"ดีเจเจ๊แหม่ม" เปิดหมดใจดราม่า ผอมร่างเปลี่ยน เคาะทุกตารางนิ้ว ทำอะไรกับ "หน้า" บ้าง?
เพราะห่างหายจากวงการบันเทิงไปพักใหญ่ จนหลายคนนึกว่า ดีเจเจ๊แหม่ม หรือ วินัย สุขแสวง ได้ตัดสินใจลาออกจากวงการบันเทิงไปแล้ว แต่ทว่าล่าสุดเจ้าตัวได้เดินทางมาร่วมรายการ Z Story Z Holiday ช่องอมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง 34 เพื่อพูดคุยกับสองพิธีกร ดีเจอ๋อง เขมรัชต์ และ ลิตา อินท์ชลิตา ในลุคใหม่ หน้าใหม่ ที่ดูเป๊ะปังยิ่งกว่าเก่า
อีกทั้งงานนี้ ดีเจเจ๊แหม่ม ยังได้ถือโอกาสเปิดใจแบบหมดเปลือกในทุกเรื่องราวและข้อสงสัยต่างๆ พร้อมกับเผยว่าตนเองนั้นได้ทำการสั่งเสียคนที่บ้านเรื่องทำพินัยกรรมไว้เรียบร้อยแล้วด้วย
กลับมาหลังห่างหายไปจากวงการบันเทิง ?
"ก่อนหน้านี้หายไปก็เป็นช่วงโควิดพอดี ตีไปว่าประมาณ 3 ปี เราหันไปทำยูทูบ ทำได้อยู่ไม่นานโควิดก็มา มันก็เลยพัง ต้องลอยแพทีมงาน ก่อนอื่นขอเท้าความว่า เราทำเป็นสตูดิโอจริงจังเลย เช่าพื้นที่บนตึกแห่งหนึ่ง ค่าเช่าก็เป็นแสน พอจ่ายค่าเช่าทำสัญญาไปเรียบร้อย จ้างคนมา เริ่มทำเดือนหนึ่งหลายตังค์มาก พอมาเจอโควิดยอมรับว่า แบกไม่ไหวจริงๆ เราถ่ายไปได้แค่ 2 เทปเอง เราก็เลยยกมือไหว้น้องๆ หยุดจนถึงปัจจุบันนี้ นี่คือครั้งแรกที่กลับมาสู่วงการหลังจากหายไป 3 ปี"
ยังรักงานในวงการบันเทิง ?
"ด้วยความที่เราเป็นดีเจมา 20-30 ปี เป็นพิธีกรมากว่า 10 ปี แน่นอนว่ารักมาก แต่พอมาเจอโควิด เรากลัว นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่เราไม่อยากมาเจอคนเยอะๆ แต่ขอคอนเฟิร์มว่า ที่หายไปไม่ใช่เพราะเบื่อวงการบันเทิง แต่เป็นเพราะกลัวโควิด"
สาเหตุผอมจนเหมือนคนป่วย จริงๆ แล้วป่วยหรือไม่ ?
"ป่วยค่ะ น้ำหนักลงไป 15 กิโล แต่จะบอกว่า ก่อนหน้านี้เราทำ if มาก่อน แต่ว่าเราตอนแรก 16 กับ 8 หรือกิน 8 อยู่ 16 พอกินไปกินมาเริ่มสนุก เปลื่ยนเป็น 23 ต่อ 1 ก็คือกินชั่วโมงเดียว เพราะว่าชั่วโมงหนึ่ง บุฟเฟ่ต์เลยต้องเอาให้คุ้ม เราก็ยัดเลย เพราะคิดว่า การกิน 1 ชั่วโมงคือ กินแบบพายุ กินทุกอย่างเพื่อที่จะลากไปอีกวันหนึ่งได้ เราก็กินชาบู ปิ้งย่าง กินไขมันอย่างเบค่อน กินสารพัด แล้วเรากินแบบนี้สะสมมา 2 ปี จนวันหนึ่งเราขับรถไปทำงานที่หัวหิน ขากลับทำไมเราหายใจไม่ออก มันหวิว เหมือนจะวูบ ทั้งๆที่เรานั่งขับรถเฉยๆ แต่เราเหมือนจะเป็นลม เราก็เอามือกดที่หน้าอก ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่า เราจะตายไหม พอถึงบ้านเรารีบโทรมาครอบครัวเลยว่าเราเป็นอะไรไม่รู้ แล้วเราก็ไปโรงพยาบาล ปรากฏว่า มีแต่ไขมันเลว คอเลสเตอรอลสูงทะลุเลย แต่อันอื่นปกติหมด มี 2 ตัวนี้ที่มาแรงสุด
คุณหมอก็เลยถามเราว่า มันมาจากอะไร เราก็เลยเล่าพฤติกรรมการกินของเราไป หมอบอกว่าต้องเปลื่ยนพฤติกรรมใหม่ วันรุ่งขึ้น ทิ้งทุกอย่างในบ้านหมดเลย น้ำมันพืช เนย ถั่ว ล้างออกให้หมดเลย อะไรที่อยู่ในบ้าน พฤติกรรมการกินเดิมๆ ทิ้งหมด แล้วเริ่มต้นใหม่ ข้าวขาวไม่กิน แป้งขัดสีไม่แตะ น้ำมันของทอดไม่แตะ เบอเกอรี่หรือขนม ไม่เอาเลย กินแต่ข้าวไรซ์เบอร์รี่ กินแต่ผักน้ำพริก ปลาต้ม ยิ่งกว่าคลีนอีก แล้วกินหมักมาก แต่ยิ่งกินหนัก ยิ่งผอม เพราะว่าระบบเผาผลาญเราดี ตอนนั้นก็ยังมีอาการอยู่ แต่ก็ดีขึ้น จนกระทั่งเราโทรหาทนายทำพินัยกรรมเลย แล้วก็โทรบอกที่บ้านว่า ถ้าเราเป็นอะไรขึ้นมา เราทำพินัยกรรมแล้วนะ ปรากฏว่าพอเราทำแบบนี้ไปสักพักหนึ่ง มันดีขึ้น เพราะเรากินแต่ของที่มีประโยชน์ จากเดิมที่ถึงแม้เราจะทำ if แต่เราดันไปกินแต่ของที่มีแต่ไขมัน มันก็คือไม่มีประโยชน์"
ข่าวออกมาว่าเราคลั่งผอม เป็นอย่างนั้นจริงหรือไม่ ?
"เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน รู้แต่ว่าตอนนี้เรากินทุกอย่างปกติ เพียงแต่ไม่กินของทอด หรือของที่ไม่มีประโยชน์ เพราะฉะนั้นของที่วางอยู่ตรงหน้า ถ้านั่งพิจารณาแล้วว่า อันนี้เป็นของไม่มีประโยชน์ เอาออกไปเลย เพราะสิ่งที่มันเครียดมากกว่าคือ เรากลัวตาย เราไม่ได้กลัวว่าเราไม่ได้กิน ขอยืนยันตรงนี้ว่า เรามีความสุขกับสุขภาพของเราตอนนี้มากๆ อาการที่เคยเป็น ก็ไม่มีอีกแล้ว ที่สำคัญคือ มันทำให้เรามีพฤติกรรมในการกินที่รู้จักเลือกมากขึ้น"
จริงหรือไม่ คลั่งศัลยกรรม ?
"จริงค่ะ ล่าสุดร้อยไหม เมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว หน้าตึงเลย กระดิกไม่ได้เลย ตอนนี้คือร้อยรัวๆ 8 เส้น ข้างละ 4 เส้น แต่ว่าเป็นก้างปลา มันจะรั้งเอาหน้าเราขึ้นไป แต่บางทีหมอก็ไม่ทำให้นะ แต่เราก็มีความอยาก หมอบอกว่า เราเพิ่งทำอันนี้ไป จะทำแบบนี้ต่อเลยมันไม่ได้ เราก็เลยขอให้ทำอย่างอื่นก็ได้ เปลื่ยนจุดไป"
จุดเริ่มต้นที่ทำให้เราอยากทำศัลยกรรม คืออะไร ?
"ต้องย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว ที่เรามีแฟนคนแรก ตอนนั้นดังสุดก็คือ การทำจมูก แฟนก็บอกว่า อย่าไปทำเลย เขาก็ห้ามเรา จนวันหนึ่งเขาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง มันก็ทำให้เราเห็นว่า ขนาดเขามีชีวิตมากๆ แต่อยู่ๆ เขาก็ไปเร็วมากเลย เรามองเห็นชีวิตที่จากเราไปอย่างรวดเร็ว เราก็รู้สึกว่าชีวิตมันสั้นมาก เพราะฉะนั้นเราจะรออะไร อะไรก็ตามที่มันเป็นความสุขของเรา ทำไมต้องให้คนอื่นมากำหนด เพราะคนกำหนดยังไปแล้วเลย เราก็เลยลุกขึ้นมาทำศัลยกรรม"
ทำศัลยกรรมอะไรมาแล้วบ้าง ?
"จมูก ดูดไขมันใต้ตา ปลูกผม อันนี้ทำ 8 รอบเลย ดูดไขมันโดยการใช้ความเย็นเป็นตัวฆ่าไขมัน รวมๆ แล้วที่ทำไปทั้งหมด เกิน 5 ล้าน ทำจมูกประมาณ 5-6 ครั้ง"
หมดกับศัลยกรรม 5 ล้าน แล้วหมดกับผู้ชาย กี่ล้าน ?
"คือเวลาที่เรารักใคร เราก็อยากจะให้ แต่มันให้ไม่ได้แปลว่าเราให้เขาอย่างเดียว คือเราให้เขา เราก็ได้ใช้ร่วมกันด้วย ให้ในความสัมพันธ์ ไม่ได้ใช้เงินซื้อให้ได้มาซึ่งความสัมพันธ์ มันเป็นความสุขระหว่างกัน สถานะตอนนี้ ไม่ได้มีคนคุย เพราะว่ามันยังมีของเดิมค้างคาอยู่ คือของเดิมมันเป็นผัวเมียกันอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าตอนนี้มันมีปัญหาชีวิต ทางครอบครัวของเขา เขาก็มีเรื่องราวในชีวิตของเขา เราก็ปล่อยให้เขาไปเคลียร์ และเราก็อยู่ของเราเหมือนเดิม แปลว่าเราไม่ได้มีใคร เพราะฉะนั้นถ้าถามว่า สถานะของเราคืออะไร เราก็จะตอบว่า ก็ยังเหมือนเดิม แล้วยิ่งเราแก่ขึ้น อายุเรามากขึ้น เราต้องยิ่งเข้าใจคนอื่นมากขึ้น"
ติดตามทุกประเด็นร้อน เพิ่มเติมความแซ่ด กับชื่อรายการใหม่ Z Story Z Holiday วันเวลาเปลี่ยน ชื่อเปลี่ยน แต่ยังคงคอนเซ็ปท์เม้าท์ให้ Z เหมือนเดิม ในรายการ Z Story Z Holiday ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.30 -11.00 น.(เทปใหม่ไม่รีรัน) ทางอมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง 34 หรือรับชมย้อนหลัง youtube : AMARINTV