"ติ๊ก กัญญารัตน์" สวยไม่สร่าง น้ำหนักลด 10 กิโล ตอบชัดๆ! อยากกินก็กิน แค่ปริมาณพอเหมาะ
ทำเอาบรรดาแฟนคลับเซอร์ไพรส์กันน่าดู สำหรับภาพถ่ายเปิดโชว์หน้าท้อง ของอดีตนางเอกสาวชื่อดัง ติ๊ก-กัญญารัตน์ จิรรัชชกิจ ที่หันมาเอาจริงเอาจริงเรื่องการดูแลรูปร่างในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จนสามารถลดน้ำหนักได้มากถึง 10 กิโลกรัม
ซึ่งล่าสุดขณะที่ ติ๊ก กัญญารัตน์ เดินทางมาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัว ซีรีส์ You're My Sky จุดหมายคือท้องฟ้า เจ้าตัวก็ได้ถือโอกาสพูดถึงความตั้งใจในการลดน้ำหนักกับบรรดาสื่อมวลชน โดยเธอยอมรับว่าก่อนหน้านี้เธอเองเคยมีน้ำหนักตัวมากถึง 70 กิโลกรัม กันเลยทีเดียว
น้ำหนักลดลงไปเยอะไหม ?
“ประมาณเบ็ดเสร็จจากที่เคยออกหน้ากล้องตอนนั้น ก็ประมาณ 10 กิโล เกิดจากอะไรเหรอคะ อาจจะโควิด คือเรากินอาหารเบื่อ เพราะว่าเดิมๆ ซ้ำๆ อยู่บ้านทำกับข้าว ก็เบื่อที่ต้องทำ เลยกลายเป็นว่าบางมื้อทานบ้าง บางมื้อไม่ได้ทานบ้าง แต่ตอนช่วงที่ถ่ายทำเราต้องเดินทาง เวลาเดินทางมันจะเห็นอะไรน่าทานไปหมด ทุกที่เจ้าภาพเมืองต่างๆ เขาก็จะมาประเคนของต่างๆ ให้เรากิน จนเรารู้สึกว่าตอนที่เราขึ้นเราไม่รู้ตัวเลย เราคิดว่าเดี๋ยวขึ้น เดี๋ยวก็ลง วันนี้ขึ้น 1 กิโล เดี๋ยวก็ลง จนตอนที่ทำรายการที่เห็นว่าเดินทางไปญี่ปุ่นบ่อยๆ คือมันเอ็นจอยจนมันขึ้นมาจนรู้สึกว่าวันนี้มันขึ้นมาจนถึงขีดสุดแล้วเหรอ”
พีคสุดกี่กิโลกรัม พอจะบอกได้ไหม ?
“อายอ่ะ (หัวเราะ) ก็เลข 7 ค่ะ คือตอนแรกมันเคยอาทิตย์หนึ่งขึ้น 2 กิโล เรากิน 3 วัน เราลงมาได้เราก็เลยอุ่นใจไง มันก็แบบ 62 63 65 68 สักพัก 70 คราวนี้คือเครียดมาก เครียดจนมันแบบว่าไม่ไหวแล้ว เสื้อผ้าก็ปริ จนได้โควิดช่วย ค่อยๆ ลดและออกกำลังกายด้วย”
ตอนหนัก 70 ชีวิตเปลี่ยนไปแค่ไหน ?
“ก็รู้สึกว่ามันหาอะไรลำบากมาก เสื้อผ้า มันมีความรู้สึกว่าบางทีเราก็อยากใส่เสื้อครอปนะ มันก็รู้สึกว่ามันไม่ได้ ถามว่ามีคนทักไหม ไม่มี เพราะเป็นคนที่ทุกๆ คนจะชินกับความที่เรามีเนื้อมีหนัง คือเราเป็น เรียลไซส์บิวตี้ คือเป็นนางเอกคนหนึ่งที่เกิดมาที่ไม่ได้ผอม เพราะฉะนั้นคนก็เลยไม่ได้ชินภาพว่า ติ๊ก กัญญารัตน์ ผอมสุดโต่งที่เห็นกระดูก เพราะเป็นนางเอกที่เกิดมามีเนื้อมีหนัง เพราะฉะนั้นก็จะไม่แปลกตามาก แต่ตอนนี้ก็ลงไปนิดหน่อย แต่ก็แอบขึ้นมาอีกนิดหนึ่ง”
มีเป้าไหมว่าจะลงอีกสักเท่าไหร่ เพราะตอนนี้โควิดก็ยังอยู่ ?
“ก็พยายามที่จะเอาลงอีก เพราะมีความรู้สึกว่าอยากใส่กางเกงสวยๆ เพราะเดี๋ยวนี้เขามีเสื้อครอป เราอยากลองใส่เสื้อครอปบ้าง ก็ไม่แนวมาก เพราะเราก็มีอายุ แต่บางทีเราก็อยากไปไหนที่เป็นของยุคนี้บ้าง”
ณ วันนี้พอใจที่ลงมา 10 โลขนาดไหน ?
