เนื้อหาในหมวด ข่าว

\

"ต่าย สายธาร" เปิดใจถึงอาการป่วยคุณแม่ เผยตนเองตรวจเจอเนื้องอกในมดลูก-เต้านม

อดีตนางเอกชื่อดังยุค 90 ต่าย สายธาร ที่ล่าสุดคุณแม่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เจ้าตัวตัดพ้อหนักมากกลับๆปเยี่ยมไม่ได้ เพราะว่าอยู่ในช่วงของสถานการณ์โควิดระบาด พร้อมเคลียร์ชัดหลังโดนจวกแรง สร้างภาพเป็นคนใจบุญ แต่ไม่กลับไปหาแม่ที่ป่วยหนัก แถมเคราหะห์ซ้ำ กรรมซัด ตัวเองตรวจพบเนื้องอกที่มดลูกและเต้านม อีกทั้งเจ้าตัวจะมาเปิดเผยเรื่องราวที่ไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อน ยอมรับแอบซุกลูกสาวมานาน 25 ปี ผ่านทางรายการ คุยแซ่บ Show ทางช่องวัน 31 ที่มี หนิง ปณิตา และ ธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ข่าวล่าสุดคุณแม่เป็นยังไงบ้าง?

ต่าย : Wที่คุยกับคุณหมอเมื่อวานก็คือว่าของคุณแม่เป็นมะเร็งที่ตับอ่อน ในระยะที่เรียกว่าลุกลาม ระยะ 4 คือ ระยะสุดท้าย ด้วยความที่ตอนนี้คุณแม่อายุ 80 ปีแล้ว แล้วยังมีโรคประจำตัว นั่นก็คือความดัน เบาหวาน แล้วก็มีโรคหัวใจเพิ่มเข้ามาอีก จริงๆ ตัวต่ายเองก็เพิ่งทราบว่าแม่เป็นมะเร็ง เพราะว่าผลเพิ่งออก คือก่อนหน้านั้นก็เหมือนคนแก่ที่เขามีโรคประจำตัวทั่วไป"

ตกใจไหมที่หลังจากรู้ว่าแม่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย?

ต่าย : "ตกใจมาก ช็อกมาก ด้วยความที่คุณพ่อก็เป็นมะเร็งที่ตับเหมือนกัน คุณพ่อก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับ พอเป็นคุณแม่ปุ๊บมันเร็วมากจนแบบมันตั้งตัวไม่ทัน"

เห็นว่าต่ายนอนไม่หลับเลยใช่ไหมตั้งแต่รู้ข่าว?

ต่าย : "เราเจอคนป่วย เราช่วยคนป่วยหรืออะไรอย่างนี้ คนที่เป็นโรคมะเร็งหรืออะไรที่ต่ายเคยเจอมาหมดแล้ว เราถูกฝึกสอนมาว่าเวลาที่เราช่วยเหลือใครก็แล้วแต่ พวกเขาทุกคน คนป่วยที่ต่ายเคยช่วยเขาคือคนในครอบครัวของเรา ทุกวันนี้พี่ต่ายก็ทำแบบนี้ แต่ในชีวิตจริง พอมันมาเจอแล้วมันคนละเรื่องเลย แม่คนอื่นเรายังคิดว่าเป็นแม่เราเลย แต่ทีนี้แม่เราจริงๆ แล้วต่ายมาอยู่กรุงเทพ เข้าวงการมาเราก็มาอยู่ของเราคนเดียว เราไม่ได้อยู่บ้านกับพ่อ แม่ อยู่แล้ว"

เห็นว่าตอนนี้เวลาโทรศัพท์มาคือกลัวมาก?

