"ปอยฝ้าย มาลัยพร" ชีวิตจริงยิ่งกว่าลำยอง! เกือบตายมาแล้วเพราะ "ติดเหล้า"
เป็นอีกหนึ่งศิลปินตลกชื่อดังที่ออกมายอมรับแบบตรงไปตรงมาว่า จนเกือบเอาชีวิตไม่รอดเพราะพฤติกรรมการดื่มเหล้า สำหรับ ปอยฝ้าย มาลัยพร ถึงขนาดต้องตัดสินใจลาออกจากวงหมอลำเสียงอีสาน เพื่อทุ่มเวลาทั้งหมดให้กับการรักษาและบำบัดจนกระทั่งหายขาด!!
โดยล่าสุด ปอยฝ้าย มาลัยพร ได้มีโอกาสออกมาเปิดใจกับพิธีกรตัวแม่ หนูแหม่ม สุริวิภา กลางรายการ โต๊ะหนูแหม่ม ถึงชีวิตในช่วงเวลาดังกล่าวแบบจัดเต็มว่า...
ในอดีตเราติดเหล้าหนักขนาดไหน ?
ถ้าถามว่าติดขนาดไหน เอ่อ...ต้องเรียกว่าเป็นความผูกพัน ติดขนาดถึงขั้นพกพาเลยครับ คือถ้าถือขวดเหล้าไม่ได้ก็เปลี่ยนใส่เป็นขวดธรรมดาพกไปตลอด ตื่นเช้ามันสั่งให้ถอน ถ้าไม่ถอนมันก็ลืมตาขึ้นมาไม่ได้ พะอืดพะอมเหมือนคนจะอ้วกถ้าเราไม่ได้กิน เพราะฉะนั้นก็ต้องเติมเข้าไป พอเครื่องติดเราก็ต้องเติมทั้งวันอยู่กับต้นไม้พูดกับต้นไม้ไป"
ผูกพันตั้งแต่เมื่อไหร่ ?
เริ่มกินตั้งแต่อายุ 18 คนโบราณเขาบอกว่ามีงานแล้วค่อยกิน บังเอิญเสียงอีสานมีงานทุกวันผมก็เลยกินทุกวันผมก็ไม่ผิด (หัวเราะ) บนเวทีที่เราเห็นว่าเมาคือเมาจริง แต่ตอนนั้นเรายังวัยรุ่นอยู่ พอสะสมมาเป็นเวลา 10 ปีเราเพิ่งรู้ว่าเราติด ก็เลยต้องเริ่มรักษาเพราะมันไม่ใช่เรากินเพื่อความสนุก
รู้ได้ยังไงว่าติด ?
คือถ้าเราไม่ได้ถอนมันก็ไม่ได้ บางคนถ้ารู้สึกจะอ้วกเค้าไม่ยอมแตะเลยนะ เค้าจะยอมให้มันทรมานและค่อยๆ สร่างออกไป แต่ว่าปอยฝ้ายไม่ใช่อย่างนั้น เราจะมีพกติดตัวตลอดเพื่อเก็บไว้ถอนในวันถัดไป เหมือนมันสั่งให้เราต้องจัดระเบียบ
เลือกไหมว่าต้องเป็นเครื่องดื่มประเภทไหน ?
ทีแรกก็อยากเลือก แต่นาทีนั้นมันไม่มีให้เลือก แม้กระทั่งถ้าไม่มีจริงๆ เราก็ถึงขั้นไปค้นหายาธาตุน้ำแดง ที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ ฟาดทีก็ห้าหกขวด ซึ่งมันก็พอช่วยได้ช่วยผ่อนคลายขึ้นมานิดหนึ่ง
เคยอาการหนักถึงขั้นไหน ?
ผมจะกินข้าวไม่ค่อยได้ อย่างมากก็มะม่วงเปรี้ยวๆ และทีนี้มันกัดลำไส้ถึงขั้นอ้วกเป็นเลือดเลย ตอนนั้นก็รู้สึกขยาดตัวเองถึงขั้นกลัวตาย ก็บอกตัวเองให้เลิกกินอยู่เหมือนกัน แต่พอฟื้นตัวมามันก็กลับมากินเหมือนเดิมเป็นแบบนี้ทุกวัน เป็นแบบนี้อยู่ประมาณ 4-5 ปี
จุดไหนที่เปลี่ยนให้เราตัดสินใจเลิก ?
ที่เลิกหักดิบคือพอมันเริ่มเสียงาน จนตัดสินใจลาออกจากเสียงอีสานเอง เพื่อตั้งใจที่จะไปบำบัดรักษาตัว เพราะก่อนหน้านี้เราทำงานไม่จบบ้างร้องเพลงไม่จบบ้างวูบบ้างหลับบ้าง เลยตัดสินใจบอกแม่นกน้อยทอดถ้ายังอยู่แบบนี้สิ่งแวดล้อมเดิมๆ มันก็คงจะเป็นไปได้ยากก็เลยตัดสินใจลาออกจากวง
รักษายังไง ?
ตอนแรกไปวัดก่อนใช้วิธีเลิกเหล้าเข้าพรรษา แต่พอมันไม่ได้ผลก็เลยตัดสินใจเข้าไปบำบัดเลย ด้วยการใช้ยารักษาที่แรกเลยคือศรีมหาโพธิ์จังหวัดอุบล แต่พอดีขึ้นมาระยะหนึ่งก็หลุดอีก เลยมาได้รักษาที่ธัญลักษณ์รังสิต จนอาการดีขึ้น แต่พอหายขาดช่วงแรกก็มีไขว้เขวบ้าง บรรยากาศสนุกต่างๆ มันพาไป แต่เราก็คิดว่ามันสนุกได้แบบที่ไม่ต้องมีอะไรปนเปื้อน เหมือนเราสนุกจากอารมณ์ข้างในจริงๆ
ผันตัวเป็นนักธุรกิจขายน้ำปลาร้า ?
ต้องขอบคุณพี่น้องในวงการบันเทิง ที่เป็นแรงผลักดันเป็นไอดอลของเราให้ผุดธุรกิจน้ำปลาร้าขึ้นมา ต้องขอบคุณ “พี่ไมค์ ภิรมย์พร - พี่สุ สนารี” ที่ทำให้ศิลปินรุ่นน้องทุกคนมีแนวคิด
รวยแล้วยังจะเป็นนักแสดงอยู่ไหม ?
ยังแสดงอยู่ครับ ยังรับงานละคร ยังร้องเพลง รับงานคอนเสิร์ตเหมือนเดิม งานวัดงานประเพณีต่างๆ ก็ยังรับเหมือนเดิมซึ่งตอนนี้งานก็เริ่มกลับมาแล้ว ภาพยนตร์ ละคร ไลฟ์สดยังรับเหมือนเดิม เพราะรู้สึกเหมือนเราได้บำบัดได้ทักทายแฟนคลับของเรา ได้ถามไถ่ให้กำลังใจกันและกัน