“ก็ยังไม่พอใจ เพราะก็ยังมีความท้วมบ้างในบางส่วน เพราะอย่างคุณแม่ยังบอกว่าขึ้นอีกแล้ว พอขึ้นอีกแล้ว ก็เครียดอีกแล้ว จะฟาสติ้งอีกไหม จะนอนแล้วก็จะแบบกินได้หรือยัง ถึงเวลาต้องนับเวลาค่ะ”
เครียดตลอดเลยไหม ?
“ไม่เครียด เป็นคนที่เกิดมาแล้วอยู่กับบอดี้แบบนี้ เพราะฉะนั้นไม่เคยเครียดกับเรื่องความอ้วน แต่ถ้าเราลดความอ้วนได้ ก็เป็นสิ่งที่เรามีความสุข สุขที่เราได้แต่งตัว และเป็นคนไม่เคยอดในการที่จะลดความอ้วน เพราะรู้สึกว่าเราอยู่กับสังคมแบบนี้ เราอยู่กับครอบครัวแบบนี้ อยู่กับเพื่อนฝูงแบบนี้ อยู่กับงานที่รองรับเราได้แบบนี้ เพราะฉะนั้นเราไม่ต้องเครียดกับการลดความอ้วน ไม่ต้องเป็นนางแบบ ไม่ต้องเป็นให้ได้อย่างใคร แค่เราเป็นคนดี เราก็มีความสุขแล้ว”
เราจะมีข้อจำกัดในการใช้ชีวิตมากขึ้นไหม การกิน ที่อาจจะต้องจำกัดมากขึ้น ?
“ไม่เลย เป็นคนที่กินแป้งปกติ ร้านชาที่ไหนเปิดก็ยังกินอยู่ ความหวานก็ยังเกือบร้อยอยู่ แต่เราก็ไม่ได้กินถี่ขนาดนั้น วันหนึ่งก็อาจจะแก้วหนึ่งบ้าง ครึ่งแก้วบ้าง ยังอยากชิมอยู่ ไม่ได้อด ก็กินแป้ง กินพิซซ่า ความที่กะเพาะเราชิน ตอนโควิดเรากินแค่ข้าวนิดหนึ่ง และเราก็ไปนั่งเล่นทำนั่นทำนี่ หากิจกรรมทำ ไปนั่งวาดรูป ไปเล่นสเก็ต เพราะฉะนั้นเราก็เพลินกับพวกนั้นไป”
เราได้ตรวจสุขภาพบ้างไหม ?
“ไม่เลยค่ะ ถามว่าเรื่องสุขภาพกลัวไหม กลัว แต่กลัวเรื่องโรคภัยไหมตอนอ้วน ไม่ (หัวเราะ) เพราะเป็นคนที่ตรวจเช็กร่างกายตลอด โชคดีเป็นคนที่ไขมันคอเรสเตอรอลไม่ถึงเกณฑ์ เพราะว่าเป็นคนไม่กินของมันอยู่แล้ว เป็นคนที่ทานมันแล้วมันจะพะอืดพะอม ทานหวานอย่างขนมหวาน เค้ก เบเกอร์รี่ไม่เคยครบชิ้น ไอติม 1 ลูกไม่เคยหมด เพราะเป็นคนที่หวานปรี๊ดมากก็ไม่ทาน แต่อ้วนนี่มาจากชานมไข่มุก”
ทุกวันนี้ก็คือ เรียลไซส์เฮลท์ตี้ ?
“ใช่ค่ะ ก็พยายามที่จะทำทุกอย่าง เรามีความสุขอะไรเราทำเถอะ เราอยากกินอะไรเรากิน แค่อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ ก็หมั่นตรวจเช็กร่างกาย อย่างติ๊กปริมาณน้ำตาลติ๊กก็ไม่ถึงเกณฑ์ เพราะฉะนั้นเรายังมีความสุขในการบริโภคอยู่ แต่เราก็ไม่ได้เสพ หรือกินที่ซ้ำๆ กันทุกวัน เคยไปถามคุณหมอว่าอยากลดความอ้วน คุณหมอตอบกลับกลับมาว่า โทษนะคะวัวควายกินอะไร เราก็งง ก็คือกินหญ้า หญ้าก็ไม่ได้ผัดน้ำมันหรืออะไร แต่อะไรก็แล้วแต่ที่เรากินในปริมาณเยอะๆ ซ้ำๆ เราสามารถอ้วนได้เสมอ เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นว่าอาหารจะผัดน้ำมันหรือไม่ผัดน้ำมัน ทุกอย่างกินได้ในปริมาณน้อย เพราะหญ้าก็ไม่มีอะไร แต่ทำไมเขาตัวใหญ่ได้ เพราะฉะนั้นอะไรที่มันเยอะ ซ้ำพวกนี้มันก็ไม่ดีต่อสุขภาพหมดเลย”
