เนื้อหาในหมวด การเงิน

ธุรกิจไทยในวันที่โลกเปลี่ยน ได้เวลาทรานฟอร์ม สู้พายุดิจิทัลดิสรัปชั่น

ธุรกิจไทยในวันที่โลกเปลี่ยน ได้เวลาทรานฟอร์ม สู้พายุดิจิทัลดิสรัปชั่น

วิกฤตโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้เกิดการดิสรัปทั่วทุกวงการ ไม่ว่าจะวงการธุรกิจ เทคโนโลยี หรือแม้แต่โลกการเงิน ก็เปลี่ยนแปลงเร็วจนตามแทบไม่ทัน  ใครที่ปรับตัวไม่ทันก็ล้มหายตายจากเป็นไปตามกฏของผู้ชนะ ที่ผู้เหลือรอดย่อมต้องแข็งแรงกว่า

เราจะเห็นว่าในช่วงหลังมานี้มีความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดและกำลังได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ ในวงการธุรกิจไทย นั่นก็คือ การควบรวมกิจการ ของบริษัทต่างๆ ซึ่งหนึ่งในเป้าหมายการควบรวมนั้น ก็เพื่อสร้างความแข็งแกร่งเพิ่มมูลค่าให้กิจการ ดึงดูดนักลงทุนจากตลาดต่างประเทศให้มาร่วมลงทุน และขยายตลาดให้กว้างขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต

อีกทั้งกระแสการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในโลกยุคโควิด-19 ก็เป็นตัวเร่งให้หลายธุรกิจต้องชิงดิสรัปตัวเองก่อนที่จะถูกคู่แข่งจะเข้ามาดิสปรัป

ตัวอย่างธุรกิจที่มีการควบรวมในบ้านเรา อย่างเช่น การควบรวมข้ามสายธุรกิจอย่าง GULF ที่เข้าไปถือหุ้นใน INTUCH  เพื่อลุยธุรกิจโทรคมนาคม หรืออย่างเมื่อไม่นานมานี้กับการควบรวมกิจการของธุรกิจสื่อสารเบอร์ต้น ๆ ระดับประเทศอย่าง TRUE และ DTAC 

เทรนการควบรวมขนานใหญ่ในโลกหลังยุคโควิด-19 คงจะมีมาให้เราเห็นตามมาอีกมาก เพราะอย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่าหากภาคธุรกิจไม่ปรับตัวให้ไว มองหาโอกาสในการทรานฟอร์มตัวเองออกจากธุรกิจเดิม ก็คงจะสู้กับคู่แข่งใน Red Ocean นี้ไม่ได้

 

ยิ่งในยุคปัจจุบันที่เปิดกว้างแบบการค้าเสรีไร้พรมแดน การที่ธุรกิจจะสู้อยู่แต่เฉพาะตลาดภายในประเทศ การกินส่วนแบ่งตลาดแบบเดิมๆนั้นอาจจะไม่เพียงพอต่อการเติบโตอีกต่อไป จึงต้องมีการทรานฟอร์มตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้น และปลดล็อคตัวเองเพื่อเปลี่ยนผ่านจากอุตสาหกรรมเก่าไปสู่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีใหม่ตามกระแสโลก เพื่อยกระดับความสามารถตัวเองไปเป็น Global Player เพื่อแข่งขันกับคู่แข่งระดับโลกได้

อันที่จริงประเทศไทยมีภาคเอกชนใหญ่ที่แข็งแกร่ง และมีความพร้อมด้านศักยภาพมากพอ ที่จะไปแข่งขันในระดับโลกได้อยู่หลายเจ้า ไม่ว่าจะเป็น ซีพี ปตท. เบียร์ช้าง เซ็นทรัล ฯลฯ  แต่ก็มีคนไทยบางกลุ่มกลัวความใหญ่นี้จะมายึดครองประเทศ ทั้งที่ภาพรวมเศรษฐกิจไทย ธุรกิจเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญในการสร้าง GDP จ่ายภาษีเข้าระบบให้กับประเทศอย่างถูกต้อง

 

นี่จึงกลายเป็นอีกหนึ่งอุปสรรคสำคัญที่ฉุดรั้งให้ประเทศไทยไม่หลุดพ้นจากวังวนประเทศกำลังพัฒนาเสียที เพราะเมื่อจะเกิดการขับเคลื่อนนโยบาย หรือริเริ่มเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นของภาครัฐ หรือภาคเอกชน ก็มักจะเจอ “นักค้าน” รวมถึงติดขัดกฏระเบียบนั่นนู่นนี่ไปเสียหมด โดยลืมมองว่า ในขณะที่ผู้เล่นในชาติถูกกีดกันไม่ให้เติบโต ธุรกิจข้ามชาติที่แอบคืบคลานเข้ามาหากินในประเทศไทยแบบเงียบๆ ไม่ว่าจะเป็น Google, Facebook, Line, YouTube, Netflix, Shopee, Lazada ฯลฯ ต่างดูดเงินคนไทยผ่านแพลตฟอร์มของตัวเองโดยใช้ทรัพยากรของบ้านเราแบบฟรี ๆ แต่เหตุใดถึงไม่มีใครรู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจอะไรเลย หากภาคธุรกิจไทย ไม่ทรานฟอร์มตัวเองสู่ธุรกิจอุตสาหกรรมใหม่ ๆ เพื่อแข่งขันให้ทัดเทียมกับผู้เล่นระดับโลกเหล่านี้ เห็นทีเราจะพลาดท่าให้กับบริษัทข้ามชาติเหล่านี้แน่นอน.

ส่องทรัพย์สิน นายกเบี้ยว กฤษฎา หลีนวรัตน์ เจ้าของวลีหญ้าหวาน รวยเนาะๆ

ส่องทรัพย์สิน นายกเบี้ยว กฤษฎา หลีนวรัตน์ เจ้าของวลีหญ้าหวาน รวยเนาะๆ

ส่องทรัพย์สิน นายกเบี้ยว กฤษฎา หลีนวรัตน์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญญบุรี เจ้าของวลี "หญ้าหวาน" รวยเนาะๆ

แนวโน้มราคาทอง 14 ก.ค. 68 Sideway Up

แนวโน้มราคาทอง 14 ก.ค. 68 Sideway Up

ทองพุ่งขึ้นขานรับภาษีทรัมป์รอบใหม่ แม้เงินดอลลาร์แข็งค่าขานรับงบประมาณเกินดุลสหรัฐฯ เวลา 10.00 น. จีนประกาศตัวเลขดุลการค้าเดือนมิ.ย. (พันล้านดอลลาร์) คาดทองคำ Sideway Up

YouTrip เผยอินไซต์ ค่าใช้จ่าย-ค่าเล่าเรียน เด็กไทยเรียนเมืองนอก เพิ่มขึ้นแตะปีละล้านบาท

YouTrip เผยอินไซต์ ค่าใช้จ่าย-ค่าเล่าเรียน เด็กไทยเรียนเมืองนอก เพิ่มขึ้นแตะปีละล้านบาท

YouTrip เปิดเผยยอดค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 70% พร้อมระบุนักเรียนไทยใน UK ใช้จ่ายสูงสุด แต่มีการปรับตัวทำอาหารทานเองรับมือค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น

เตือน \

เตือน "ทำบุญออนไลน์" ระวังตกเป็นเหยื่อกลโกงมิจฉาชีพ ช่วงวันสำคัญทางศาสนา

เตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อ กลโกงมิจฉาชีพ ช่วงวันสำคัญทางศาสนา “ทำบุญออนไลน์ เช็กให้ชัวร์ก่อนโอน” คาดเงินสะพัด ประมาณ 6,000-8,000 ล้านบาท