เปิดใจ "สุกัญญา มิเกล" รับแมนกว่าเจ้าบ่าว ใส่ชุดเจ้าสาวเพราะมีหน้าอก
เปิดหมดเปลือก สุกัญญา มิเกล แต่งงานกับสาวหล่อประชดเลิกผัว ลั่นใส่ชุดเจ้าสาวเพราะมีนม แคร์สังคมลูก รายการ เรื่องลับมาก (NO CENSOR) ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.00-14.50 น. ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 วันนี้ (16 ก.ย.) พิธีกรสาวมากความสามารถ ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี พาไปล้วงลึกกับความรักนางแบบ-นักร้อง สุกัญญา มิเกล ซึ่งเพิ่งเข้าพิธีวิวาห์กับแฟนทอม จอม พินสุดา
พี่มิเกล มีลูกอายุเท่าไหร่?
มิเกล : "คนโต 14 คนเล็ก 10 ขวบ คนโตเป็นผู้หญิง คนโตเป็นผู้ชาย"
มีมุมมองการเลี้ยงลูกยังไง?
มิเกล : "เลี้ยงลูกยากช่วงต้น ต้องดูแลเรื่องความสะอาด ปลอดภัย โครงสร้างเบื้องต้นที่เราจะปั้นให้เขาเป็นมนุษย์ แต่พออีกสเต็ปนึง พอเขาเริ่มแข็งแรง ก็ดูแลเรื่องอีโมชั่นเขา"
แม่ในสไตล์ สุกัญญา มิเกล เป็นแบบไหน?
มิเกล : "สอนให้เป็นแบบนี้มานานแล้ว สอนเขาให้อิงความเป็นจริงมากที่สุด ความจริงดีที่สุด"
ตอนแยกทางกับสามี ตอนนั้นลูกอายุเท่าไหร่?
มิเกล : "ตัวเล็กกำลังจะ 6 ขวบ คนโต 8 กำลังจะ 9 ขวบ"
คุยกับลูกยังไง?
มิเกล : "ตอนนั้นเขาเล็กมาก เราต้องใช้วิธีบอกว่าแยกกันอยู่ เพื่อที่จะต่างฝ่ายต่างดูแล บอกว่าคุณพ่อป่วย หม่ามี๊ ทำงานเยอะ ดังนั้นต้องแยกกันอยู่ก่อน อันนั้นคือปีแรกก่อนขึ้นศาล หลังจากขึ้นศาลลูกชายถามว่าทำไมเราไม่กลับบ้าน ตอนนั้นเขา 6 ขวบกว่าแล้ว เราก็ตัดสินใจบอกลูกตรงๆ ว่าวันนั้นที่เราไปเจอผู้ใหญ่ 4 ท่าน หม่ามี๊กับป่าปี๊เราทะเลาะกันนะ เราตกลงกันไม่ได้ เลยให้ผู้ใหญ่มาช่วยตัดสินใจ เขาเลยตัดสินให้เราแยกกันอยู่ และให้หนูดูแลหม่ามี๊ พี่สาวดูแลป่าปี๊ เขาก็เข้าใจว่าพ่อกับแม่อยู่ด้วยกันไม่ได้"
ภาพสุกัญญา มิเกล เป็นหญิงเท่?
มิเกล : "เป็นมานานแล้วนะ เพียงแต่ก่อนหน้านั้นเรามีอาชีพนางแบบ แต่คนในวงการเรียกเรามิเกลบอยหมด"
ทุกคนเข้าใจว่าเป็นทอม?
มิเกล : "ใช่ ตอนแต่งงานเขาก็งงไปทีนึงแล้ว แล้วก็งงอีกตอนมีลูก บางคนเข้าใจว่าเป็นกะเทยซะด้วยซ้ำ มีเยอะมาก บอกว่าหน้าอกใหญ่แบบนั้นแปลงเพศมา แล้วเสียงไม่ได้เปลี่ยน สมัยก่อนไม่มีการผ่าตัด เสียงไม่ได้เปลี่ยน แต่นมเปลี่ยนแล้ว"
ช่วงเป็นนางแบบเป็นผู้หญิงเต็มตัว?
มิเกล : "เราไม่รู้ว่าเราเพศไหนนะ แต่เราไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงได้ในตอนนั้น"
เพราะอะไร?
มิเกล : "ยายเราเบี่ยงเรากลับมาตอน 12 ว่าเราเป็นผู้หญิงนะลูก ต้องมีครอบครัว มีลูก แล้วก็สอนเราให้เป็นแบบอย่างที่ดี เป็นแม่ที่ดีมาตลอด"
ด้วยครอบครัวสอนให้เป็นผู้หญิง ทั้งที่ใจรู้มาตั้งแต่เด็กเลยเหรอว่าเราชอบผู้หญิง?
มิเกล : "รู้ครับ ถ้าไม่ได้ยายเบี่ยง ความเป็นผู้หญิงจะไม่มีเลย (หัวเราะ)"
แต่ไม่ได้มองว่าตัวเองเป็นทอม?
มิเกล : "ไม่ แต่ไม่รู้สึกว่าเราเป็นอะไร เราคิดว่าเราเป็นคนธรรมดาไม่รู้สึกว่าเป็นเพศหญิง เพศชายด้วยซ้ำ เพียงแต่เรารู้ว่าเราไปไหนมาไหนเราชอบแบบนี้ เราชอบยิงนก ตกปลา ชอบตักดิน ชอบต่อยมวย ชอบเครื่องมือช่างมาก"
เหมือนจะห้าวกว่าคุณจอม?
มิเกล : "ใช่ เขาพับผ้าเรียบกว่าสุกัญญานะ (หัวเราะ)"
ชอบผู้หญิงลักษณะอกใหญ่ๆ?
มิเกล : "ชอบดูมๆ (หัวเราะ) ผู้ชายก็ชอบดูมๆ ไม่ใช่เหรอ"
แต่คุณไม่ใช่ผู้ชายไง?
มิเกล : "ก็เราชอบ มันสวยดี ตอนห้าขวบเดินขึ้นบันไดไปห้อง ในบ้านมีภาพโปสเตอร์เป็นผู้หญิงฝรั่ง ตาสีฟ้า ผมทอง นั่งดูดน้ำส้มอยู่ ใส่บิกินี่ เราก็ไปยืน โอ้ว แม่เจ้า สวยจังเลย ตั้งแต่นั้นมาดูมๆ ก็ติดตามาตลอด เพื่อนนางแบบนี่แอบดูหมดเลย"
แต่ไม่ได้ว่าตัวเองจะต้องไปชอบผู้หญิง?
มิเกล : "ชอบ แต่ไม่เคยกล้าข้ามเข้าไปใช้ชีวิตแบบหญิงรักหญิงเลย เพราะรู้สึกว่ามันเป็นความผิด เป็นสิ่งที่เลวร้าย แม้แต่คิดก็เลวร้ายแล้ว"
มีกระแสข่าวลือว่าหลังคุณเลิกสามี ทำให้หัวใจบอบช้ำถึงต้องประกาศเข้า LGBT ?
มิเกล : "ไม่มีบอบช้ำครับ มันเป็นของมันอยู่แล้ว (หัวเราะ) เมื่อเราตัดสินใจเดินตามที่ยายบอกไปมีครอบครัวอย่างที่คนอื่นบอกว่าต้องเป็นในสังคม เราก็คิดว่าเราจะสามารถเดินชีวิตได้สำเร็จ มีความสุข สร้างครอบครัวได้อย่างดี ปรากฏว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่ยายบอกไว้ ไม่ได้เป็นแบบในอุดมคติว่าเนี่ย คนที่จะมีครอบครัว มีสามี เป็นภรรยาคนต้องมีความสุขอย่างนั้น เมื่อมันไม่ใช่ก็จบ ก็ขอชีวิตตัวเองคืนแบบที่ตัวเองเป็นคืนมา แค่นั้นเอง"
คุณจอมเคยติดตามผลงาน คุณสุกัญญา มิเกล มาก่อน?
