เนื้อหาในหมวด ข่าว

\

"ติ๊ก กลิ่นสี" ชอบศาสตร์ดูดวง เผยเปิดตำรากำหนดเวลาคลอดลูกชายด้วยตัวเอง

นอกจากจะเป็นนักแสดงสุดแนวที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองแล้ว ติ๊ก กลิ่นสี ยังเป็นคุณพ่อที่น่ารักสำหรับลูกชาย ติ๊กติ๊ก และหัวหน้าครอบครัวที่ดีอีกด้วย พร้อมกันนั้นเขายังนับว่าเป็นคนที่ดูดวงได้แม่นเป๊ะปังอย่างกับตาเห็น

ล่าสุด ติ๊ก กลิ่นสี ได้มาเยือนรายการต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 เผยว่าที่ไม่อยากให้ใครๆเรียกตัวเองว่าหมอดูก็เพราะตัวเองแค่ศึกษาเพราะชอบเป็นการส่วนตัวก็เท่านั้นเอง พร้อมเล่าถึงเรื่องลูกจะเกิดคือ น้องติ๊กติ๊ก คือถ้าเวลาไม่ใช่ห้ามคลอด และธุรกิจกระเป๋าที่ใครซื้อไปใช้ต้องปัง 

ย้อนกลับไปเคยคิดไหมว่าเราจะเข้ามาอยู่ในวงการบันเทิง

ติ๊ก กลิ่นสี : "ไม่เคยเลยครับ เพราะว่าตัวเองก็ไม่เคยคิดเพราะโดยส่วนตัวเพราะเราเป็นคนขี้อาย ไม่กล้า แต่กับเพื่อนฝูงเราเป็นคนกล้าแสดงออกเพราะเวลาที่มหาวิทยาลัยจัดงานเราจะเป็นจัดการทั้งหมด อย่าง ศิลปากรมีงานแข่งกีฬาเราก็จะเป็นนักพากย์ซึ่งไม่มีใครดูกีฬาเลยเพราะดูเราพากย์ (หัวเราะ) เลยทำให้เราชอบการพากย์มาตั้งแต่ตอนนั้น เราก็เป็นคนที่ชอบแสดงออก ชอบที่จะอยู่เบื้องหน้าแต่เราเป็นสายฮา เน้นไม่มีสาระ แต่สิ่งที่ทำให้เราเข้ามาในวงการนี้คือ ดวง เพราะตอนปี 26 ตอนนั้นเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัย ตอนนั้นผมยาว มีหนวดใส่ต่างหู เรียนคณะจิตรกรรม เราก็ได้ไปดูหมอดูเขาก็ทำนายเราว่าต่อไปจะไปเป็นดาราดังด้วย"

"แต่เราก็ไม่เชื่อ แล้วประมาณปี 28 เราก็ทำละครเวทีโดยคณะสถาปัตยกรรม ที่เราได้เราเข้าไปเล่นเพราะว่าเขายังขาดตัวละครอยู่ 1 ตัว คือ โจรสลัดเราก็เลยบอกว่าเดี๋ยวเล่นให้ดู ก็ปล่อยของเราแบบเต็มที่เพราะเมา (หัวเราะ) พอโชว์ให้เขาดูเสร็จเราก็กลับไปนอน แล้วตื่นมาคือ เปิ้ล นาคร มาตามให้ไปแสดง แต่เราบอกว่าไม่ไปถ้าจะให้ไป เปิ้ล ต้องกราบ แล้วก็กราบเราจริงๆ เราก็ไปเล่นให้ผู้กำกับดู ซึ่งเราก็เล่นแบบแหวกแนวเลยคือ ไม่ได้เล่นตามที่เขาบอก แต่เล่นตามสไตล์ของเรา แล้วพอเราได้ไปเล่น ครูโม ที่ทำงานอยู่ไนน์สปอร์ต ได้มาเห็นก็ให้เราไปเล่นต่อเลย และหลังจากนั้นก็มาเป็น กลิ่นสีและกาวแป้ง ที่ไปเล่นเพราะเราได้เงินกลางวันได้ 500 กลางคืนได้ 500 เพราะได้เงินเลยเปลี่ยนความคิดใหม่" 

แต่สงสัยคนที่ไม่เชื่อเรื่องดวง หมอดูให้ว่าจะดังเราวยังไม่เชื่อเลย แต่ตอนนี้กลับกลายมาเป็นหมอดูที่ดูดวงแม่นมาก

