เปิดชีวิตนักแสดง "เจี๊ยบ ปวีณา" เผยแต่งงานแบบเงียบๆ มา 20 ปีแล้ว
คร่ำหวอดในวงการมานานหลายปี สำหรับนักแสดงรุ่นใหญ่ เจี๊ยบ ปวีณา ที่ตอนนี้เจ้าตัวได้รับฉายาเป็นแม่ทุกสถาบัน เพราะละคร ทุกเรื่องที่เล่นดังหมดทุกเรื่อง
ล่าสุด เจ้าตัวได้มาเปิดใจอีกแง่มุมของชีวิตที่ไม่มีใครรู้ผ่านทางรายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง One31
ตอนนี้ได้รับฉายาเป็นแม่ทุกสถาบัน
"ใช่ค่ะ มีคนเขามอบตำแหน่งมาให้ ก็โอเคนะคะ ได้เป็นแม่พระเอก นางเอกเกือบทุกคนเลย"
ถ้าย้อนกลับไปตอนเข้าวงการแรกๆ พี่เจี๊ยบรับบทเป็นนางเอกหรือตัวร้ายค่ะ
"เป็นนางเอก ก็เป็นนางเอกร้ายก็มี"
พี่เจี๊ยบรับบทแม่มาแทบทุกสถาบัน ทำไมถึงตัดสินใจรับ เพราะบางคนไม่กล้ารับเพราะคนอื่นจะมองว่าแก่
"ไม่หรอก ถ้าเกิดไม่ได้อยู่ในจอ พี่ก็ก็จะใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ แล้วกางเกงยีนส์ขาดด้วย"
นี่จะบอกให้ฟังเรื่องกางเกงยีนขาดปวีณาใส่คนแรกนะ
"ใช่ๆ ตอนร้องเพลง จริงๆ เป็นคนชอบใส่กางเกงยีนส์"
เล่นบทแม่จำได้ไหมว่าเล่นมากี่เรื่อง
"ไม่เคยนับนะถามว่าถึงร้อยเรื่องไหม ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง"
"เล่นมาหลายเรื่องแล้ว แต่หน้าพี่ไม่เปลี่ยนเลย น้องอยากถามว่าศัลยกรรมส่วนไหนบ้างไหมคะ
"ไม่ๆ พี่ไม่ศัลยกรรมเลย กลัวเข็ม แต่จะมีประเภทกินวิตตามิน ทาครีมบำรุงผิวพรรณ"
คนเราถ้าอยู่ในวงการมาได้ขนาดนี้มันต้องมีกฎเหล็กในชีวิต
"แน่นอน กฎเหล็กข้อแรกสุดเลยคือเรื่องตรงต่อเวลา ส่วนอันอื่นก็คือทำการบ้าน ถ้ามีบทประพันธ์เราก็ไปซื้อมาอ่าน พี่จะได้เข้าใจในบทละครที่เรารับผิดชอบ"
จริงไหมพี่เจี๊ยบที่ดารารุ่นใหม่ๆ เข้ามองข้ามเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านบทประพันธ์ ตรงต่อเวลา
"พี่ว่าอาจเป็นแค่บางคน เหมารวมไม่ได้หรอก บางคนเข้าอาจจะใหม่มาก แล้วไม่เข้าใจระบบพวกนี้ว่าควรทำยังไง ซึ่งถ้าพี่ไปเล่นกับเด็กใหม่พี่ก็จะสอนเขา พี่จะบอกว่าถ้าอยู่อยากจะเข้าใจบทประพันธ์ทั้งหมดอันดับแรกหนูไปซื้อมาอ่านก่อน แต่ถ้าเกิดมันไม่มีคุณเดินไปหาผู้จัด ผู้กำกับ คนเขียนบท ถามเลยเลย ทุกวันนี้พี่ก็เป็นบางทีเป็นการเขียนบทใหม่ไม่มีหนังสือให้อ่าน"
พี่เคยเจอไหมกับคนไม่ทำการบ้านแล้วทำออกไปผิดๆ มีอีโก้ด้วย
"มันก็มีบ้าง เข้าก็จะรับผิดชอบในส่วนของเขาเอง พูดเสร็จเขาก็นิ่ง เราก็เลยบอกว่าลูกเล่นอย่างนี้ไม่ได้ เราต้องเล่นตลอดกล้องจับ 3 ตัวไม่รู้จะตัดมาเมื่อไหร่ ถ้าตัดมาแล้วหนูยืนเฉยๆ หนูก็ตายอนาถอยู่กลางฉากเลยนะ"
มาจนวันนี้ได้ กว่าชีวิตจะผ่านความลำบากในอดีต เป็นเสาหลักของครอบครัว
"ก็เป็นจนทุกวันนี้ เป็นมาตั้งแต่อายุ 15 ปี"
ทำไมพี่เจี๊ยบถึงดูแลทั้งครอบครัวคนเดียว
"คือพี่บ้านแตก คุณพ่อ คุณแม่แยกกัน พี่ก็อยู่กับคุณแม่ ส่วนคุณพ่อก็ไปมีชีวิตของเขา พี่ก็สงสารแม่ว่าแม่ต้องเป็นคนหาเงินเลี้ยงเรา ส่งเราเรียนหนังสือ พอเข้าโรงเรียน ก็มีพี่หนึ่งเขามีบุญคุณกับพี่มากเขามาชวนว่าน้องไปถ่ายโฆษณาไหม คำถามแรกที่เราถามพี่เขาว่าได้ตังไหม ถ้าได้ตังก็ไป แต่ก่อนต้องไปแคสมีคู่แข่งมากมายกว่าจะได้สักงาน"
ปัญหาสุขภาพของตัวเองก็มีหนักด้วยเช่นกัน
"ใช่พี่เป็นโรคลิ้นหัวใจสะบัดตั้งแต่เกิด พี่ก็จะเหนื่อยง่าย"
หนูติดอยู่อันนึงที่พี่โน่บอกโชคดีที่พี่ไม่มีสามี พี่ไม่มีแฟนเลยเหรอคะ
"มี พี่มีแฟนแล้ว แต่พี่จะขอให้เรื่องนี้เป็นส่วนตัวของเรา แอบแต่งงานมาเกือบ 20 ปีแล้ว"
เขาเป็นใครอยู่ในวงการหรือเปล่า
"ไม่ได้อยู่ในวงการค่ะ เป็นข้าราชการ เป็นทหารค่ะ เราเจอกันที่สนามกอล์ฟ เราคบกันมานานมากเกือบ 20 ปีแล้ว"
ทำไมไม่มีลูก
"พี่ไม่อยากมีลูก คือพี่เลี้ยงน้องมาเหมือนลูก พอน้องมีลูกพี่ก็เลี้ยงหลานมาเหมือนลูก ก็เหมือนว่าพี่มีลูกหลายรุ่นแล้ว แล้วพี่ก็รู้ว่าการเลี้ยงหลานไม่เหมือนกับเลี้ยงลูก คือพี่เป็นคนที่ทำอะไรต้องเป๊ะๆ พี่กลัวว่าถ้าพี่มีเขาพี่จะต้องการความเพอร์เฟคทุกอย่างในชีวิตเขา ก็จะกลายเป็นเราจะไปกดดันเขาไหม กลัวเป็นแบบนั้น แล้วถ้าเขารับไม่ได้เตลิดไป อิฉันคงผูกคอตายแน่นอน"
แล้วทำไมตอนแต่งงานมันไม่มีข่าวออกมาเลย
"อันนี้พี่อยากให้ส่วนตัวจริงๆ เขาเคยไปกองถ่าย เขาเห็นว่าเราทำงานหนักมาก ก็เลยคุยกันว่างานของคุณก็ทำของคุณไป ของเราก็ทำของเรา"
เห็นบอกว่าไม่เคยเจอหน้าพ่อแท้ๆ เลย
"ใช่ค่ะ คุณพ่อไปตอนประมาณพี่ 2-3 ขวบ ตอนนั้นเหมือนเขาจะไปเรียนต่อ เพราะคุณพ่อคุณแม่เจอกันตอนอายุยังน้อย พอเขาไปก็ขาดการติดต่อกันไปเลย ไม่ได้เจอกันเกือบ 20 ปี"
ปัจจุบันคุณพ่ออยู่ประเทศไทยไหม
"อยู่ค่ะ เจอกันคุยกันปรับความเข้าใจกันเรียบร้อยหมดแล้วในความเข้าใจผิดทุกเรื่อง"
จุดไหนที่เรารู้สึกว่าต้องหาเขาให้เจอ
"ต้องบอกว่าเขาหาเรามากกว่า เพราะว่าพี่เข้าวงการตั้งแต่ 17-18 ปี คุณพ่อติดต่อผ่านเพื่อนคุณแม่บอกว่าอยากเจอพี่ แม่ก็มาถามว่าโอเคหรือเปล่า พี่ก็เลยได้แล้วนัดเจอกัน"
ก่อนที่ไม่ได้เจอกันคือไม่ได้เห็นแม้กระทั่งรูปถ่าย ไม่รู้ว่าพ่อเราหน้าตาเป็นยังไงบ้าง
"ไม่รู้ แต่เราก็พยายามถามญาติๆ เพราะแม่ไม่ค่อยพูดถึง เราก็ไปถามป้าว่าพ่อหน้าตาเป็นยังไง เขาก็บอกว่าหน้าเหมือนเรา
แล้วพอได้เจอกันความรู้สึกเป็นยังไง
"ถ้าเอาความรู้สึกครั้งแรกเลยตอนนั้นพี่นั่งอยู่ในรถ เราก็เห็นเขาคุยกับป้าที่เป็นเพื่อนแม่ พอเห็นปุ๊บก็ขับรถออกมาเลย คือวินาทีนั้นมันบอกไม่ถูก จะทำตัวยังไง และเป็นความกดดันในใจที่ต้องการพ่อ ก็เลยขับรถไปตั้งหลังที่บ้าน สรุปวันนั้นก็ไม่ได้เจอ"
มันคือปมในหัวใจปมนึงเลยไหม ที่อยากจะเจอ ต้องการอยากคุย อยากปรึกษา
"เป็นนะคะ เพราะตอนเด็กๆ พี่เห็นเพื่อนที่คุณพ่อมาส่งที่โรงเรียนเขาก็จะกอดคอพ่อ กระโดดไปนั่งตักพ่อ เราก็ได้แต่ยืนดู และคิดในใจว่าพ่อเราอยู่ไหน"
แล้วกลับไปตั้งหลักนานไหมกว่าจะเจอ
"นานอยู่เป็นเดือนเลย พอเจอ เขาก็ขอกอดหน่อย วินาทีแรกมันไม่ได้ต่อต้านนะ แต่มันไม่คุ้นเคย แต่ในหัวใจก็ดีใจนะ ประโยคแรกที่ถามเขาก็คือ “หายไปไหนมา” พ่อเขาก็เลยยืนนิ่งๆ เราก็ถามเขาทุกเรื่องที่เราอยากรู้ ก็ขอให้เขาพูดตรงๆ เรารับฟังได้ แม้เหตุผลนั้นมันจะปวดใจก็ตาม"
ติดตามรายการคุยแซ่บ Show ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 14.00-15.00น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama