เนื้อหาในหมวด สุขภาพ

3 วิธีง่ายๆ เช็ค “ต้อหิน” รู้ตัวก่อนเสี่ยงตาบอดถาวร

3 วิธีง่ายๆ เช็ค “ต้อหิน” รู้ตัวก่อนเสี่ยงตาบอดถาวร

ด้วยอายุที่มากขึ้น และอาจจะด้วยการขาดความเอาใจใส่ในสุขภาพดวงตาของหนุ่มสาวสมัยนี้ ทำให้ในเมืองไทยพบผู้ป่วยโรค “ต้อหิน” มากขึ้นเรื่อยๆ และมีแนวโน้มว่าจะอายุน้อยลงเรื่อยๆ เสียด้วย ซ้ำร้าย กว่าผู้ป่วยจะรู้ตัวว่ากำลังเป็นโรคต้อหิน อาจจะสายเกินแก้ ต้องสูญเสียการมองเห็นไปชั่วชีวิต เพราะ 9 ใน 10 ไม่มีอาการบ่งบอก ดวงตาถูกทำลายไปกว่า 50% จนกลายเป็นตาบอดถาวร

เพราะฉะนั้น Sanook! Health จึงขอนำข้อมูลจากโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ สภากาชาดไทย มาให้เพื่อนๆ ได้ตรวจเช็คสุขภาพดวงตา ตรวจหาอาการของโรคต้อหินได้ด้วยตัวเองแบบง่ายๆ กันค่ะ

ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนเนอะ ว่าใครอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเป็นพิเศษบ้าง

 

กลุ่มเสี่ยงโรคต้อหิน

  • วัยกลางคนที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป

  • พบประวัติสมาชิกในครอบครัวเคยเป็นโรคต้อหิน

  • เป็นคนที่มีสายตายาวมาก หรือสั้นมากๆ

  • เคยใช้ยาประเภทสเตียรอยด์เป็นระยะเวลาหนึ่ง

  • เป็นผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบเลือด เส้นเลือด หรือโรคเบาหวาน
  •  

    3 วิธีง่ายๆ เช็ค “ต้อหิน”

  • เช็คความคมชัดของสายตาตัวเอง โดยการปิดตา แล้วมองไปที่วัตถุใดวัตถุหนึ่ง เช่น ป้ายที่มีตัวอักษร โดยปิดตามองทีละข้าง

  • สังเกตภาพจากด้านข้างก่อน ว่ามีความคมชัดเท่ากับภาพตรงกลางหรือไม่ เพราะปกติการสูญเสียการมองเห็นมักเริ่มจากด้านข้างก่อน

  • หากเป็นอาการต้อหินปกติ อาการจะค่อยๆ เป็นอย่างช้าๆ จนผู้ป่วยอาจไม่ทันได้สังเกตถึงความผิดปกติของสายตาตัวเอง แต่หากเป็นต้อหินเฉียบพลัน จะมีอาการปวดศีรษะ ปวดตาอย่างรุนแรง และเฉียบพลัน ตาแดง น้ำตาไหล ดวงตาสู้แสงไม่ได้ ตามัว เห็นแสงสีรุ้งรอบดวงไฟ และคลื่นไส้อาเจียนได้
  •  

    วิธีรักษาโรคต้อหิน

    - รักษาด้วยยา หยอดตาเพื่อลดความดันในดวงตาให้อยู่ในสภาพปกติ สร้างน้ำหล่อเลี้ยงในลูกตา และช่วยให้การไหลเวียนออกของน้ำหล่อเลี้ยงในลูกตาดีขึ้น

    - ใช้เลเซอร์ ตามแต่ละประเภทของโรคต้อหินที่พบ

    - การผ่าตัด สำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถใช้วิธีเลเซอร์ได้

     

    หากพบอาการผิดปกติควรรีบพบจักษุแพทย์ แต่ถ้าจะให้ดี ควรตรวจสุขภาพตากับแพทย์ทุกๆ 6 เดือนหรือ 1 ปี เพื่อป้องกันโรคต้อหิน ก่อนที่จะทำลายประสาทตาจนสูญเสียการมองเห็นถาวรค่ะ