"เกริก ชิลเลอร์" รับลูกสาวเรียนออนไลน์เครียด เผยธุรกิจร้านตัดผมต้องปิดยาวจากพิษโควิด
วิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อทุกวงการ ล่าสุด เกริก ชิลเลอร์ นักแสดงชื่อดังลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวโดยยอมรับว่า โรคระบาดทำให้ร้านตัดผมที่ตนเองรักต้องปิดตัวลง และยังไม่มั่นใจว่าจะสามารถกลับมาเปิดได้อีกหรือไม่ "ก็ต้องดูสถานการณ์ก่อนครับ ว่าจะกลับมาเปิดได้หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้โควิดมันหนัก เราก็ต้องปิดไปก่อน"
ส่วนประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือลูกสาวทั้ง 3 คนที่ต้องเรียนออนไลน์อยู่ที่บ้านทำให้เกิดความเครียด แต่ขอให้ลูกเรียนรู้ที่จะปรับตัว
“ใช่ครับ บิวตี้ (อยู่ป.6) วินนี่ (ม.3) โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยรังสิต (SBS) เขาเรียนออนไลน์อยู่แต่ในห้อง 4 เหลี่ยมเขาก็เครียด เพราะบางวิชามันไม่สามารถเรียนผ่านคอมพิวเตอร์ได้ มันต้องลงไปปฏิบัติจริง ผมเองก็พยายามช่วยเตรียมอุปกรณ์ให้เขา อะไรเสียเราก็ต้องหาต้องซ่อมให้ ซึ่งมันก็เป็นภาระที่เพิ่มขึ้นของผู้ปกครอง แต่ก็พยายามสอนให้เขามองว่า เรายังดีบ้านเรายังมีพื้นที่ยังมีต้นไม้ ให้คิดถึงคนที่บ้านเขาไม่มีพื้นที่ เขาจะเครียดกว่าเราขนาดไหน”
ขณะที่เรื่องการฉีดวัคซีนให้เด็กก่อนไปโรงเรียน เกริก ชิลเลอร์ มองว่าต้องมีการเตรียมมาตรการที่ดีก่อนจะกลับไปโรงเรียนได้
"ผมเข้าใจว่าเด็กๆเบื่อที่จะเรียนออนไลน์ แต่ต้องยอมรับว่าหลายประเทศได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว ไม่ว่าวัคซีนยี่ห้อจะดีแค่ไหน สุดท้ายคนฉีดก็ยังติดกันเต็มไปหมด โควิดมันยังไม่หายไปครับ มันไม่ได้เกิดขึ้นจากประเทศไทย ถ้าจะกลับไปโรงเรียนรอบนี้ต้องมีการเตรียมมาตรการที่ดีพอ"
ด้านการศึกษาที่มอบให้ลูกทั้ง 3 คนเจ้าตัวเน้นย้ำไปที่ภาษาอังกฤษและจีนเป็นหลัก “คือผมยอมจ่ายแพงกว่าคนอื่นเพื่อให้ลูกเรียนที่ สาธิต ม.รังสิต หรือ SBS ก็เพราะอยากให้ลูกได้ภาษาอังกฤษ ซึ่งเอาจริงๆ ตอนนี้แค่ 2 ภาษามันคือพื้นฐานแล้ว ดังนั้นภาษาจีนเป็นเรื่องของอนาคต เราจำเป็นต้องเรียนแมนดารินเพิ่มเข้าไปเพื่อจะได้ค้าขายกับคนจีนได้"
ส่วนผลงานละครตอนนี้เจ้าตัวถ่ายไปแล้ว 3 เรื่อง ออนแอร์อยู่ขณะนี้คือ ปีศาจแสนกล ไทยทีวีสีช่อง 3 "ละครเป็นสิ่งที่ผมเลิกไม่ได้ เพราะทำมานานมาก ปีนี้ก็ได้กลับมาถ่ายทำอีกครั้ง ก็ขอให้แฟนคลับช่วยติดตามด้วยครับ"