ต่าย : "กลัวขึ้นคำว่าโรงพยาบาลอะไรอย่างนี้ เพราะว่าในแต่ละวันที่รับโทรศัพท์มันไม่ได้มีเหมือนข่าวดีหรืออะไร แต่มันดีตรงที่ว่าเราจะถามคุณหมอตลอด ต้องกราบขอบพระคุณคุณหมอ แล้วก็ทีมแพทย์พยาบาลที่ดูแลแม่ดีมาก ต่ายเป็นกู้ชีพก็พอจะรู้ในเรื่องของสัญญาณชีพว่าแม่เป็นยังไง พอเราทราบว่าเป็นอย่างนี้ ต่ายกับหมอจะคุยกันเข้าใจ เพราะว่าต่ายก็ทำตรงนี้มา แต่มันเป็นตรงที่ว่าเป็นแม่เรานี่แหละก็เลยมันจุก เหมือนมีดปักอยู่กลางอก คืออาการของแม่มันเหมือนทุกๆ ลมหายใจของแม่มันก็คือทุกวินาทีของพี่ ลมหายใจของพี่ ของแม่ ได้แต่คอยว่าโทรศัพท์จะมาอีกไหม หรือจะโทรหาแม่ได้ตอนไหน เพราะว่าห้ามเยี่ยม เปิดกล้องก็ไม่ได้ นอกจากจะคุยผ่านทางคุณหมอแล้วก็ลูกสาว"

อาการที่ทรุดหนักของคุณแม่มันเริ่มตั้งแต่ตอนไหน?

ต่าย : "ครั้งแรกที่คุณแม่เข้าโรงพยาบาลรอบนี้นะก็คือว่าท่านเหนื่อยมากแล้ว เหมือนหายใจแล้วก็วันนั้นทางญาติเขาก็โทรมาประโยคแรกคือจะปั๊มไหม ต่ายเชื่อว่าถ้าทุกคนได้ยินคำนี้ทุกคนจะนึกภาพว่าแม่ต่ายนอนอยู่บนที่นอน เพื่อที่จะทำการ CPR ถูกไหม แต่ทีนี้ด้วยความที่เราได้ยินเราก็ตกใจเหมือนกัน ขนาดเป็นกู้ชีพนะ ปกติก็ปั๊มคนอื่นนะ แต่พอมาเป็นตัว้ราจริงๆ ตกใจมากทำอะไรไม่ถูก ปั๊มๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วตรงนั้นคือ ก่อนที่จะทำหัตถการคุณหมอต้องถามก่อน จริงๆ แล้วไม่ได้หมายความว่าแม่ต่ายนอนอยู่บนเตียง แล้วก็อยู่ ICU เพื่อที่กำลังจะปั๊ม ไม่ใช่ แต่หมายถึงว่าในกรณีที่ถ้าเกิดเคสที่เป็นผู้ป่วยมาแบบนี้ การทำ CPR หรืออะไรเขาจะโทรถามญาติก่อน แต่ ณ วันนั้นอาจจะด้วยความที่ญาติหรือลูกสาวตกใจ โทรมาอย่างนี้มันก็ทำให้หัวใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มแล้ว วันนั้นตกใจมาก บอกเลยว่าชาไปหมดนึกอะไรไม่ออกสักอย่าง จนค่อยๆ ได้คุยกับทางคุณหมอหรืออะไรเราถึงเข้าใจ"

ทราบข่าวว่าคุณแม่พี่ต่ายมีอาการไม่สบายตั้งแต่ 1-2 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเห็นว่านอนติดเตียงด้วย?

ต่าย : "ตอนนั้นยังไม่ติดเตียง แล้วก็เป็นความดัน เบาหวาน ข้อเข่า ก็เป็นมาสักพักนึง ทีนี้มามีโรคเพิ่มก็คือโรคหัวใจ"

มันเลยเป็นสาเหตุที่พอเจอมะเร็งทำให้ทรุดหนักเลย?

ต่าย : "มันหนัก เพราะว่าแม่อายุมากแล้วด้วย แล้วหลังจากแม่เป็นโรคหัวใจ แม่ก็ป่วยติดเตียง อันนี้ต้องขออธิบายนิดนึงนะคะ ไม่ใช่ว่าแม่ป่วยหนักมา 2 ปีแล้วไม่ได้ไปเยี่ยม ไม่ใช่ แม่เพิ่งมาติดเตียงประมาณ 6 เดือน ในช่วงโควิดหนักๆ"

เห็นว่ามีผู้ไม่หวังดีด้วยที่ส่งอะไรมาให้คุณแม่?

