หนุ่มขี่จยย.ลอดช่องไม้กั้น ไม่สนคันอื่นหยุดรอรถไฟ สุดท้ายดับอนาถริมราง
วานนี้ (29 มิ.ย.62) พ.ต.ท.รัชพล โมรารัตน์ สารวัตรสอบสวน สภ.นาข่า อ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้ง มีรถไฟวิ่งจาก จ.หนองคาย ชนกับรถจยย. ที่บริเวณทางพาดรถไฟ หนองแด ถนนมิตรภาพ อุดร-หนองคาย ตำบลหมูม่น อ.เมืองอุดรธานี ทำให้มีผู้เสียชีวิต จากนั้นพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และมูลนิธิอุดรส่งเสริมธรรม รุดไปตรวจสอบนที่เกิดเหตุ
พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายอยู่บริเวณถนนฝั่งเข้าตัวเมืองอุดรธานี ทราบชื่อ นายพีรทัต อายุ 26 มีกระเป๋ายีนส์แบบหิ้ว ข้างในมีเสื้อผ้าจำนวนหนึ่งตกหล่น ใกล้กันประมาณ 5 เมตร มีรถจยย.ฮอนด้าสีดำแดงที่ผู้ตายขี่มา อยู่ในพงหญ้าร่องเกาะกลางถนน สภาพพังเสียหาย ส่วนรถไฟที่ชนต้องจอดหยุดไม่วิ่งต่อไปได้อยู่ห่างไปประมาณ 200 เมตร
จากการสอบสวน นายทองดี อายุ 54 ปี พนักงานกั้นถนน ให้การว่า ในขณะรถไฟขบวนรถด่วนดีเซลรางที่ 78 เดินทางมาจาก จ.หนองคาย ปลายทางไปยังกรุงเทพ ซึ่งกำลังมาถึงทางพาดรถไฟหนองแด ที่ตนประจำดูแลอยู่นั้น จึงได้เอาเหล็กกั้นทางพาดรถไฟลง พร้อมกับเปิดสัญญาณไฟเตือนรถไฟมาด้วย ซึ่งก็มีรถคันอื่นหยุดรอ เพื่อให้รถไฟวิ่งผ่านไป แต่จังหวะที่รถไฟวิ่งมาถึง แล้วมีรถจยย. ได้ขี่ออกมาจากตัวเมือง ทำการหลบเลี่ยงเหล็กกั้นทางพาดรถไฟ ซึ่งมีช่องว่างประมาณ เกือบ 1 เมตร ทำให้ชนเข้าอย่างแรง ทำให้ร่างกระเด็นมาอยู่ฝั่งขาเข้าเมืองอุดรฯ และรถจยย. ตกลงไปร่องกลางถนน ทำให้เสียชีวิตคาที่
พ.ต.ท.รัชพล โมรารัตน์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นทราบว่าผู้เสียชีวิต ขี่รถจยย. มาจากตัวเมืองอุดรธานี แล้วเดินทางจะกลับบ้าน ด้วยความเร่งรีบ โดยเหล็กกั้นทางพาดรถไฟเจ้าหน้าที่ได้ทำการเอาลงมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีรถคันอื่นได้จอดหยุดกันหมด อยู่ประมาณ 3 นาที แต่ผู้ตายก็ยังฝ่าฝืนขี่รถจยย.หลบเลี่ยงเหล็กกั้นไป ทำให้รถไฟชนเข้าอย่างจัง เป็นเหตุทำให้เสียชีวิต และรถไฟไม่สามารถวิ่งต่อไปได้ เนื่องจากท่อลมของระบบเบรกขาด
แพทย์ได้ทำการชันสูตรพลิกศพ ผู้ตายกะโหลกแตกแขนขาหักทั้งสองข้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน แล้วให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ นำศพผู้เสียชีวิต เอาไปไว้ ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อให้ญาติมาติดต่อรับศพ นำไปบำเพ็ญกุศล ส่วนรถไฟขบวน ที่ชนกับรถจยย. ได้รับความเสียหาย โดยเจ้าหน้าประจำดูแลทางพาดรถไฟหนองแด ได้ประสานยังไปสถานีรถไฟอุดรธานี เพื่อเอาหัวรถไฟมาทำการลากรถไฟขบวนดังกล่าว พร้อมกับตรวจสอบประเมินค่าเสียหายต่อไป