เนื้อหาในหมวด การเงิน

วิเคราะห์กรรมการ กขค. ถูกขั้นตอน ไม่กังวล มพบ. กรณีอนุมัติดีลค้าปลีกแบบมีเงื่อนไข ต้องมองให้ครบทุกมิติ

วิเคราะห์กรรมการ กขค. ถูกขั้นตอน ไม่กังวล มพบ. กรณีอนุมัติดีลค้าปลีกแบบมีเงื่อนไข ต้องมองให้ครบทุกมิติ

ในยุควิกฤตเศรษฐกิจ โควิด-19 เศรษฐกิจก็แย่อยู่แล้ว การรักษาการจ้างงาน การรักษาอุตสาหกรรม เพราะทุกกลุ่มอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีก ที่กลุ่มทุนต่างประเทศถอนทัพ ไม่เว้นแม้แต่บริษัทค้าปลีกใหญ่ที่สุดในอังกฤษ อย่างเทสโก้ ที่ถอนตัวจากเกาหลีใต้หลายปีก่อน ทำให้บริษัทเทสโก้เริ่มทบทวนธุรกิจของเทสโก้ในภูมิภาคเอเชียเมื่อปีก่อน

จนกระทั่งขายกิจการเทสโก้ โลตัสในประเทศไทยและมาเลเซีย ให้กลุ่มซีพี ด้วยมูลค่ากว่า 3.3 แสนล้านบาท ทำให้ต้องเข้าใจก่อนว่าเทสโก้มีความจำเป็นต้องขาย และผู้มีกำลังซื้อก็ต้องเป็นผู้ประกอบการที่จ่าย 3 แสนล้านบาทได้ หากไม่พิจารณาผลกระทบ แล้วเกิดการเลิกจ้าง เกิดการปิดกิจการบางส่วน จะกระทบภาพรวมเศรษฐกิจ ทำให้ต้องนำมาพิจารณา เพราะผู้เข้าร่วมประมูลทั้ง 3 รายล้วนมีขนาดใหญ่

กรรมการแข่งขันทางการค้า หรือ กขค. อนุมัติให้ดำเนินการซื้อขายได้ แต่ก็ไม่ได้มองข้ามทุกข้อกังวล โดยได้อนุมัติแบบมีเงื่อนไข และเปิดโอกาส 90 วัน หากมีผู้ร้องเรียน แต่ก็ไม่มีผู้มาร้องเรียน แม้กระทั่งกลุ่มซีพีก็ รอเพื่อให้แน่ใจว่าขั้นตอนผ่านสมบูรณ์ โดยไม่เร่งรีบจ่ายเงินให้เทสโก้ จนกว่าจะแน่ใจว่า กขค. อนุมัติโดยสมบูรณ์

หลังจากนั้นจึงชำระเงินให้กับเทสโก้กว่า 3 แสนล้านบาท ซึ่งปัจจุบันได้ชำระไปแล้ว โดยระดมทุนจากสถาบันทางการเงินทั่วโลก ดังนั้น การสั่นคลอนความเชื่อมั่นของดีลนี้ อาจมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์องค์กรที่ควรจะเป็นที่น่าเชื่อถือของนักลงทุน เพราะหากพิจารณาแล้วอย่างรอบคอบ ถูกขั้นตอน และกลับมีการสั่นคลอนการพิจารณา จะส่งผลเสียหายหลายแสนล้านบาท และเป็นผลกระทบที่รุนแรง

ดีลนี้เป็นตัวอย่างที่ดีด้านความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจไทย และเป็นที่จับตามองของนักลงทุนทั่วโลก หากมีปัญหากับการพิจารณาของ กขค. อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของไทยในอนาคต องค์กรที่ทำหน้าที่อนุมัติ เชื่อถือได้หรือไม่ เมื่อดีลธุรกิจกว่า 3.3 แสนล้านบาท ถูกนำมาใช้เป็นเกมต่อรอง โดยกลุ่มที่อ้างความเสียหายต่อผู้บริโภค ขู่ฟ้อง กขค. ทั้งที่ผลการพิจารณาของกขค. ออกมาตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. 2563 เวลาผ่านไปเกินกว่า 90 วัน

แต่ก็ไม่มีเสียงคัดค้าน จนกลุ่มซีพีชำระเงินให้กับกลุ่มเทสโก้จากอังกฤษ 3.3 แสนล้านบาท ผ่านไป 4 เดือน กลับมีเสียงดังออกมาจากบางกลุ่มว่าจะมีการยื่นฟ้องกขค. เรียกว่า เป็นวิชาทำลายความน่าเชื่อถือองค์กรภาครัฐ พร้อมสะกัดกลุ่มซีพีไปในตัว ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว แต่ความเสียหายไม่ได้เกิดแค่ซีพีกับสถาบันการเงินเท่านั้น แต่คู่ค้า ร้านค้าในโลตัส ล้วนต้องตกเป็นตัวประกัน หากศาลรับคำร้อง ความเสียหายจะขยายเป็นวงกว้าง ต่อไปคงไม่มีใครกล้าเชื่อถือองค์กรภาครัฐ ที่พรัอมจะกลับกลอกได้ทุกเมื่อ แม้จะเดินตามกติกาทุกขั้นตอนก็ตาม

- ทุกคนมีสิทธิ แต่ทุกคนต้องเคารพสิทธิ

เมื่อ กขค. มีมติไปแล้ว และกลุ่มซีพีก็ชำระเงินให้เทสโก้แล้ว ถ้ามติ กขค. ขาดความมั่นคง ความเสียหายจะขยายวงกว้าง และกระทบต่อความน่าเชื่อถืออย่างรุนแรง

มติ กขค. ทำให้เกิดสิทธิทางกฎหมาย แต่หากอยากเรียกร้องสิทธิ สิ่งแรกที่ต้องคิดคือ เราเป็นผู้เสียหายหรือไม่ ความเสียหายเกิดขึ้นแล้วหรือยัง และข้อเรียกร้องของเราไปกระทบสิทธิของผู้อื่นหรือไม่ ซึ่งต้องคำนึงถึงดุลยภาพระหว่างการคุ้มครองสิทธิ และความเสียหายของผู้ประกอบการที่ได้รับสิทธิอย่างถูกต้องจากองค์กรภาครัฐด้วย

เอกชนที่กล้ามาลงทุนในประเทศไทย ย่อมเชื่อว่า กขค. เป็นคณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ใช้ดุลยพินิจโดยแท้ แต่หากใครไม่พอใจผลการตัดสิน แล้วให้ศาลปกครองมาพิจารณาในเรื่องการตลาดค้าปลีก ต่อไปคงไม่ต้องมีคณะกรรมการใด ๆ แต่ให้ศาลปกครองพิจารณาอนุมัติซื้อขายไปเลย ก็คงจะวุ่นวายไม่น้อย ดังนั้น ความน่าเชื่อถือของคณะกรรมการจึงมีความสำคัญมาก

- ตลาดที่ กขค. พิจารณา คือ ตลาดอะไรกันแน่ สิ่งที่ กขค. เรียกว่า “ตลาดร้านค้าปลีกสมัยใหม่ สินค้าอุปโภคบริโภคประเภทร้านค้าปลีกขนาดเล็ก” ประกอบด้วยผู้เล่นรายใดบ้าง?

ยุคนี้ตลาดเปิดกว้างด้วยเทคโนโลยี ลูกค้าเปรียบเทียบราคาได้ และเลือกของที่ดีที่สุดในราคาคุ้มค่าที่สุดเสมอ ทำให้การมีอำนาจเหนือตลาดเป็นไปได้ยากมาก

ตลาดค้าปลีกในยุคที่ไม่มีพรมแดนเช่นปัจจุบันนี้ ผู้บริโภคมีทางเลือกอีกมากมาย เริ่มจากกลุ่มร้านค้าปลีกขนาดเล็กอย่าง “โชห่วย” ที่มีจำนวนกว่า 500,000 ร้านค้าทั่วประเทศ (ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์) มีมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 1 ล้านล้านบาท

ข้อมูลย้อนหลัง 10 ปี ของ Nielsen Thailand ยังระบุว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมามีตัวเลขผู้ประกอบการเปิดร้านใหม่มากกว่าปิดร้าน จำนวนร้านโชห่วยจึงเพิ่มมากขึ้น

ตลาดค้าปลีก ที่ขึ้นทะเบียนจำนวนกว่า 4 พันแห่ง แต่ละแห่งมีร้านค้าภายในหลักร้อยและหลักพันร้านค้า โดยตลาดในกรุงเทพมหานคร เช่น ตลาดประชานิเวศน์ 1, ตลาดบางกะปิ, ตลาดหนองจอก, ตลาดราษฎร์บูรณะ, ตลาดรัชดาภิเษก, ตลาดอรุณอมรินทร์, ตลาดสิงหา, ตลาดพระเครื่องวงเวียนเล็ก, ตลาดธนบุรี (สนามหลวง 2), ตลาดเทวราช, ตลาดนัดจตุจักร, ตลาดนัดจตุจักร (มีนบุรี) และตลาดบางแคภิรมย์ มีแผงค้ารวมทั้งสิ้นประมาณ 21,500 แผงค้า ในจำนวนนี้ตลาดนัดจตุจักรคือตลาดที่ใหญ่สุดมีแผงค้าทั้งหมด 10,334 แผง

อีกตลาดค้าปลีกสมัยใหม่ที่สำคัญ คือ ตลาดอีคอมเมิร์ซ ที่มีมูลค่าสูงถึง 220,000 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 35% จากปีก่อน เหตุผลเนื่องจากความสะดวกสบายในการช้อปปิ้งออนไลน์ และสภาวะบีบคั้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้ผู้บริโภคหันไปช้อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น ผ่าน e-marketplace ที่เป็นการนำสินค้าไปขายบนเว็บไซต์ หรือตลาดสินค้าออนไลน์ที่รวมร้านค้าหลายแห่งไว้ในที่เดียว ซึ่งเราสามารถไปเปิดร้านในนั้นได้ อย่าง Lazada, Shopee

นอกจากนี้ จำนวนส่วนแบ่งตลาดของเทสโก้โลตัสยังเท่าเดิม และยังมีคู่แข่งที่เป็นรายใหญ่ และเป็นเจ้าของกิจการอีคอมเมิร์ซด้วย เช่น เซ็นทรัลได้ร่วมทุนกว่า 17,500 ล้านบาท กับ JD ดอทคอม ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจากประเทศจีน จัดตั้ง เจดี เซ็นทรัล (JD CENTRAL) สร้างมาร์เกตเพลส (Marketplace) แห่งใหม่ เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเข้าถึงลูกค้าของกลุ่มธุรกิจในเครือเซ็นทรัล ดังนั้น มิติของตลาดสมัยใหม่เปิดกว้าง และเป็นโอกาสของคู่ค้าในการขยายไปต่างประเทศอีกด้วย

- ทำไมคำวินิจฉัยระบุว่า “มีอำนาจเหนือตลาดอย่างมีนัยสำคัญ แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคส่วนรวม”?

ตลาดค้าปลีกสมัยใหม่ ปัจจุบันมีสัดส่วนเพียงแค่ 1 ใน 3 ของตลาดค้าปลีกทุกประเภท นั่นหมายถึงทางเลือกยังเป็นของผู้บริโภค จำนวนสัดส่วนร้านค้าเดิมของเทสโก้มีตัวเลขที่มีนัยสำคัญ แต่เป็นการค้าปลีกแบบเก่าที่ต้องปรับตัวอย่างหนักหากดูแนวโน้มไฮเปอร์มาร์ททั่วโลก

ดังนั้น สิ่งที่บางคนคิดว่าเป็นการได้เปรียบหรือมีอำนาจเหนือตลาด ในความจริงคือซื้อมาราคาสูงก่อนโควิด และต้องพลิกโมเดลให้อยู่รอด ซึ่งการมีผู้เล่นน้อยราย เนื่องจากเกิดการขายออกให้บริษัทต่างชาติ หลังจากเกิดวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจในปี พ.ศ. 2540 กลุ่มธุรกิจค้าปลีกประเภทไฮเปอร์มาร์เก็ตของไทยเริ่มประสบปัญหาหนี้สินต่างประเทศอย่างรุนแรง โดยปัญหาดังกล่าวเกิดจากผู้ประกอบการขนาดกลางขยายกิจการด้านค้าปลีกและการเก็งกำไรในอสังหาริมทรัพย์เกินตัว เมื่อรัฐบาลประกาศลอยตัวค่าเงินบาท ภาระหนี้จึงเพิ่มกว่าเท่าตัว ทำให้ธุรกิจค้าปลีก โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีกประเภทไฮเปอร์มาร์เก็ต เปลี่ยนมือเป็นของต่างชาติมากขึ้น หลังจากที่กฎหมาย ปว.281 อนุญาตให้นักลงทุนจากต่างชาติสามารถถือหุ้นในสัดส่วนมากกว่า 50% ทำให้ผู้ลงทุนต่างชาติกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และมีสิทธิในการบริหารงาน นักลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในประเทศแถบยุโรป

- ปี พ.ศ. 2540 ห้างท้องถิ่นอย่าง Save Co., Big King, Imperial, Tan Hua Seng และห้างขนาดกลาง ๆ เลิกกิจการ
- ปี พ.ศ. 2541 Lotus ขายกิจการให้ Tesco จากอังกฤษ และเปลี่ยนชื่อเป็น Tesco Lotus
- ปี พ.ศ. 2542 Central ขายหุ้นบริษัท Cencar คืนให้กับ Carrefour
- ปี พ.ศ. 2545 Big C ร่วมทุนกับ Casino Group จากฝรั่งเศส
- ปี พ.ศ. 2546 Auchon ซึ่งมีอยู่สาขาเดียวที่เชียงใหม่ ขายกิจการให้ Big C

ดังนั้น การที่บริษัทไทยเริ่มซื้อกิจการกลับมาได้จากต่างประเทศ ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะเม็ดเงินภาษีจะกลับสู่ประเทศไทยอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย และยังเปิดโอกาสส่งออกสินค้าชุมชนไปต่างประเทศอีกด้วย

- เหตุผลในการออกเงื่อนไขทั้ง 7 ข้อ มีวัตถุประสงค์อะไร จะสามารถป้องกันการใช้อำนาจเหนือตลาดได้อย่างไร?

วันนี้ต้องยอมรับว่า บริษัทในประเทศไทยอ่อนแออยู่แล้ว ไม่ว่าขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ การที่ยังมีการลงทุนขนาดใหญ่ ไม่ถอดใจล้มเลิกดีล ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีของประเทศไทย การเพิกถอนใบอนุญาต หรือการล้มดีลจากมือที่สามเป็นเรื่องง่าย แต่การจะหาผู้ซื้อรายใหม่นั้นเป็นเรื่องยาก และที่แน่ ๆ คือ ผู้ซื้อรายใหม่ต้องเป็นต่างชาติ จึงจะไม่ติดเงื่อนไขที่ผู้ร่วมประมูลในประเทศประสบอยู่ แต่คนมักไม่พูดถึงว่า เทสโก้จะเสียหายเท่าไร และกระทบคู่ค้า และสำนักงานเท่าใด ส่วนใหญ่เพียงกลัวว่าบริษัทไทยจะใหญ่เกินไป ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ในไฮเปอร์มาร์ท ล้วนเป็นของแบรนด์ยักษ์ใหญ่ระดับโลก ที่นักวิชาการมักไม่กล้าแตะต้อง

- เหตุใดจึงเลือกมาตรการเยียวยาที่เป็นเงื่อนไขควบคุมพฤติกรรม แต่ไม่ใช้เงื่อนไขโครงสร้างตลาด เช่น ลดขนาดการควบรวม ห้ามขยายสาขา ลดจำนวนสาขา?

หากมีการห้ามขยายสาขา ไม่ใช่การส่งเสริมธุรกิจ แต่เป็นการจำกัดการอยู่รอดของธุรกิจ กฎหมายของไทยต้องไม่เป็นอุปสรรค คนออกฎหมายหากมองจากนักวิชาการเพียงอย่างเดียว จะปฏิบัติไม่ได้จริง อาจทำให้กลไกทางเศรษฐกิจเสียหาย กฎหมายในประเทศไทย ทำไมถึงทำให้มีการลงทุนจากต่างชาติน้อยกว่าประเทศสิงคโปร์ นั่นเป็นเพราะประเทศไทยมีแนวคิดกำกับ ควบคุม มองในด้านลบ แล้วออกกฎระเบียบ ขั้นตอน มากำกับ ในขณะที่สิงคโปร์ เวียดนาม เน้นการส่งเสริม ให้โอกาสลงทุนมาพัฒนา เกิดปัญหาแล้วมาว่ากันเป็นกรณี ๆ ไป บรรยากาศการลงทุนจึงเกิดขึ้น อย่างเช่นดีลเทสโก้นี้ หากผ่านทุกขั้นตอน แล้วยังมีกระบวนการชักเย่อ แน่นอนว่ากระทบการระดมทุน กระทบความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ใครจะขยายการลงทุนในไทย คงต้องทบทวนอย่างหนัก

- ด้วยข้อมูลสนับสนุนชุดเดียวกัน เพราะเหตุใดบอร์ดจึงเสียงแตก และมีคำวินิจฉัยที่แตกต่างออกเป็น 2 ขั้ว?