ติ๊ก กลิ่นสี : "แต่ขออธิบายก่อนนะครับ ผมไม่ใช่หมอดูนะแต่ผมเป็นคนที่ศึกษาเพราะความอยากรู้ส่วนตัว เราเลยไปหาหนังสือมาอ่านเรื่องการดูลายมือซึ่งเป็นสิ่งแรกที่เราศึกษาแล้วเราก็เอามาวิเคราะห์ว่าเส้นลายมือแต่ละเส้นบอกอะไร พอหลังจากนั้นเราก็มาศึกษาว่าการเซ็นลายเซ็น เวลาสะบัดยังไงเราก็มาพิจารณาก่อนว่าพยัญชนะไทยมี 44 ตัว ภาษาอังกฤษมี 26 ตัว แต่พยัญชนะไทยเราจะใช้แค่ ส ช ธ ส่วนมากแต่ภาษาอังกฤษใช้ทุกตัวเราก็ศึกษาเพราะว่าเราอยากรู้ว่าคนนี้เขาสะบัดลายเซ็นเราดูจากสัญญาณโชคชะตา เพราะถือว่าสิ่งที่เราดูคือเป็นการศึกษาส่วนตัว สิ่งที่เราชอบ"

ศึกษาการดูดวงเพราะชอบเวลาจะมีแฟนถึงกับต้องเอาดวงชะตาไปดูด้วยจริงไหม

ติ๊ก กลิ่นสี : "เอามาประกอบในการดำเนินชีวิตมากกว่า"

ติ๊ก กลิ่นสี : "อย่าง ปุยฝ้าย เกิดวันจันทร์ เป็นคนมีเสน่ห์ อ่อนหวาน อ่อนไหว มีจินตนาการ คู่ของเขาคือวันพุธ และศัตรู"

ติ๊ก กลิ่นสี : "ส่วนคุณอั๋น เกิดวันจันทร์ ที่ 2 เขาเป็นคนมีเสน่ห์ เขาเป็นคนที่อารมณ์แปรปรวน เขาทำงานเกี่ยวกับการพูด การเจรจาดีมาก เขาจะโชคดีมาก วันที่ 16 เมษายน 2564 กาลโยคจากอาทิตย์เปลี่ยนเป็นอธิบดี อั๋น จะดีไป 1 ปี"

แต่สิ่งหนึ่งที่จะต้องขนาดนั้นเลยเหรอด้วยความที่เราศึกษาข้อมูลมาเยอะลูกจะเกิด คือ น้องติ๊กติ๊ก คือถ้าเวลาไม่ใช่ห้ามคลอดใช่ไหม

ติ๊ก กลิ่นสี : "คือจริงๆ แล้วเราต้องมีอาจารย์เวลาจะเกิดเราดูปี 59 พุธ เป็นอธิบดี ถ้าแตะอยู่คู่ 2 คือดี ถ้าแตะอยู่คู่หนึ่งฉลาด ผมเลยให้ลูกเกิดวันที่ 1 วันพุธ แล้วเวลาที่เขาจะคลอดมันมี ฤกษ์เกิด เด็กจะมาเกิดคือ คลอดเร็ว คลอดช้า ไม่ได้ตรงเวลา เราก็กำหนดและบอกหมอเลยว่าคลอดเวลานี้ เราก็ไม่กล้าเข้าไปในห้องคลอดเพราะเรากลัวแล้วเราก็เจอคนที่แต่งชุดหมอเราก็ถามว่าคุณติ๊กครับ ผมไม่ใช่หมอแต่เขาก็พาภรรยามาคลอดเหมือนกัน เขาก็ถามเราว่าไม่เข้าไปเหรอเราก็บอกว่าไม่กล้าเขาก็บอกเราว่า คุณติ๊ก โลกสวย"

"แค่นั้นเองเราก็วิเคราะห์ว่าคงมีสัญญาณอะไรที่มาบอกเราว่าต้องเข้าไปได้แล้วเราก็คุยกับหมอว่าให้ลูกเราออกเวลาที่เรากำหนดที่เราต้องการ ซึ่งชื่อที่เราตั้งให้เขา เด็กชาย ติ๊ก กลิ่นสี  ขันทีท้าว รวมเลขแล้วตกเลขที่ไม่ดีเราก็บอกอาจารย์ว่าไม่เป็นไร งั้นเอาไว้คง ติ๊ก ขันทีท้าว รวมได้ 5 เท่ากับดวงเขาเลยแสดงว่าทุกอย่างลงตัวตั้งแต่เวลาเกิดเขาทุกอย่างคือลงตัว พอลูกเราโตขึ้นมาได้หน่อยเราก็ดูลายมือเขาเห็นเส้นเสาร์เขาขนาดนี้เลยเหรอ เส้นอาทิตย์เขาขนาดนี้เลยเหรอ อาจารย์บอกว่าลูกชายจะเป็นนักการฑูต" 

แล้วมองการเรียนให้ลูกไว้เลยไหม

ติ๊ก กลิ่นสี : "ไม่ได้คิดว่าลูกต้องเรียนอินเตอร์ฯ เพราะว่าเราดูจากการพัฒนาเขา สำเนียงการพูดของเขาการออกเสียงของเขาดีมากสิ่งเหล่านี้คือมีติดตัวเขามาโดยธรรมชาติได้สร้างให้เขามา เขาเล่าเรื่องอวกาศเป็นภาษาอังกฤษในตอนที่เขาอายุ 4 ขวบ 6 เดือน แล้วกดโทรศัพท์กดอะไรเขาไว แล้วความจำเขาดี อันนี้ผมเชื่อเป็นการส่วนตัวเชื่อว่าปู่กับพ่อผมมาอยู่กับเขาผมเชื่อว่าเป็นอย่างนั้น ไม่เคยตีเขา ไม่เคยว่าเขา แต่จะพูดบวกกับเขาฟังเสมอ ผมไม่ถือว่าเขาเป็นลูกผมนะ แต่ผมถือว่าเขาเป็นเพื่อน"

จากติ๊ก มาเป็นติ๊กติ๊ก มาสู่ธุรกิจเกี่ยวถึงเรื่องการดูดวงด้วย ถือว่าเป็นธุรกิจใหม่ของพี่เลยไหม

ติ๊ก กลิ่นสี : "คืออย่างนี้ผมเกิดราศีตุลย์ ซึ่ง ราศีตุลย์ เล็งกับเมษ ซึ่งเมษคือดวงเมือง ส่วนราศีตุลย์ คือ เลข 6 เกี่ยวกับศิลปะ ส่วนฤกษ์ของผมคือ เทวี คือความสวยงาม ผมเลยชอบทำอะไรสวยๆที่ผมอยากจะทำเพราะว่ามีโควิดเกิดขึ้นมาโลกใบนี้มันเกิดอะไรขึ้น แล้วเป็นช่วงที่เรามีเวลาว่างมีโอกาสอะไรที่เราอยากจะทำผมชอบทำกระเป๋าสะพายไม่เหมือนใครแล้วอีกอย่างหนึ่ง ผมเชื่อว่ามันเป็นสิ่งที่มีอยู่ในตัวเราผมเลยทำกระเป๋าขึ้นมาตั้งชื่อว่า ติ๊กติ๊ก By ติ๊ก กลิ่นสี แล้วก็จะยกแบรนด์นี้ให้ลูกชายผม ซึ่งผมเชื่อว่าสิ่งนี้จะเคียงคู่กับกับผมเพราะเราจบทางด้านศิลปะมาแล้วเราไม่เคยสร้างสรรค์ผมงานอะไรไว้เลย เราเลยทำขึ้นมาเป็นกระเป๋า แล้วเราก็ใช้ความรู้ที่เราศึกษามาว่า กาลโยคเป็นสีแดง เราเลยเย็บด้ายแดงเพื่อเป็นโชคลาภ เราก็เอาสิ่งที่เราศึกษามาใส่เสริมดวงให้แบนด์กระเป๋าของเราด้วย ซึ่งถ้าใครสนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ครับที่เพจ TikTik BY TIK Klinsee" 

สามารถชมรายการ ต้มยำอมรินทร์ ย้อนหลังได้ทาง ยูทูป 

ขนลุก “ติ๊ก กลิ่นสี” ทำนายลายเซ็น ใครมีลุ้นนั่งเก้าอี้นายก? เผยชื่อเด็ดมาแล้วดี

ขนลุก “ติ๊ก กลิ่นสี” ทำนายลายเซ็น ใครมีลุ้นนั่งเก้าอี้นายก? เผยชื่อเด็ดมาแล้วดี

“ติ๊ก กลิ่นสี” เปิด 3 ชื่อดัง “ลุงตู่-ลุงป้อม-เสี่ยหนู” ใครได้เป็นนายกฯ พร้อมเจาะลึกคำทำนาย ใครมีรหัสเลข 13 มีสิทธิ์ที่สุด?

\

"หนูแหม่ม" และพี่ๆ อดีตเสนายุทธการขยับเหงือก อาลัยรักส่ง "เสนาโค้ก" เป็นครั้งสุดท้าย

หนูแหม่ม สุดอาลัยเดินทางมาส่ง เสนาโค้ก พี่ชายที่แสนดีเป็นครั้งสุดท้าย เผยภาพพี่ๆ อดีตเสนาร่วมไว้อาลัยด้วย

\

"ติ๊ก กลิ่นสี" เผยความลับที่เก็บอยู่ในใจ เคยสูญเสียภรรยาคนแรกอย่างไม่ทันตั้งตัว

ติ๊ก กลิ่นสี ออกมาเผยความลับที่เก็บไว้ในใจตลอด หลังต้องสูญเสียภรรยาคนแรกไปอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว