เนื้อหาในหมวด ผู้ชาย

วราวุฒิ แก้วเจริญ เก็บพลังจากธรรมชาติ ถ่ายทอดเป็นงานศิลปะโทนสีละมุน

วราวุฒิ แก้วเจริญ เก็บพลังจากธรรมชาติ ถ่ายทอดเป็นงานศิลปะโทนสีละมุน

ยังจำความสุขในวัยเด็กได้ไหม บางครั้งด้วยการใช้ชีวิต การทำงาน อาจจะทำให้ภาพความสุขเหล่านั้นค่อยๆ เจือจางไป เหมือน คุณวุฒิ-วราวุฒิ แก้วเจริญ จากวัยเด็กที่เป็นคนรักศิลปะ มีโอกาสได้ประกวดภาพวาดในหลายเวที บินสานฝันยังต่างประเทศ แต่เมื่อเดินตามฝันไปเรื่อยๆ จนถึงจุดที่เรียกว่า “อิ่มตัว” ทำให้เลิกทำงานศิลปะไปพักใหญ่

กระทั่งได้ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ เดินขึ้นเขา นอนบนผืนหญ้า นั่งมองดอกไม้ และชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า จนเกิดเป็นแรงบันดาลใจอยากส่งต่อความสุข ผ่านงานศิลปะอีกครั้ง ซึ่งนับเวลาจากวันนั้นก็ 17 ปีแล้ว ล่าสุดเจ้าตัวกำลังจะมีนิทรรศการศิลปะ ที่จะจัดแสดงขึ้นในวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2565 - 8 มกราคม พ.ศ. 2566 ที่ ศูนย์การค้า Central Embassy ชั้น 4 กรุงเทพฯ

“ผมจำได้ว่าช่วงวัย 10 ปี ที่บ้านผมไม่ค่อยมีเงินซื้อของเล่น ผมอยากทำให้น้องสาวมีความสุข ก็เลยวาดรูปแล้วตัดกระดาษเป็นตัวตุ๊กตา ที่มีชุดแต่งตัวหลายๆ ชุดให้น้องสาว ภาพความสุขในวันนั้นกลับมาอยู่ในการทำงานของผมอีกครั้ง”

ความรักในศิลปะเกิดขึ้นตั้งแต่วัยเด็ก

เท่าที่จำความได้เลย ผมชอบวาดรูป พร้อมกับการเริ่มหัดเขียนหนังสือ คือ รู้สึกสนุกที่ทำให้เส้นกลายเป็นภาพ โตขึ้นมาหน่อยก็วาดการ์ด ส.ค.ส.ปีใหม่ เอาสมุดเรียนมาวาดรูปตัดกระดาษเล่นกับน้องๆ พอเรียนจบม.6 เข้าเรียนที่คณะคุรุศาสตร์เอกศิลปศึกษาที่วิทยาลัยครูสวนดุสิต ในสมัยนั้น (ปัจจุบัน คือ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต) ในอดีตที่ผ่านมา ผมชอบทำงานภาพพิมพ์แกะไม้ (Woodcut Printing) งานวาดสีพาสเทลบนกระดาษ และงานวาดด้วยสีอะคริลิก

วุฒิ-วราวุฒิ แก้วเจริญ

บินตามความฝันที่อเมริกา

คุณวุฒิได้ทำงานอยู่ในบริษัทโฆษณาพร้อมกับใช้เวลาตอนกลางคืนหลังเลิกงานออกไปวาดรูปตามที่ต่างๆ ทั้งใน และนอกกรุงเทพ จนได้มีโอกาสจัดงานแสดงเดี่ยว ที่เซ็นทรัลชิดลม ณ วันนั้น ทำให้เข้าใจในความต้องการของตัวเองว่า อยากใช้เวลาชีวิตไปกับการทำงานศิลปะ จึงตัดสินใจไปตามความฝันที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อ พ.ศ. 2544

“ผมต้องทำงานในร้านอาหาร เพื่อสร้างรายได้ พอเลิกงานตอนกลางคืนผมทำงานศิลปะ ซึ่งตอนนั้นถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีพอสมควร ทั้งได้มีโอกาสได้แสดงงานศิลปะในร้านอาหารของคนดังใน Los Angeles และคลับใน New York รวมทั้งมีบริษัทโปรดักชั่น ของฮอลลีวูดติดต่อเพื่อขอเก็บผลงานเป็นคอลเลคชั่นสำหรับถ่ายภาพยนตร์ จนกระทั่งได้พูดคุยอย่างจริงจังกับ Art Dealer ท้องถิ่นเพื่อเริ่มต้นการโชว์ภาพตามสถานที่ต่างๆ” คุณวุฒิ กล่าว

วุฒิ-วราวุฒิ แก้วเจริญ

ปลุกไฟมอดดับขึ้นมาด้วยพลังแห่งธรรมชาติ

“แต่แล้วไฟในการทำงานศิลปะของผมได้ดับลงแบบหมดแรงจูงใจจากข้างใน ผมหยุดการทำงานของตัวเองเอาไว้ ผมอยากใช้เวลาทั้งหมดกับธรรมชาติ และสิ่งรอบตัว ดนตรี ผู้คน การเดินทางไปตาม National Park สวนป่าธรรมชาติขนาดใหญ่ ซึ่งตอนนั้นผมหลงใหลการเดินเข้าไปใน “Griffith Park” ซึ่งอยู่ใกล้กับ Thai Town มาก ที่นี่ คือ สถานที่ออกกำลังกาย สำหรับ Hiking เดินป่าในตอนเช้า และเหมาะที่จะเฝ้าดูพระอาทิตย์ตกดินในวันหยุดงานของผม”

และที่ Griffith Park นี่เอง ที่บ่มเพาะความคิดของคุณวุฒิ ให้เข้าใจในคุณค่าของชีวิต มุมมองต่อความงดงามของธรรมชาติ ความรัก โอกาส และประสบการณ์ต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต จากวันนั้นจนถึงวันนี้เวลาได้หมุนผ่านไปถึง 17 ปี เพียงพอแล้วสำหรับการได้รับ ในวันนี้คุณวุฒิ จึงอยากขอบคุณธรรมชาติ และส่งต่อความสุขรื่นรมย์ผ่านผลงานที่อิ่มเต็มด้วยสุนทรีย์แห่งสีสัน และเส้นสายศิลปะสุดละเมียดละไม

“วันนี้ผมกลับมาเดินตามหัวใจตัวเองอีกครั้ง เพื่อแสดงความขอบคุณในทุกสิ่งที่ผ่านมา นี่คือเวลาของผม เวลาที่ผมจะมอบของขวัญจากชีวิตของผมเพื่อส่งต่อออกไป นับเป็นคุณค่าอันสูงสุดที่เกิดขึ้นด้วยการทำงานจากความรัก เพื่อส่งต่อความสุข และแรงบันดาลใจให้กับผู้คน”

วุฒิ-วราวุฒิ แก้วเจริญ

งานตัดกระดาษ คือสิ่งที่ผมรัก

“ผมจำได้ว่าช่วงวัย 10 ปี ที่บ้านผมไม่ค่อยมีเงินซื้อของเล่น ผมอยากทำให้น้องสาวมีความสุข ก็เลยวาดรูปแล้วตัดกระดาษเป็นตัวตุ๊กตา ที่มีชุดแต่งตัวหลายๆ ชุดให้น้องสาว ภาพความสุขในวันนั้นกลับมาอยู่ในการทำงานของผมอีกครั้ง ผมอยากให้งานตัดกระดาษกลับมาเล่าเรื่องราว และสร้างความสุขให้ผู้คน จากแผ่นกระดาษว่างเปล่า ผมวาดฉาก ตัวละคร ลงสี และค่อยๆ ตัดกระดาษที่ละชิ้นอย่างตั้งใจ ซึ่งใช้เวลาและความพยายามกว่า 2 ปี จนกลายเป็น Stop-Motion Animation 5 นาที ที่บอกเล่าเรื่องราวจากแรงบันดาลใจ และความประทับใจจากวันเวลาที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของผม ผมหวังว่าทุกคนจะชอบ และรู้สึกถึงความรักที่ผมได้ส่งไป”

วุฒิ-วราวุฒิ แก้วเจริญ

จาก Stop motion-Animation สู่ Painting

ใครจะเชื่อว่าจุดเริ่มต้นในงานศิลปะคอลเลคชั่นนี้ เกิดขึ้นจากความรักในงานตัดกระดาษ และความคิดที่จะสร้าง Story Teller ด้วยการใช้เทคนิค Stop Motion Animation ซึ่งคุณวุฒิได้ใช้การวาดสีน้ำ และตัดกระดาษด้วยมือ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของความรักที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต ที่ผ่านวันเวลาภายใต้กฏธรรมชาติของการได้พบ ได้รัก และจากกันในที่สุด ทว่าเป็นการวาด และตัดกระดาษมากกว่า 4,000 ชิ้น เพื่อถ่ายทอดออกมาในรูปแบบ Stop Motion Animation เพียง 5 นาที

สู่การรังสรรค์ผลงานชิ้นสำคัญผ่านการ Painting จำนวน 25 ภาพ ขนาด 90X120 ซ.ม. โดยใช้เทคนิคการเขียนภาพแบบโปร่งแสง ผสมกับการเขียนภาพแบบทึบแสง ด้วยสีอะคริลิกรูปแบบ Impressionist ที่แสดงถึงช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ตามสีสันบรรยากาศของสิ่งแวดล้อมในสวนสาธารณะ Griffith Park เพื่อส่งต่อความรักและชื่นชมในธรรมชาติ ทั้งยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย และประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมกับส่งเสริมการสร้างพื้นที่สีเขียวในเมืองอย่างยั่งยืน

ครั้งแรกในไทยกับ ART IN THE PARK “Love from Griffith park to Thailand”

ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้งานศิลปะได้แตกออกเป็นหลายแขนงหลายสาขา ทั้งยังไร้ขีดจำกัด และไร้พรมแดน เช่นเดียวกับงานศิลปะ ภายใต้ชื่อ ART IN THE PARK คอลเลคชั่น “Love From Griffith Park To Thailand.” ที่เปรียบเสมือน Soft Power ในการช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย และประเทศสหรัฐอเมริกา

ทั้งยังส่งเสริมการสร้างพื้นที่สีเขียวในเมืองอย่างยั่งยืน โดยทั้งหมดเกิดขึ้นจากความรัก ความเข้าใจในธรรมชาติ และการค้นหาแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต ถ่ายทอดออกมาเป็นงาน Painting ที่ใช้เทคนิคการเขียนภาพแบบโปร่งแสง ผสมกับการเขียนภาพแบบทึบแสง ด้วยสีอะคริลิกในรูปแบบ Impressionism ทั้งหมด 25 ชิ้น และผลงาน Stop Motion Animation จากงานวาดสีน้ำ และตัดกระดาษด้วยมือ 1 เรื่อง เพื่อแทนคำขอบคุณ และส่งพลังให้ทุกคนที่เข้ามาชมงานคอลเลคชั่นนี้ ได้รับทั้งความรัก ความสุข พร้อมรอยยิ้มที่งดงามกลับไป

“ผมยังคงมุ่งมั่นค้นหาความสุขจากการทำงานศิลปะ ART IN THE PARK ในชุดต่อๆ ไป และพร้อมที่จะถ่ายถอดทอดเรื่องราวของความรื่นรมย์ ความประทับใจ จากสถานที่ต่างๆ ที่ผมได้รับแรงบันดาลใจ เพื่อให้ทุกคนได้มีรอยยิ้มไปด้วยกัน แล้วพบกันนะครับ” วราวุฒิ แก้วเจริญ

การแสดงงานศิลปะชุด ART IN THE PARK คอลเลคชั่น “Love from Griffith Park toThailand” จะจัดแสดงขึ้นในวันที่19 ธันวาคม พ.ศ. 2565 ถึงวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2566 ณ ศูนย์การค้า Central Embassy ชั้น 4 กรุงเทพฯ

จากความรื่นรมย์ในสวนสาธารณะ สู่การสร้างงานศิลปะ  และเป็นส่วนหนึ่งของ Griffith Observatory

จากความรื่นรมย์ในสวนสาธารณะ สู่การสร้างงานศิลปะ และเป็นส่วนหนึ่งของ Griffith Observatory

ช่วงเวลาแห่งความรื่นรมย์ที่ได้รับจากสวนสาธารณะ บนภูเขาสูงที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ทั่วเมืองแห่งนี้ เสมือนเป็นสถานที่พักใจอันทรงคุณค่า และได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจ ในการสร้างสรรค์งานศิลปะในเวลาต่อมา

ชวนเสพงานศิลป์กับนิทรรศการ Art in the park ที่ Central Embassy

ชวนเสพงานศิลป์กับนิทรรศการ Art in the park ที่ Central Embassy

ชวนอิ่มเอมไปกับ งานนิทรรศการ Art in the park Collection: “Love from Griffith park to Thailand” โดย วราวุฒิ แก้วเจริญ จิตรกรผู้ปลุกปั้นงานด้วยแรงบันดาลใจจากสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติของสวนสาธารณะในเมือง.