทยและสหรัฐ และผู้บริโภคในไทย รวมถึงคนทำงานในสหรัฐด้วยเช่นกัน
ซึ่งถือว่าเป็นเอกชนไทยที่ทำการค้ากับทุกประเทศในโลก ทำให้ประเด็นนี้ตกไป เพราะภาพซีพีชัดเจนว่าทำการค้าอยู่กับร้อยกว่าประเทศทั่วโลกทั้งจีนและอเมริกา
ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่า เสพข่าวทั้งทีต้องใจแข็ง แม้กระทั่งข่าวการลาออกจากบอร์ดของเจ้าสัวธนินท์ สื่อนอกยังบอกว่า จะรับตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งซีพีปฏิเสธทันควันว่า เป็นแผนการส่งไม้ต่อผู้นำรุ่นต่อไป ส่วนนายใหญ่ เดินหน้าสร้างผู้นำ เน้นสร้างคน และความยั่งยืน
ดังนั้น ประเทศไทยต้องมีภูมิคุ้มกัน ไม่ให้เกิดกระแสพาไป มีสติบนข่าวสารที่ถูกต้อง ไม่ตกไปอยู่ในความขัดแย้งของการเมืองระดับโลก ทำโครงการใหญ่ ๆ ตอบโจทย์คนไทย ชนะใจระดับโลก ไม่สร้างบรรยากาศความขัดแย้ง เลือกข้าง
แต่สร้างความน่าลงทุนในประเทศไทย เพราะยังไงอย่าเอาไทยเป็นสนามรบ ไม่ว่าจะทางข่าวสาร หรือสนามรบทางการค้า แต่ควรทำให้ไทยเป็นจุดที่น่าลงทุนของทุกประเทศ นี่แหละคือความท้าทายที่คนไทยต้องช่วยกัน!!!!