เนื้อหาในหมวด ข่าว

ภาคประชาสังคมร้อง พม. หยุดคุกคามเด็ก กรณีเด็กกินแมคฯ แต่โดนจับกุม

ภาคประชาสังคมร้อง พม. หยุดคุกคามเด็ก กรณีเด็กกินแมคฯ แต่โดนจับกุม

วานนี้ (18 เมษายน 2565) เครือข่ายภาคประชาสังคมคุ้มครองเด็กและเยาวชน ประกอบด้วยองค์กรที่ทำงานเรื่องเด็กและเยาวชนในประเทศไทยจำนวน 8 องค์กร ได้รวมตัวกันยื่นหนังสือร้องเรียน โดยมีรายชื่อองค์กรสนับสนุนกว่า 100 องค์กร และประชาชนทั่วไปกว่า 800 คน ให้กับกรมกิจการเด็กและเยาวชน และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อร้องเรียนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่กระทรวงฯ ซึ่งได้อำนวยการให้มีการจับกุมตัวเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีจำนวน 3 คน ขณะกำลังนั่งทานอาหารอยู่ที่ร้านแมคโดนัลด์ สาขาอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา 

ภายในหนังสือคำร้อง มีใจความระบุว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่กระทรวงฯ เป็นการทำผิดหลักการและเจตนารมน์ของมาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 โดยเจ้าหน้าที่กระทรวงฯ ได้ใช้คำพูด ท่าทาง การแสดงออก และการกระทำในเชิงสัญลักษณ์เพื่อข่มขู่ คุกคาม และทำให้เด็กหวาดกลัว เช่นเดียวกับการเชิญตัวหรือใช้กำลังบังคับอุ้ม อันไม่ปรากฏหลักฐานความผิดหรือการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ ยังมีพฤติกรรมที่เป็นการกระทำบังคับข่มขู่ทางร่างกายและจิตใจต่อเด็ก ซึ่งการกระทำเหล่านี้นอกจากจะส่งผลทางตรงต่อสภาพจิตใจของเด็กแล้ว ยังอาจจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเด็กในระยะยาวได้อีกด้วย 

ยิ่งไปกว่านั้น การกระทำของเจ้าหน้าที่กระทรวงฯ ยังละเมิดหลักการอนุสัญญาสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติ ข้อที่ 12 และ ข้อที่ 15 และเนื่องจากประเทศไทยได้ลงนามรับรองในการประกันสิทธิการมีส่วนร่วมในการรวมกลุ่มและแสดงความคิดเห็นอย่างสันติ จึงมีผลผูกมัดให้เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องเคารพ ปฏิบัติตาม หรืออำนวยการให้การแสดงออกถึงสิทธิดังกล่าวของเด็กและเยาวชนเป็นไปได้อย่างปลอดภัย

ทั้งนี้ ยังมีข้อเรียกร้องให้กรมกิจการเด็กและเยาวชน ต้องยืนยันอำนาจสูงสุดในการคุ้มครองเด็ก รวมทั้งกระทรวง พม. หน่วยงานความมั่นคง และตำรวจที่เกี่ยวข้อง ต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างจริงจัง ในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาเด็กและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ เพื่อลดและป้องกันผลกระทบทางด้านจิตใจ 

การยื่นหนังสือในครั้งนี้ มีนางสาวอังคณา ใจกิจสุวรรณ รองปลัดกระทรวง และนางสาวอุไร เล็กน้อย ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นตัวแทนกรมกิจการเด็กและเยาวชน มารับหนังสือร้องเรียนดังกล่าว พร้อมกล่าวว่าจะรับเรื่องร้องเรียนไปดำเนินการต่อ และจะแจ้งให้ทางเครือข่ายฯ ทราบต่อไป และทางเครือข่ายฯ ก็จะติดตามตรวจสอบผลการดำเนินการของกรมกิจการเด็กและเยาวชน ในกรณีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ภายในระยะเวลา 3 เดือนหลังจากยื่นจดหมายฉบับนี้