5 วิธีกระชับความสัมพันธ์พ่อ-ลูกชาย ให้กล้าเปิดอกคุยกันได้ทุกเรื่อง
เชื่อว่าคุณพ่อส่วนใหญ่อาจไม่ค่อยได้เลี้ยงลูกเป็นหลัก หน้าที่เหล่านี้ล้วนเป็นของภรรยาตั้งแต่ลูกยังเป็นทารกจนพวกเขาเติบโตขึ้น อาจทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกดูห่างเหิน โดยเฉพาะลูกชายที่มักจะติดแม่มากกว่าพ่อ แต่กระนั้นหากคุณอยากให้พวกเขาสนิทและไว้ใจมากขึ้น โดยเฉพาะลูกชายในช่วงกำลังเข้าสู่วัยรุ่น ลองมาดู 5 วิธีช่วยกระชับความใกล้ชิดให้ลูกชายกล้าเปิดอกคุยกับคุณพ่อในทุก ๆ เรื่องได้มากขึ้นกันดีกว่าค่ะ
1.อัพเดตให้ตัวเองเป็นคุณพ่อทันสมัยอยู่เสมอ
แน่นอนว่าเจ้าลูกชายจะต้องเกิดในยุคที่โลกหมุนไว และคุณตามไม่ทัน เพราะฉะนั้นพยายามอัพเดตตัวเองให้ทันโลก โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่นิยมในช่วงวัยของลูก ซึ่งจะช่วยให้พูดภาษาเดียวกันได้ง่าย ลูกชายรู้สึกว่าคุยกับคุณแล้วสนุก และเข้าใจกันได้แบบไม่ต้องอธิบายเพิ่ม
2.ให้เวลากับลูกชายมากขึ้นกว่าเดิม
การเพิ่มความสนิทสนม คุณพ่อจำเป็นต้องจัดการเวลาของตัวเองให้ดี มีเวลาให้เขามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการชวนกันออกไปดูหนัง, เล่นกีฬา, หากิจกรรมตามประสาพ่อลูกทำด้วยกันในวันหยุด และไปชมการแสดงสำคัญที่โรงเรียนของเขาอย่าให้พลาดอย่างเด็ดขาด
3.รับฟังและเข้าใจ อย่าเพิ่งรีบตัดสิน
ฟังความคิดเห็นและความรู้สึกของลูกชายของคุณโดยตั้งใจ ไม่พยายามพูดตัดบทหรือตัดสินใจทันที โดยที่ไม่ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน การให้ความเข้าใจถึงมุมมองของเขาจะช่วยสร้างความรู้สึกว่าการคุยกับพ่อ ทำให้ลูกสบายใจ และค่อย ๆ เปิดอกคุยเรื่องที่ไม่กล้าคุยมาก่อนได้ง่ายขึ้น
4.สนับสนุนความชอบของลูกชายอย่างเต็มที่
สนใจและคอยช่วยเหลือสิ่งที่ลูกชายของคุณชอบอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นกีฬา การเรียนรู้หรืองานฝีมือใด ๆ ที่เขาชื่นชอบ การเสริมสร้างความสนใจเหล่านี้จะช่วยเสริมความรู้สึกว่าคุณคือคุณพ่อที่น่ารักในสายตาเขาอย่างมาก
5.วางตัวให้เป็นทั้งพ่อและเพื่อนสนิทของเขา
พยายามที่จะเป็นเพื่อนสนิท ทำตัวให้เหมือนเด็กหนุ่มในช่วงวัยเขา ด้วยการพูดคุย และชวนกันทำในสิ่งที่เขาอาจอยากลอง โดยอยู่ในสายตาคุณเพื่อคอยเตือนสติและระมัดระวัง ให้ความสนใจความคิดเห็นของลูกชายของคุณ และวางตัวให้เข้าหาได้ง่าย ไม่ทำให้เด็กรู้สึกกดดัน หรือกลัวว่าคุณจะไม่รับฟังสิ่งที่เขาพูด
การสร้างความสนิทระหว่างพ่อกับลูกชายไม่ใช่เรื่องง่ายแต่บอกเลยว่าหากทำได้ จะเป็นความคุ้มค่าอย่างยิ่งเลยทีเดียว เมื่อคุณสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งและสนิทกันอย่างเต็มที่แล้ว จะเป็นผลที่ดีต่อทั้งครอบครัวของคุณ ให้ลูกชายเติบโตเป็นคนที่ดีในอนาคตตามมานั่นเองค่ะ