จอม : "ติดตามมาตั้งแต่เด็กๆ ความรู้สึกที่จำความได้ชอบมาตั้งแต่อัลบั้มแรก ตอนนั้นเป็นผู้หญิงตัดผมสั้น มีลุคความเป็นตัวเอง ชอบตั้งแต่ที่เขาเป็นตัวเองอยู่แล้ว"
คุณไปถ่ายนู้ด หลายคนเรียกคุณผู้หญิงตลาดล่าง รู้สึกยังไง?
มิเกล : "ตอนนั้นรู้สึกสังคมไม่ค่อยแฟร์กับเราเท่าไหร่ มีความกดดันพอสมควรในฐานะเป็นวัยรุ่นคนหนึ่ง หาทางออกด้วยการทำร้ายตัวเอง ติดเหล้าประชดตัวเอง แต่ไม่คิดทำร้ายใครนะ แต่พอผ่านวันเวลาไป เราก็เข้าใจว่าเป็นเรื่องของสถานการณ์ทางสังคมที่คนยังไม่เข้าใจ แบ่งแยกไม่เป็นระหว่างคำว่าสัมมาชีพ สมัยก่อนโซเชียลเราไม่มี โอกาสที่คนจะเห็นก็ไม่กี่นาทีที่ออกทีวี แล้วพอไปออกทีวีก็ต้องให้เกียรติสังคม ทำตัวให้เรียบร้อย แล้วเขาก็ไม่ได้เห็นว่าธรรมชาติเราเป็นยังไง ดังนั้นมันก็ไม่ผิดที่เขามองเห็นเราเป็นแบบไหน"
"ตามที่งานเราออกไป เกลมาเริ่มทำความเข้าใจตอนมีลูก ว่าเป็นแบบนี้เพราะสังคมเห็นแบบนี้ ความโกรธที่มองว่าเขาไม่เข้าใจเรา มันก็ถูกแล้วที่เขาจะไม่เข้าใจ เป็นการยอมรับไปโดยปริยาย ปัจจุบันนี้สิ่งที่ผ่านไป ผู้คนเริ่มเห็นโลกกว้างขึ้น เขาก็เข้าใจมากขึ้น เกลคิดว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี สำหรับคนรุ่นใหม่"
เห็นห้าวๆ แบบนี้ สุกัญญา มิเกล ไม่ธรรมดา มีเสี่ยมาขอเลี้ยง?
มิเกล : "มี ก็นมใหญ่สมัยนั้น เขาคิดว่าเราเป็นผู้หญิงร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม เซ็กซี่ด้วยนะ แต่ความเป็นจริงเราเป็นของเราแบบนี้ คนเหล่านั้นเห็นภาพก็ไม่เคยเจอตัวจริงเราเหมือนกัน ก็โดนหลอกด้วยภาพกันไป (หัวเราะ)"
คุณปฏิเสธหรือตอบกลับยังไง?
มิเกล : "เขาไม่ได้มาด้วยตัวเอง มีคนติดต่อมา เราก็บอกคนประสานงานว่าไม่เป็นไร ขอบคุณมาก ยายสอนไว้"
ยายสอนอีกแล้ว?
มิเกล : "ใช่ ทุกอย่างในชีวิตที่เป็นไป เพราะยายทั้งสิ้น ตอนนี้ถือว่าตอบแทนบุญคุณยายหมดแล้วนะ ยายบอกว่าเวลาเราจะมีคู่นะลูกนะ คนรวยไม่ใช่สิ่งสำคัญ คนรวยมองเราเหมือนดอกไม้หรือของเล่น ดังนั้นให้เลือกคนที่เขารักเราที่เป็นเรา และหาคนที่ขยันทำมาหากินนะลูกนะ"
แต่คุณเองก็เคยประกาศว่าคุณไม่ชอบทอม?
มิเกล : "ไม่ชอบ ทุกวันนี้ก็ไม่ชอบ มีแต่รักคนเดียว คือคนนี้"
หลายคนบอกว่าคุณกลืนน้ำลายตัวเอง?
มิเกล : "มีกลืน มีถุยด้วยเหรอ เป็นธรรมชาติมนุษย์ คนเราไม่ชอบมาก่อนแต่คนที่ดีคนนึงมันจะได้โอกาส ได้ความรักที่ดีไป มันผิดตรงไหน แคร์ทำไม คนที่ว่าเราอยู่กับเรามั้ย ไม่ได้อยู่กับเราเลย คนนี้ต่างหากที่อยู่กับเรา กว่าเขาจะทำให้เราเปลี่ยนใจได้ ก็ไม่ง่ายเหมือนกันนะ กว่าเราจะรู้สึกกว่าเรายอมรับในสิ่งที่ไม่ชอบ"
เจอกันได้ยังไง?
มิเกล : "เขามาดูโชว์ หลังจากนั้นเขามาสั่งน้ำหอมเราไปขายบ้าง เหมือนเพื่อนกันนี่แหละ แล้วอีกปีนึงต่อมา เขามีแฟน แล้วมาเจอกันอีกรอบ คุยกัน เราก็ดีใจกับเขา จนเขามีอุบัติเหตุกับแฟนเขา เราเป็นเพื่อนก็ยื่นมือช่วยเหลือ เขาโดนไล่ออกจากที่พัก เราก็บอกว่ามาพักที่บ้านเราก่อน นั่นคือเหตุที่เราอยู่ร่วมกัน แล้วอยู่ร่วมกันในฐานะเพื่อน คนอื่นๆ ที่เขาเอาไปพูดกัน หาว่าเราแอบโด๊ปกันอะไรบ้างก็แล้วแต่มุมมองของคนที่เข้าใจคำว่าเป็นเพื่อนน้อยมาก ผู้หญิงหลายคนที่เราอาบน้ำด้วยก็ไม่เคยโด๊ป มีเยอะเลยฮะ แล้วแต่ตรรกะคนว่าคุณคิดได้แคบแค่ไหน คนในครอบครัวเราต่างหาก ลูกเรา คนในครอบครัวเราที่อยู่ที่บ้าน เพื่อนสนิทเราที่จะรู้ว่าเราอยู่ด้วยกันแบบไหน"
นานแค่ไหนกว่าความสัมพันธ์จะพัฒนากลายเป็นคนรัก?
มิเกล : "7-8 เดือนเนอะ"
คุณเป่ายิงฉุบเหรอว่าใครเจ้าบ่าว เจ้าสาว?
มิเกล : "(หัวเราะ) วันแต่ง ลูกก็ถามว่าใครจะใส่ชุดเจ้าสาว ใครเป็นเจ้าบ่าว เราก็บอกว่าเอางี้ดีมั้ยลูก หม่ามี๊ยังมีนมอยู่ ก็ให้หม่ามี๊ใส่ชุดเจ้าสาวแล้วกัน คิดแค่นั้น"
ทำไมไม่ใส่ชุดสูทสวยๆ เท่ๆ?
มิเกล : "เราคิดอีกมุมหนึ่ง เราเป็นแม่ด้วย ลูกเราอยู่ในงานด้วย ถึงเราบอกลูกเราเป็นเพศที่สาม กำลังจะมีคู่ที่เป็นเพศเดียวกันไปทั้งชีวิต แต่ยังไงเราก็เป็นแม่เขาอยู่นะครับ เราไม่อยากให้เพื่อนมานั่งพูดว่าตกลงแม่เธอเป็นอะไรหนักกว่าเดิม แค่เห็นบุคลิกเราเพื่อนๆ ก็งงกันตาแตกหมดแล้ว พอถึงวันแต่งงาน อ้าว แม่เป็นผู้ชาย ผู้หญิงอีกคนก็แต่งเป็นผู้ชายอีก มันจะดูซ้อนมากเกินความจำเป็น"
ใส่ชุดเจ้าสาวเพราะแคร์ลูก?
มิเกล : "ใช่ เป็นการให้เกียรติในสังคมที่มีต่อลูก"
ตกลงว่าใครใส่ชุดเจ้าสาวเพราะแค่มีหน้าอกแค่นั้นเอง?
มิเกล : "ใช่ เพราะถ้าอีกฝ่ายใส่มันจะรูดลงมา (หัวเราะ) มันไปตัดออกแล้ว แบนแล้ว"
คุณตัดหน้าอกออกแล้ว?
จอม : "ใช่ค่ะ เพราะมันใหญ่ (หัวเราะ) อะไรที่เราไม่อยากได้ก็มักจะมี"
คุณตัดสินใจเป็นร่างชายมานานหรือยัง?
จอม : "แค่ตัดหน้าอกเฉยๆ ค่ะ เป็นความฝันตั้งแต่เด็กๆ เราไม่ชอบมันตั้งแต่เด็กๆ แต่เพิ่งจะตัดเมื่อ 2เดือนที่แล้ว ก็ปรึกษา ก็คุย"
มิเกล : "เราสนับสนุนให้เขาตัด"
ทำไมคุณไม่ตัดด้วย?
มิเกล : "เราไปผ่าตัดมะเร็งแล้วเรียบร้อยไม่เป็นไร เรามองว่าเรารู้สึกของเราก่อนยายจะเบี่ยง ความเป็นเพศหญิงค่อนข้างหนักในความรู้สึก เขาไม่ได้เป็นเลสเบี้ยนแบบเรา เขาไม่สามารถยอมรับได้กับการรู้สึกว่าตัวเองคือเป็นเพศหญิงผู้รองรับแต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าอยากเป็นผู้ชาย เพียงแต่เจ้าก้อนนมเป็นปมในชีวิตผู้หญิงเกือบทุกคน เขาก็โดนล้วงมาตั้งแต่เล็กๆ น้อยๆ เขาก็รู้สึกไม่อยากมีมันไว้ เราก็คิดว่าถ้าเป็นปมในจิตมากขนาดนี้ ทำให้ไม่มั่นใจตัวเอง หรือรู้สึกว่าตัวเองต่ำเตี้ยเรี่ยดินก็เอาออกซะมันก็จบ ซึ่งมันก็ได้ผล เขามีความมั่นใจในตัวเอง มีความสุขกับตัวเองมากขึ้น แม้พุงจะยื่นกว่าเดิมก็ไม่เป็นไร"
จอม : "อย่างน้อยเวลามากอดเอวจะได้ไม่รู้สึกว่ามากอดนมฉัน"
มิเกล : "(หัวเราะ) เขาน่ารักดี"
วันตัดสินใจคุยกับลูกว่าแม่จะแต่งงาน คุยยังไง?
มิเกล : "วันนั้นหลังทานข้าวก็บอกว่าเดี๋ยวเราจะมีอะไรคุยกันหน่อยนะ ชอบนั่งเป็นอัศวินโต๊ะกลม ทุกคนมารวมกันที่โต๊ะ แล้วบอกว่าลูก หม่ามี๊กับน้าจอม ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกันแล้วนะ ยาวเลยนะ ยันแก่ยันเฒ่าเลยนะ เราจะแต่งงานกัน ลูกก็ถามว่าจะต้องมีสมาชิกใหม่เพิ่มมั้ย กลัวเรามีน้องแล้วค่าใช้จ่ายจะเพิ่ม เราก็บอกว่าไม่เป็นไร เราไม่มี เราเป็นเพศที่สามเหมือนกัน ไม่มีลูกครับ เขาก็บอกว่าโล่งอก"
เขาไม่ได้ห่วงเรื่องความรัก แต่ห่วงเรื่องงบประมาณในการดูแลเนี่ยนะ?