เป็นเรื่องธรรมดามาก เพราะบอร์ดมีอิสระในการแสดงความคิดเห็น หากเสียงออกมาเอกฉันท์จะแปลกมากกว่า แต่ที่ดูแล้วแปลกกว่าคือ ประธานคณะกรรมการออกความคิดเห็นในเสียงข้างน้อย ซึ่งโดยปกติการออกมาเป็นเลขคี่ เพื่อให้ประธานชี้ขาดในกรณีเสียงออกมาเสมอกัน แต่กรณีนี้หลายฝ่ายแปลกใจที่ประธานรีบลงคะแนนเลือกแต่แรก และร่วมตั้งโต๊ะแถลงเสียงข้างน้อย ซึ่งค่อนข้างแตกต่างจากธรรมเนียมปฏิบัติ

- แนวทางอื่น ๆ ที่จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการใช้อำนาจเหนือตลาดหลังจากมีการควบรวมนอกเหนือไปจากการใช้ ม.50?

เงื่อนไข 7 ข้อ มาจาก กขค. ที่ทุกฝ่ายต้องเคารพผลการพิจารณา เพื่อให้เศรษฐกิจภาพรวมเดินต่อได้ นอกจากนี้ยังมีกฎระเบียบที่คุ้มครองผู้บริโภคและคู่ค้าอยู่แล้ว อยู่ที่การบังคับใช้ และให้ผู้รับผิดชอบได้ปฏิบัติหน้าที่

บรรยากาศการลงทุนเป็นเรื่องสำคัญ แต่หากประเทศไทยจะเน้นความเข้มงวดด้านกฎหมายเป็นสำคัญ โดยมีกฎหมายลูกสนับสนุนให้มีการฟ้องร้อง ประเทศไทยก็จะล้าหลังด้านบรรยากาศการลงทุน ธุรกิจที่จะเข้าลงทุนในประเทศไทย ก็ต้องคิดหนัก และอาจหันไปพิจารณาประเทศอื่น อย่างเวียดนาม หรืออินโดนีเซีย ที่มีตลาดใหญ่กว่า และกฎหมายที่เอื้ออำนวยมากกว่า ดังนั้น หากเมืองไทยยังปล่อยให้คนบางกลุ่มเรียกร้องสิทธิ แต่ทำลายความเชื่อมั่นของประเทศ ต่อไปไม่มีใครกล้าเข้ามาลงทุนในประเทศเรา แล้วใครจะรับผิดชอบ

ชาวนาเฮ! นบข. เคาะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท

ชาวนาเฮ! นบข. เคาะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท

นบข. ไฟเขียวโครงการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท 10 ไร่ หรือ 10,000 บาท พร้อมมอบหมายให้กระทรวงเกษตรฯ ทำหลักเกณฑ์ส่งเสริมให้เกษตรกรยกระดับการปลูกข้าว

สรุปธุรกิจอาหารเสริม \

สรุปธุรกิจอาหารเสริม "อมาโด้ กรุ๊ป" ของ "เชน ธนาตรัยฉัตร" ที่มีรายได้ปีละพันล้าน

สรุปธุรกิจของ เชน ธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ กับต้นกำเนิดอาหารเสริมที่ชื่อว่า "อมาโด้" ก่อนฟาดกำไรปีละหลายพันล้านบาท

ธอส. รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณผู้สนับสนุนโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต

ธอส. รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณผู้สนับสนุนโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต

ธอส. รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณผู้สนับสนุนโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

ดีพร้อม ดันซอฟต์พาวเวอร์ หนุนแฟชั่นไทยผ่านอินฟลูเอนเซอร์ ติดปีกผู้ประกอบการสู่เวทีสากล

ดีพร้อม ดันซอฟต์พาวเวอร์ หนุนแฟชั่นไทยผ่านอินฟลูเอนเซอร์ ติดปีกผู้ประกอบการสู่เวทีสากล

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) เดินหน้าผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ไทยโดยอาศัย "พลังทางอ้อม" ผ่านอินฟลูเอนเซอร์ ตามนโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรม สู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส”