ครอบครัวอดีตพนักงานรถเมล์ เตรียมสร้างอาชีพใหม่-ไม่ยอมแพ้โควิด
จากกรณีพนักงานรถประจำทางร่วมเอกชนถูกเจ้าของกิจการลอยแพโดยการประกาศยุติบริการเดินรถถาวร โดยให้เหตุผลว่าได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19
ส่งผลให้พนักงานจำนวนกว่า 50 ชีวิตต้องเผชิญกับความยากลำบากเนื่องจากขาดรายได้ เคราะห์ซ้ำ ที่ดินของอู่จอดรถซึ่งส่วนหนึ่งถูกจัดสรรให้เป็นที่พักอาศัยของพนักงานถูกบอกเลิกการเช่าที่ดิน
ทำให้อดีตพนักงานฯ ที่ยังไร้หนทาง จำใจให้ครอบครัวซึ่งมีทั้งเด็กและผู้สูงอายุรวม 13 ชีวิต ต้องอาศัยอยู่ที่เดิมในสภาพมืดมิดไร้แสงไฟ มีเพียงเทียนไขเล่มเดียว ทำให้ชีวิตยิ่งยากลำบากแสนสาหัส และกำลังจะกลายเป็นคนไร้บ้านเร็วๆ นี้ เนื่องจากต้องออกจากพื้นที่
หลังจากที่ได้มีการนำเสนอข่าวอย่างกว้างขวาง ล่าสุด นายภูริต ภิรมย์ภักดี กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ได้มอบหมายให้สิงห์อาสาประสานไปยังเสาหลักของทั้ง 3 ครอบครัว ที่ยังไม่สามารถจัดหาบ้านได้
ได้แก่ นางสาวจิระสุดา พลนงค์ นางสาววรนิตย์ ชินรัตน์ และนางสาวช่อลัดดา ชุ่งแสง เพื่อลงพื้นที่ช่วยเหลือทั้ง 3 ครอบครัว รวม 13 ชีวิตให้ผ่านวิกฤติในครั้งนี้ไปได้
โดยการสนับสนุนเงินให้เป็นค่าที่พักอาศัยแห่งใหม่ ทั้งส่วนการวางมัดจำล่วงหน้าและค่าเช่าเป็นระยะเวลา 3 เดือน และสนับสนุนอุปกรณ์สำหรับประกอบอาชีพตามความถนัด
ซึ่งทั้ง 3 ครอบครัวเลือกที่จะค้าขายของกิน เช่น ก๋วยเตี๋ยว ก๋วยจั๊บ หมูปิ้ง ลูกชิ้นทอด เพราะอาหารยังเป็นสิ่งจำเป็น และยังได้สมทบข้าวสารตราพันดี น้ำดื่มสิงห์ และสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตอีกส่วนหนึ่งด้วย
นางสาวระสุดา พลนงค์ หนึ่งในผู้ได้รับความช่วยเหลือ กล่าวขอบคุณด้วยความตื้นตันใจว่า ความช่วยเหลือที่ได้รับในครั้งนี้ มีคุณค่ายิ่งใหญ่มหาศาล
เพราะนอกจากตนเองจะไม่ต้องออกไปเป็นคนเร่ร่อนแล้ว ยังมีหนทางในการประกอบอาชีพเลี้ยงคนในครอบครัวไม่ต้องอดมื้อกินมื้อเหมือนที่ผ่านมา ที่สำคัญลูกๆ จะได้อยู่ในที่ปลอดภัย และมีโอกาสได้เรียนหนังสือต่ออย่างที่พวกเขาตั้งใจไว้