ต่าย : "ก็คือโรคหัวใจที่ได้เพิ่มมามันอาจจะมีคนที่ไม่หวังดีส่งอะไรไป แล้วทำให้คุณแม่ตกใจ ทำให้คุณแม่เป็นห่วงต่าย มันก็เลยทำให้แม่มีโรคหัวใจเพิ่มมาอีกโรค"

ต่ายจัดการกับความรู้สึกตรงนี้ยังไง?

ต่าย : "มันต้องเข้มแข็ง เราต้องดูแลคนอีกเยอะมาก ตัวพี่ต่ายนอกจากครอบครัวแล้วมันยังมีอีกหลายชีวิตที่พี่ต่ายต้องดูแลอยู่ บางทีบอกตัวเองเป็นสายธารต้องอดทน สิบล้อชนต้องไม่ตาย ก็พูดไปเล่นๆ แต่จริงๆ ตายตั้งแต่ข้างถนนแล้ว"

พี่จัดการกับคนไม่หวังดีแล้วส่งอย่างนี้ไปให้คุณแม่ตกใจไหม?

ต่าย : "ใช่ค่ะ มันอาจจะมีในเรื่องของคดีความ แต่ว่ามันก็เป็นส่วนนึงที่ทำให้แม่พี่ต่าย วันนั้นรถกู้ภัยต้องมารับคุณแม่ไปโรงพยาบาล แล้วแม่เป็นความดันสูงอยู่แล้ว พอช็อกมาก็เป็นโรคหัวใจ"

ต่ายได้เจอคุณแม่ล่าสุดเมื่อไหร่?

ต่าย : "2 ปีแล้ว คือในช่วง 2 ปี มันเป็นช่วงที่ถ่ายละคร แล้วก็โควิดช่วงนั้นแม่ไม่ได้ทรุด เราก็คุยกันปกติ ก็คือคุณแม่ป่วยตามวัย ตามโรคของคนแก่ ไม่ได้กลับบ้านเลย ด้วยสถานการณ์โควิด ด้วยตัวต่ายเองลงพื้นที่ด้วย แล้วต่ายเจอกับผู้ป่วยหรืออะไรตรงนี้ด้วย กับคุณแม่เราก็โทรคุยกัน วีดิโอคอลหากันปกติ เพียงแต่ว่าคุณแม่มาติดเตียงตอน 6 เดือน แล้วก็หลังจากแม่เข้าโรงพยาบาลครั้งนี้ก็ทรุดเลย"

ตอนนี้แม่คุยได้ไหม มีสติไหม?

ต่าย : "เมื่อวานต่ายโทรไป คุณหมอให้ลูกสาววีดิโอคอลกับคุณแม่ได้ ต่ายก็ตะโกนเรียกแม่ บอกลูกสาวว่าให้แม่กระพริบตา แกใส่ท่อช่วยหายใจอยู่ บวมอะไรหมดเลย แม่ก็มีแบบตอบรับกลับมา แต่ว่าเมื่อวานคุณหมอให้มอฟีน แล้วแม่ก็หลับ"

เห็นว่ามีอยู่ครั้งนึงท่านมีอาการว่าท่านอยากจะไปแล้ว แต่พี่ต่ายขอร้องคุณหมอว่าให้ยื้อไว้ก่อน จนกว่าพี่จะกลับไปได้?

ต่าย : "ต้องบอกก่อนคำว่ายื้อ คือต่ายกับหมอคุยกันว่า ณ ตอนนี้สมมติว่าคนที่เรากำลังจะ CPR มันต้องประเมินอะไรหลายอย่าง ถ้าเขาไม่ไหวแล้ว คือคุณหมอคนนึงบอกกับพี่ต่ายว่าบางครอบครัวเขาก็ไม่ยื้อ ไม่อะไรอย่างนี้ แต่ในมุมของพี่ต่ายก็คือ อันนี้ครอบครัวเรา สิ่งที่เราจะยื้อคุณแม่ต้องอธิบายให้เข้าใจก่อน การทำหัตถการไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ CPR หรือการใส่ท่อช่วยหายใจ หรืออะไรก็แล้วแต่ หรือจะต้องฉีดยากระตุ้นให้แม่ฟื้น"

"ต่ายแค่ถามคุณหมอว่าสัญญาณชีพของคุณแม่ตอนนี้เป็นยังไง ถ้าสัญญาณชีพยังดีอยู่หรืออะไร ยื้อให้ต่ายด้วย แต่ถ้าสัญญาณชีพแม่ไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ถามว่าแม่เจ็บไหม แม่พรุนไปหมดแล้ว ไม่เจ็บแล้ว เหมือนไม่ได้รู้สึกแล้ว แต่ถามว่าตอบสนองได้ไหม อย่างน้อยแม่ก็ยังรับรู้ในสิ่งที่ต่ายเรียกแม่ๆ ต่ายก็เลยบอกกับคุณหมอว่าถ้าหมอจะทำอะไร ส่วนนึงมันต้องอยู่ในดุลพินิจของคุณหมอด้วย ต่ายจะใช้คำพูดว่าให้คิดว่าเป็นแม่ของคุณหมอด้วยแล้วกัน เหมือนตอนพ่อก็พูดแบบนี้ เสร็จปุ๊บก็คือบอกว่าถ้าแม่ไม่ไหวแล้ว ไม่ต้องยื้อนะคะ แม่รอต่ายได้แค่ไหน แค่นั้น ไม่ใช่ว่าแม่ไม่ไหวแล้วพี่ต่ายจะต้องยื้อ มันไม่ใช่ มันไม่มีประโยชน์ เราอยู่กับผู้ป่วยเราจะรู้"

ตอนนี้สภาพจิตใจอ่อนแออยู่แล้ว แล้วเวลาที่เราไปเจอบางคอมเมนต์ที่เขาเหมือนมาต่อว่าเรา ต่ายรู้สึกยังไงบ้าง?

ต่าย : "มันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เรื่องของครอบครัว ความรู้สึกของแม่ แม่ก็อยากเจอลูก ลูกก็อยากเจอแม่ ตลอดระยะเวลาที่เข้าวงการมา พูดได้เลยว่าต่ายทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว กล้าพูดเลยว่าไม่เคยที่จะทิ้งพ่อ ทิ้งแม่ หรือว่าอะไร แล้วก็อย่างคอมเมนต์ต่างๆ ต่ายไม่ได้โกรธนะคะ อันนี้เรียนด้วยความเคารพ แต่ต่ายแค่อยากจะบอกคุณว่ามันมีหลากหลายร้อยล้านพันคำที่คุณสามารถเขียน กำลังใจมันให้กันไม่ยากเลยนะ ต่ายเป็นคนใจเขาใจเรา บางคำพูดเขาอาจจะเข้าใจว่าทำไมไม่ไปดูแลแม่เลย เรามองมุมอย่างนี้นะ เขาอาจจะหวังดีก็ได้ว่าทำไมไม่ไปดูแลแม่ แต่สิ่งที่ต่ายอยากจะออกมาพูดวันนี้ ต่ายไม่ได้จะบอกว่าฉันเป็นคนดีฉันกตัญญู ไม่ต้องเรารู้ว่าเราทำอะไร"

"แต่สิ่งที่คุณอาจจะเข้าใจผิดนั่นก็คือในเรื่องของโรคโควิด เพราะว่ามันมีเคสเกิดขึ้นมาแล้วว่าคนแก่คนนึงที่เขาป่วย เขาเป็นโรคอย่างอื่น ทีนี้มีน้องคนนึงกลับไปแล้วไปเยี่ยมคุณยาย ปรากฎว่าคุณยายติดโควิดจากน้อง คือต่ายประเมิน ต่ายเป็นกู้ชีพ ต่ายรู้ และทุกอย่างการที่เดินทางไป มันไม่ใช่ไปวันนี้ ณ ตอนนี้หรืออะไร ต่อให้ ณ วันนี้แม่ต่ายไม่อยู่แล้วหรืออะไรก็ตามแต่ คุณหมอห้ามเยี่ยม เพราะว่าในเรื่องของการติดเชื้อ แล้วเราอยู่ในพื้นที่สีแดง แล้วลูกต่ายก็อยู่ในพื้นที่สีแดง แล้วช่วงนั้นคลัสเตอร์เชียงใหม่หนักมาก เพราะฉะนั้นการที่เราจะไปมันต้องกักตัว ไม่มีประโยชน์ พี่ต่ายขอเอาเวลาที่กักตัว เอามาทำประโยชน์มาช่วยผู้ป่วยที่เป็นโควิดอยู่ตรงนี้ดีกว่า แล้วก็วีดิโอคอลกับแม่ เพราะว่าตอนนั้นแม่ก็ไม่ได้หนักแบบนี้ อย่าง ณ วันนี้ ถ่ายรายการเสร็จต่ายก็ต้องไปแจกของต่อ"



คอมเมนต์ที่เขียนมาค่อนข้างแรง สร้างภาพว่าใจบุญ แต่ไม่เคยไปดูแลแม่ตัวเอง น่าเกลียดมากนิสัยแบบนี้ พี่มีอะไรจะบอกกับคอมเมนต์เหล่านี้ไหม?

ต่าย : "จริงๆ เราไม่จำเป็นต้องมาอธิบายให้ใครรู้หมดทุกคนหรอก แต่ถ้าใครไม่มายืนอยู่ตรงจุดที่พี่ต่ายอยู่ก็คงไม่เข้าใจ ก็ปกติเวลามีข่าวไม่ค่อยได้อะไร ไม่สนใจอยู่แล้ว ใครจะเขียนอะไรก็แล้วแต่ ก็ต้องขอบคุณนะคะ คิดซะว่าเขาเป็นห่วง แต่อย่างนึงที่ต่ายอยากจะบอกก็คืออยากให้ทำความเข้าใจซะใหม่ว่าทำไมต่ายถึงไม่ไป ทุกอย่างมันมีขั้นตอนในการที่เราจะเดินทาง และในการเสี่ยงที่เราจะเอาเชื้อไปติดคุณแม่ อย่างสมมติว่าคนที่คอมเมนต์เรามีผู้ป่วยอยู่ที่บ้าน บางคนบอกว่าต่อให้มีโรคอะไรก็แล้วแต่ฉันจะไปหาแม่ฉัน"

"คือแทนที่แม่จะป่วยแค่โรคที่เป็นอยู่กลายเป็นว่าเอาโควิดไป จำไว้นะคะแม่ต่ายเป็นมะเร็ง แล้วแม่ต่ายจะเกิดอะไรขึ้นก็แล้วแต่ในวันนึงไม่มีคุณแม่ เรายังมีโอกาสได้ไปกราบแม่ ขอโทษนะคะ พูดตรงๆ ได้ไปงานศพ แต่ถ้าเป็นโควิดคุณจะมีโอกาสได้กราบแม่ไหม เพราะฉะนั้นตรงนี้ถ้าคุณเข้าใจในสิ่งที่ต่ายอธิบายแล้ว ต่ายเรียนด้วยความเคารพจากใจจริงๆ คุณอย่าไปเขียน ไปบอกคนอื่นแบบนี้ ก่อนที่คุณจะเขียนอะไรออกไปใจเขาใจเรา เพราะว่าความเข้มแข็ง อดทนของแต่ละคนไม่เท่ากัน คำพูดสำคัญ ต่ายบอกเลยว่าตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญเท่ากำลังใจแล้ว แล้วก็ต้องขอบคุณแฟนคลับและเพื่อนๆ ทุกคน จริงๆ น้ำหนักของกำลังใจมันเยอะมาก แต่มาตรงนี้มันบั่นทอนนิดนึง"

ต่ายมีแพลนจะไปเชียงใหม่ไหม?

ต่าย : "ไป คืนนี้ต่ายไปเพชรบูรณ์ไปช่วยน้ำท่วมเสร็จปุ๊ปพี่จะมาตรวจที่โรงพยาบาล ซึ่งจริงๆ แล้วคุณหมอนัดขูดมดลูก แต่อาจจะแค่ตรวจโควิดแล้วเอาผลไป เดินทางไปเลย ต่อให้ไปถึงปุ๊บก็ยังเยี่ยมคุณแม่ไม่ได้ หมอให้เยี่ยมได้วันที่ 21 คือถ้าเราไม่มีผลตรวจโควิดเราต้องกักตัว"

เมื่อกี้พี่ต่ายบอกว่าต้องไปขูดมดลูก?

ต่าย : "คือตัวต่ายเองเป็นคนไม่ค่อยเอาเรื่องไปบอกใครอยู่แล้ว คือเป็นคนดูแลตัวเองมาตลอด เจอเนื้องอก"

อันตรายไหม?

ต่าย : "ถ้าทิ้งไว้ก็คงไม่ดี เป็นเนื้อแบบใหญ่"

เนื้องอกในมดลูก แล้วมีที่เต้านมด้วยใช่ไหม?

ต่าย : "ตอนแรกเจอที่มดลูกก่อน แล้ว 2-3 วันนี้ไปเจอที่ใต้ราวนมอีก แต่ตรงนี้คุณหมอขอดูอีกที ทีนี้คุณหมอก็ถามว่าต่ายจะขูดมดลูกหรือว่าจะตัดทิ้ง เอาตรงๆ ก็กลัว มีความรู้สึกว่าเก็บไว้ก่อน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเก็บไว้ทำไม แฟนก็ไม่มี ก็เป็นผู้หญิงก็คิดว่าอยากมีลูก แต่ด้วยวัยอะไรอย่างนี้ เราอาจจะแค่หลอกตัวเองก็ได้อยากมีมดลูกไว้ก่อน คุณหมอก็บอกว่าไม่เป็นไรนะถ้าจะขูด ค่อยรักษากันต่อไป เพราะว่าต่ายมีเลือดจาง ค่าเลือดลบ 0 อย่างนี้ เราก็ไม่รู้นะถ้าเราไม่ไปเช็กร่างกาย เราไม่รู้เลยว่าตัวเราเป็นอะไร พอไปหาถึงรู้ว่าเป็นอย่างนี้ ความดันเรา 150-160 เลยเหรอ" 

เห็นว่าต่ายมีอาการมีเลือดออกเยอะ?

ต่าย : "เลือดออกเยอะ แล้วออกมาเป็นก้อนใหญ่มาก คือเราจะรู้เลยว่ามันผิดปกติแล้ว คุณแม่ก็ไม่รู้ ลูกสาวก็เพิ่งรู้ก็ไม่ได้บอกใคร"

การที่ต่ายเลือดออกเยอะ ต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยวันนึง 20-30 แผ่นเลย?

ต่าย : "แทบจะเหมาเซเว่น มันเยอะมาก อารมณ์เหมือนคนแท้งลูก"

ตอนที่เราทราบว่ามีเนื้องอกเรากลัวไหม?

ต่าย : "มันก็มีเผื่อไว้บ้างว่าจะกลายเป็นเนื้อร้าย กับตัวเองเอาตรงๆ ข้อเสียมันไม่นึกถึงตัวเอง แต่ตอนนี้ต้องกลับมาดูแลตัวเอง เพราะว่าถ้าเราดูแลตัวเองดีๆ เราจะได้มีโอกาสดูแลคนอื่นอีกหลายคน"

เห็นบอกว่าก้อนเนื้อ 20 ก้อนเลยเหรอ?

ต่าย : "มันเป็นก้อนใหญ่ เรียกว่าเป็นเนื้อร้าย เนื้องอก คุณหมอให้ดูคือใหญ่มาก เห็นแล้วแบบไม่อยากเห็น"

เขาบอกว่ารวมๆ กันหนัก 5 กิโลจริงเหรอ?

ต่าย : "ไม่แน่ใจ วันนั้นไม่ได้ถามเห็นแล้วก็หันหน้าหนี คุณหมอก็ถามว่าตัดมดลูก เราไม่กล้าตัด กลัว พอตรงนั้นเสร็จก็มาตรงนี้อีก ตรงนี้มันมาเจอเป็นเม็ดเล็กๆ ที่เต้านม คุณหมอกลัวเราจะเฟล เขาบอกว่าตรงนี้ยังไม่ต้องห่วง เอาตรงนี้ก่อน"

จากที่คุยกับคุณหมอเขาซีเรียสเรื่องเนื้องอกที่มดลูกและเต้านมไหม?

