Rado Captain Cook มาพร้อมแนวคิดที่แน่วแน่กับวัสดุสุดแข็งแกร่ง
ครั้งแรกที่ Captain Cook นาฬิการะดับไอคอนิกของ Rado ผลิตจากเซรามิกทั้งเรือน ยกเว้นฝาหลังเท่านั้น ด้วยนวัตกรรมล่าสุด วัสดุล้ำยุค และรูปลักษณ์ที่ออกมาแบบมาอย่างมีรสนิยม ทำให้ Captain Cook เรือนนี้โดดเด่นและยังคงความเป็นตำนานของแบรนด์ได้เช่นเคย ส่วนกลไกการเดินเป็นระบบออโตเมติกรุ่นใหม่ มีการสลักลายวิจิตรบรรจง หน้าปัดเผยให้เห็นกลไกด้านในซึ่งมีความเที่ยงตรง และสำรองพลังงานได้ยาวนานถึง 80 ชั่วโมง ทั้งหมดนี้ คือ Captain Cook High-Tech Ceramic Limited Edition ที่สร้างสรรค์ขึ้นเพียง 1,962 เซ็ตทั่วโลกเท่านั้น
ในปีค.ศ.1962 นาฬิกาตระกูล Captain Cook ได้เกิดขึ้นครั้งแรก ครั้งนั้น Rado ต้องการนำเสนอความแข็งแกร่งและนวัตกรรมที่ล้ำหน้าเหนือใคร ไม่ว่าจะเป็นด้านการออกแบบหรือวัสดุที่ใช้ ดังนั้นในปีนี้ เมื่อ Captain Cook เดินทางมาครบ 60 ปี Rado จึงพร้อมสร้างความแปลกใหม่ให้วงการนาฬิกาอีกครั้ง โดยเนรมิตความพิเศษต่างๆ ขึ้นมา ทั้งขอบหน้าปัดแบบหมุนได้ที่ผลิตจากเซรามิก อินเสิร์ชเซรามิกซึ่งใช้เลเซอร์สลักตัวเลขให้นูนขึ้นมา ตัวเรือนเป็นไฮเทคเซรามิกสีดำด้านกับคริสตัลแซฟไฟร์สีควันบุหรี่ สามารถดึงเอาลักษณะโดดเด่นของ Captain Cook ที่หลายคนประทับใจออกมาได้อย่างครบถ้วน
นอกจากนี้ ผู้ชื่นชอบนาฬิกาต้องสะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น ด้วยรูปลักษณ์ที่มีทั้งความแข็งแกร่งและงดงาม ไล่ตั้งแต่ขอบหน้าปัด ตัวเลข ไปจนถึงเข็มชั่วโมงและเข็มนาทีที่มีการเคลือบ Super- LumiNova® ช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจนแม้อยู่ในสภาวะแสงน้อย องค์ประกอบเหล่านี้ล้วนเข้ากันอย่างลงตัว เป็นการพา Captain Cook รุ่นดั้งเดิมก้าวเข้าสู่ยุคปัจจุบันได้อย่างสวยงาม โดยยังคงความแข็งแกร่งอันเป็นเอกลักษณ์ไว้ และมีเทคโนโลยีของยุค 2022 มาเติมเต็มให้ยิ่งสมบูรณ์ขึ้น
Rado ขึ้นชื่อเรื่องการสร้างสรรค์ตัวเรือนแบบชิ้นเดียว ช่วยให้ตัวเรือนบาง แต่ยังทนทานแข็งแรง ภายในตัวเรือนประกอบด้วยนาฬิกาสามเข็ม 25 จีเวล กลไกการเดิน R808 รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีความแม่นยำสูง และยังคงมีแฮร์สปริง Nivachron™ คอยป้องกันสนามแม่เหล็กด้วย หน้าปัดคริสตัลแซฟไฟร์สีควันบุหรี่เผยให้เห็นกลไกด้านใน มีการแต่งลาย Côtes-de-Genève และใช้แผ่นครอบเฟืองสีเหลืองทอง
การออกแบบ Captain Cook High-Tech Ceramic Limited Edition รุ่นใหม่นี้ ทุกจุดเน้นการใช้สีตัดกันอย่างมีรสนิยม มองเห็นชัดเจนแม้ในรายละเอียดที่เล็กที่สุด อาทิ สัญลักษณ์รูปสมอของ Rado รวมถึงมีการนำเทคโนโลยีด้านวัสดุใหม่ๆ มาหลอมรวมกับศิลปะการออกแบบนาฬิกาที่ละเอียดลออ เช่น สายนาฬิกาสีดำด้าน ซึ่งผลิตจากไฮเทคเซรามิกที่มีความแข็งแกร่ง แต่ก็ออกแบบให้มีความโค้งมนดูงดงามได้ด้วย ตัวสายมาพร้อมบานพับล็อกไทเทเนียมแบบสามทบ และตัวกดทำจากเซรามิก รายละเอียดเล็กๆ เหล่านี้รวมกันเป็นความสมบูรณ์แบบเรือนล่าสุดจากผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุและการผลิตนาฬิกาอย่างแท้จริง