Art of Utility คอลเลคชั่น Spring/Summer 2022 จาก Bally
Art of Utility คอลเลคชั่น Spring/Summer 2022 จากแบลลีย์ (Bally) เปลี่ยนภาพเดิมๆ ของสปอร์ตแวร์ด้วยการเพิ่มอิสระแห่งการเคลื่อนไหวและความสบายที่ตอบโจทย์อนาคตหลังยุคโควิด ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งการแต่งตัวที่คำนึงถึงความสบายและประโยชน์ใช้สอยที่เหมาะกับทุกช่วงโอกาสมากขึ้น ไม่ว่าจะปาร์ตี้จัดเต็มหรือแต่งแบบเรียบง่ายในชีวิตประจำวัน โดยปัจจุบันเมื่อเสื้อผ้าตัดเย็บอย่างประณีตและทันสมัย จึงทำให้เราเลือกเสื้อผ้าจำนวนน้อยชิ้นลงแต่ใส่ใจในคุณภาพมากขึ้น โดยที่ยังคงสวมใส่สะดวกอย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันทรงพลังและความใกล้ชิดระหว่างเสื้อผ้ากับผู้สวมใส่
เสื้อผ้าในคอลเลคชั่นนี้เล่นกับรูปทรงที่มีวอลุ่มและการจัดสไตล์แบบเลเยอร์ เช่น การจับคู่เสื้อผ้านิตตัวใหญ่และเสื้อกั๊กหนังเข้ากับกางเกงที่พลิ้วไหว ให้ความรู้สึกสบาย อบอุ่น ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหนก็ตาม หัวใจสำคัญของคอลเลคชั่นนี้อยู่ที่ความประณีตในการตัดเย็บด้วยเทคนิคชั้นสูงและรายละเอียดสุดวิจิตร อาทิ ลายหนังถัก การต่อผ้าควิลท์อย่างประณีต การเย็บแบบวิปสติทช์ และการประดับหมุดสองชั้นบนดีไซน์ที่ตอบโจทย์การใช้งานอันหลากหลาย เช่น ทั้งกระเป๋า B-Chain รองเท้า Clogs ตัดลวดลาย รวมถึงรองเท้าสไตล์ใหม่ Moccasin ที่ใส่ได้ทั้งชายและหญิง พร้อมประดับด้วยฮาร์ดแวร์ 1851 และรองเท้า Sneaker ในสีแดงเข้ม
ด้วยแรงบันดาลใจจากดีไซน์เสื้อผ้าที่สวมใส่ในการทำงาน เช่น ผ้าสม็อกของศิลปินหรือแจ็กเก็ต Utilitarian คอลเลคชั่นนี้ได้นำสิ่งที่ธรรมดามาทำให้ไม่ธรรมดา เพื่อยกย่องคุณค่าการผลิตสินค้าด้วย Handmade โดยรูปทรงเน้นความเรียบง่าย ใช้สี Earth tone และธรรมชาติเป็นหลัก เติมความน่าสนใจด้วยลาย B-Monogram, B-Wing และลายดอกไม้ Alpine เพื่อสื่อถึงความเชี่ยวชาญการออกแบบเครื่องหนังอันเป็นเอกลักษณ์จากสวิตเซอร์แลนด์ของ Bally ที่ให้ความสำคัญกับศิลปะ และธรรมชาติ
นอกจากนี้ Bally ยังผสมผสานนวัตกรรมแห่งอนาคตและคุณค่าแห่งอดีตเข้ากันได้อย่างลงตัว ทำให้กระบวนการรังสรรค์ผลงานและงานฝีมือมีความโดดเด่น ซึ่งในคอลเลคชั่นนี้ความยั่งยืนก็มีบทบาทสำคัญด้วยเช่นกัน การใช้ผ้าจาก Preferred Materials List ของ Bally ในสัดส่วนที่มากขึ้นแสดงให้เห็นว่า Bally ให้ความสำคัญกับการจัดหาวัสดุที่ยั่งยืน เช่น ผ้าออร์แกนิกและวัสดุทดแทนหนัง นำมาใช้ร่วมกับเส้นใยธรรมชาติ เส้นใยเซลลูโลส และ เส้นใยสังเคราะห์ ที่ผ่านการประเมิน รวมถึงตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนโดยองค์กรภายนอก
ความใส่ใจด้านความยั่งยืนนั้นเกิดขึ้นในทุกขั้นตอนของคอลเลคชั่น Art of Utility ไม่ว่าจะเป็นการเพาะปลูกไปจนถึงการปั่นเส้นใยและย้อมสี คอลเลคชั่นนี้เป็นการต่อยอดกระบวนการที่ใส่ใจในสิ่งแวดล้อมมากขึ้นตั้งแต่ 2 ฤดูกาลก่อนหน้านี้ และใช้สีย้อมผ้าธรรมชาติที่ทำจากไม้ อีกทั้งยังมีการนำผ้าในสต็อกกลับมาใช้อีกครั้ง รวมถึงผ้าฝ้ายรีไซเคิลและหนังที่ผลิตจากวัสดุใช้แล้วอีกด้วย