จอม : "เขาเป็นนักคิด เพราะแม่เขาสอนให้หัดวิเคราะห์ตั้งแต่เด็ก"
มิเกล : "ถามว่าเขาจะขาดความรักมั้ย ไม่เห็นมีอาการเลย เพราะนี่ก็ให้ เราก็ให้ พี่หมึกก็ให้ ทุกคนให้"
ลูกโดนพูดเรื่องนี้มั้ย?
มิเกล : "มีบ้างเหมือนกัน โดนล้อว่าเป็นพ่อหรือเปล่า คนข้างบ้านก็ถามว่าหม่ามี๊เป็นอะไรกันแน่ แต่เราบอกแล้วว่าเราเลี้ยงลูกด้วยความจริงทั้งหมด นับตั้งแต่เรารู้ว่าเราคืออะไร เราบอกลูกก่อนเลย ตั้งแต่ 6 ขวบ ค่อยๆ บอกมาเรื่อยๆ และบอกเรื่องเพศที่สามมีกี่ชนิด เป็นวิชาการมากเลย เราค่อยๆ บอกเขาทีละนิดๆ ก็เป็นความเข้าใจง่าย มีช่วงนึงเขาถามบ่อยมาก ว่าเพศที่สามเขามีอะไรกันบ้าง ตอนปีที่แล้ว"
เขาเริ่มสนใจรายละเอียด?
มิเกล : "ใช่ เราจะพูดประจำ เขาโดนล้อว่าเป็นตุ๊ดหรือเปล่าเพราะเขาเรียบร้อยมาก สุภาพ บางทีโดนเพื่อนล้อว่าตุ๊ดบ้าง ก็โอเค หนูเลือกได้ถ้าหนูจะเป็น ถ้าหนูรักชอบผู้หญิงก็เป็นเรื่องดี หนูเป็นธรรมชาติ วิญญาณหนูเป็นอะไรก็ตามนั้นเลย เราไม่มีแรงกดดัน ไม่มีบอกว่าเป็นสิ่งผิดสิ่งถูก เราบอกแค่ว่าอะไรที่วิญญาณหนูรู้สึกก็ปล่อยไปเลย ลูกเป็นอะไรก็ได้ แต่ต้องรับผิดชอบต่อตัวเองและผู้อื่น"
ให้เรียกคุณจอมยังไง?
จอม : "เรียกน้าตลอดค่ะ"
มิเกล : "เขาบอกว่าหนูต้องเปลี่ยนการเรียกน้าจอมมั้ย ก็บอกว่าไม่จำเป็น หนูมีพ่อคนเดียว ปัจจุบันนี้ที่โรงเรียนรับรู้เรื่องแต่งงาน เพื่อนก็ล้อว่ามีพ่อใหม่แล้ว เราบอกว่าเป็นมุมขำๆ ของเขา แต่จำไว้ว่าในโลกนี้หนูมีพ่อคนเดียว น้าจอมเป็นพ่อใครไม่ได้เพราะน้าจอมไม่มีอวัยวะเพศชาย ใครจะคิดก็คิดในมุมเขา ไม่ได้คิดในมุมความเป็นจริงที่ลูกเห็นอยู่"
เขาบอกคุณโดนแจ้งความจับ โกงเงินหุ้นส่วนร้านอาหาร ซึ่งรู้สึกแย่ที่สุดในชีวิต?
มิเกล : "มาก เพราะบุคคลนี้มาตีสนิทในเฟซบุ๊ก เป็นเพื่อน แล้วก็มาชวนเราไปทำร้านกาแฟ นั่นก็เป็นช่วงที่จอมเข้ามาพอดี ตอนนั้นเขาไม่ได้ทะเลาะกับแฟนเขานะ ก็ไปเจอผู้หญิงคนนี้ แล้วมีโปรแกรมว่าจะทำร้านกาแฟ โดยมีจอมเข้ามาร่วมด้วย ปรากฏว่าเขาไม่ยอมทำร้านสักที แล้วให้เราลาออกจากร้านกาแฟเก่า เขาก็เอาเงินชดเชยมาให้เราสามเดือน ขณะที่รอทำร้าน ตอนหลังมาไม่พอใจกัน ด้วยเหตุผลที่เกลไม่พูดถึง เขาก็ไปบอกคนอื่นว่าเราไปโกงเงินเขามา จะเอาเงินก้อนนี้คืน และพยายามพูดให้คนอื่นฟังว่าดีนะที่ไม่ไปจอยกัน เพราะไม่งั้นเงินจะล่มจมมากกว่านี้ ซึ่งเป็นการเบี่ยงประเด็นมาก กลายเป็นเราขี้โกงชาวบ้าน ก็เลยขึ้นโพสต์ด่าโดยไม่เอ่ยชื่อ แต่ทางฝั่งโน้นก็รู้ เขาก็เลยจ้องจะโจมตี โดยการแจ้งความจับเพราะนี่ขึ้นโพสต์ด่าเขา เราเอาขึ้นโพสต์เพื่อเตือนเพื่อนๆ เราในเฟซบุ๊กว่าคนนี้ไม่น่าไว้ใจในเรื่องเงิน เพราะเขามาตีสนิทเราบอกว่าเป็นเพื่อนแล้วไปคอนเนคกับเพื่อนเรา เรากลัวเพื่อนเราจะสูญเสียอะไรอีก แต่กลายเป็นการโพสต์ของเราเขาเอาไปแจ้งความ"
จบยังไง?
มิเกล : "ยังไม่จบ รออยู่ เขาไม่ได้ถอนแจ้งความ ตอนแรกคิดว่าจะจบในชั้นตร. เพราะเขาขอเงินเยอะด้วยนะ แต่เราไม่ผิด จะให้ทำไม ก็บอกตร.ว่าไม่ให้ก็ฟ้องศาล"
การดูแลเอาใจใส่ มีทั้งถอดรองเท้า บีบนวดกลางห้าง ดูแลอย่างเจ้าหญิง ?
จอม : "ใช่ค่ะ ดูแลอย่างเจ้าหญิง เราไม่ได้คิดขนาดนั้น แต่เรารู้ว่าเราอยากทำให้เขาคลายปวดเมื่อยแค่นั้นเอง ทำให้เขาซื่อๆ ไม่ได้คิดอะไรเลย"
มิเกล : "เราก็คิดว่าต้องขนาดนั้นเลยเหรอ เขาก็ยื้อแย่งกันพอสมควร ผู้หญิงทุกคนก็คงอยากได้แบบนี้ แต่ที่บ้านเขาทำประจำ (หัวเราะ)"
เป็นทอมหรือเป็นเลส โดนถามบ่อยมั้ย?
มิเกล : "โดนบ่อย ก็มีคนบอกว่าเธอมีความเป็นชะนีก็มีนะ มีความเป็นทอมบอยก็มี ชาวบ้านก็คงงงกันมาก แต่อะไรก็ได้ที่เป็นเรามั้ย"
เคยให้คำจำกัดความที่เป็นตัวเองกับคนอื่นมั้ย?
มิเกล : "เราบอกตลอดว่าเราเป็นเลสเบี้ยนที่ชอบผู้หญิง เราเป็นเพศที่สามที่เรียกว่าเลสคิง มีลักษณะเหมือนผู้ชายแต่มีความเป็นผู้หญิงอยู่ นี่จากการค้นหาตัวตน 1 ปี ก่อนสรุปได้ว่าฉันเป็นทอมหรือเปล่า"
คุณจอม กำหนดตัวเองเป็นแบบไหน?
จอม : "ถ้าตั้งแต่เกิดก็คิดว่าตัวเองเป็นทอม พออยู่แล้วก็รู้สึกเราเริ่มเป็นผู้หญิงขึ้นเรื่อยๆ (หัวเราะ) เขาดูแมนกว่าเรา แต่เราก็ยอม เรามีความสุข ขอให้เขารักเรา เรารักเขา เรามองที่หัวใจเขาก็พอแล้ว"
อะไรทำให้คุณรู้สึกรักคนนี้?
จอม : "รักในหัวใจเขา ในสิ่งที่เขารักทุกคน ให้เกียรติทุกๆ คน ให้เกียรติทุกๆ สิ่ง เขาเป็นคนอ่อนโยน อ่อนหวานและเคารพคนอื่นมาก ๆ เคารพคนอื่นด้วยจิตวิญญาณ เขามองจิตวิญญาณข้างใน ไม่ได้มองแค่เพียงข้างนอก ในสิ่งที่เขาทำให้เราเห็นมากกว่าคำพูด นี่คือสิ่งที่โอ้ ไม่ไหวแล้ว ใจละลาย หลงรักหัวปักหัวปำ"
อะไรทำให้คุณเลือกคุณจอม?
มิเกล : "เขาเห็นคนที่เห็นคุณค่าเราแม้แต่เพียงเล็กน้อย อย่างเขาพูดถึงเรา หรือนึกถึงเรา จะนึกในสิ่งที่เป็นเรา ละเอียดมาก ซึ่งเราไม่อยากให้คนอื่นรู้แต่เขารู้ เรารู้สึกว่าใครก็ตามที่อยู่ใกล้เรา และเห็นคุณค่าเราอย่างแท้ๆ แค่นี้ก็เอาใจเราไปได้หมด ที่สำคัญความเป็นเขาที่นุ่มนวล ทำให้ลูกเราเป็นตัวกำหนดได้เลย บอกชัดว่าเขาเป็นยังไง"
จะบอกอะไรกับ LGBT?
จอม : "เราอยากบอกแค่ถ้าเรารักใครให้เราซื่อสัตย์ รักและอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า ไม่ได้มองแค่วันนี้เขาสวย พรุ่งนี้เขาอาจขี้เหร่แล้วเราไม่รัก แล้วก็รักเขาในวันที่เขาไม่น่ารักสำหรับเรา ขอให้รักกันแบบนี้ทุกๆ วันตลอดไป และใช้ชีวิตกันไปจนแก่เฒ่า"
มิเกล : "เราอยากบอกถึงคู่ที่คิดว่าจะเปิดหรือไม่เปิดดี ถ้าเปิดแล้วมีผลกระทบกับผู้หลักผู้ใหญ่ เพราะสังคมบ้านเราต้องมีการเคารพผู้อาวุโส ถ้ามีผลกระทบในที่ทำงาน คุณเก็บไว้สำหรับสองคน หรือโลกใบเล็กๆ ของคุณก็ได้ จงมีความสุขในโลกใบเล็กๆ ของคุณ โดยที่ไม่ต้องให้โลกทั้งใบยอมรับคุณก็ได้ แต่ถ้าคุณสามารถเปิดตัวเองแล้วมีความสุขในโลกกว้างในฐานะเป็นเพศที่สามทั้งคู่ ก็ทำไปเถอะ โดยไม่จำเป็นต้องนั่งสนใจว่าโลกใบใหญ่จะต้อนรับคุณหรือไม่ เพราะคุณอยู่ในโลกใบนี้อยู่แล้ว"
>>"สุกัญญา มิเกล" ประกาศแต่งงาน "จอม" สาวหล่อนอกวงการ 6 ก.ย.นี้
>>งานแต่ง "สุกัญญา มิเกล" กับสาวหล่อ บรรยากาศอบอุ่นและโรแมนติกมาก