ต่าย : "ตรงท้องมากกว่า เป็นเนื้องอกที่มันใหญ่ เมื่อ 10 ปีที่แล้วเคยเป็นซีส คุณหมอให้รักษาด้วยการทานยาแล้วก็รักษาไป ตอนนั้นที่เป็นคือประจำเดือนไม่มาเลย แต่รอบนี้มันเกี่ยวกับวัยเราและฮอร์โมน บางคนก็บอกว่าตัดไปเลยถ้าไม่มีลูก ก็แอบหลอกตัวเองว่าไม่แน่อาจจะมีก็ได้นะ แต่เราก็มีลูกของเราอยู่แล้ว"

พี่ต่ายพูดตลอดว่ามีลูก?

ต่าย : "ก็มีลูก ตอนนี้น่าจะ 25 ปีแล้ว ชื่อน้องน้ำฝน นะคะ ก็เป็นลูกสาวที่เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก เป็นลูกสาวบุญธรรม เป็นลูกของพี่เลี้ยงที่เลี้ยงพี่ต่ายตั้งแต่เด็ก พี่ต่ายก็ขอเลี้ยงน้องตั้งแต่เขาอยู่ในท้องแล้ว จนเขารับปริญญา แม่พี่ก็เลี้ยงเขาต่อ จนทุกวันนี้ลูกสาวก็มาดูแลคุณแม่ต่าย"

พี่ต่ายรับเลี้ยงตั้งแต่พี่ต่ายอายุ 20 ปี?

ต่าย :  "เข้าวงการใหม่ๆ ไม่ถึง 20 ปี ตอนนั้นน้องเขาคุณแม่ยังอยู่ คุณแม่น้องเขามาเสียตอน 3 ขวบ เราก็รับปากแม่เขาว่าจะเลี้ยงน้องให้ดีที่สุด ไม่ต้องห่วง"

ต่ายอายุแค่สิบกว่าอะไรที่ทำให้เรารับเลี้ยงเด็กคนนี้?

ต่าย : "ด้วยความที่คุณแม่เขาไม่มีความพร้อมที่จะดูแล เราก็บอกไม่เป็นไร เราดูแลเอง เพราะว่าช่วงนั้นงานเรายังเยอะอยู่ แล้วเราก็บอกน้องเขาตลอดว่าเขาคือลูกของเรา เขาก็คิดว่าเราเป็นแม่"

เขามารู้ความจริงตอนอายุเท่าไหร่?

ต่าย : "ตอนที่ 3-5 ขวบ มีรายการรายการนึงไปขอถ่ายทำ ก็ให้พี่ต่ายมีอะไรในใจที่อยากจะบอกลูก เราก็บอกว่าแม่ต่ายไม่ได้คลอดหนูออกมานะ หนูคือลูกบุญธรรม ค่อยๆ อธิบาย ปรากฎว่าทีมงานเขาซ่อนกล้อง น้องเขาช็อก ก็ออนแอไม่ได้ ตอนนั้นเราก็วัยรุ่น มันยังไม่ถึงเวลาที่เราจะบอกเขาก็ได้ แต่ ณ วันนี้เราบอกเขาแล้ว แล้วเราถามเขาว่าเข้าใจคำว่าลูกบุญธรรมไหม ทุกวันนี้ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร รักเขาเหมือนลูก" 

ติดตามชมรายการคุยแซ่บ Show ทุกวันจันทร์-วันศุกร์  เวลา13.40-14.40 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

 

อัปเดตอาการ  \

อัปเดตอาการ "ต่าย สายธาร" หลังถูกส่ง รพ.ด่วน หายใจไม่ออก หมดสติ ชีพจรหยุดเต้นชั่วขณะ

ต่าย สายธาร ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน ภาวะหายใจไม่ออก อาเจียนหมดสติ ชีพจรหยุดเต้น ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว

ประวัติ อ๊อฟ อภิชาติ พัวพิมล ลูกชายสุดรักของแม่สีดา พัวพิมล อดีตหวานใจ ต่าย สายธาร

ประวัติ อ๊อฟ อภิชาติ พัวพิมล ลูกชายสุดรักของแม่สีดา พัวพิมล อดีตหวานใจ ต่าย สายธาร

ประวัติ อ๊อฟ อภิชาติ พัวพิมล นักแสดงผู้ล่วงลับ ลูกชายสุดรักของแม่สีดา อดีตคนรักของ ต่าย สายธาร