"ชมพู่ อารยา" เปิดใจครั้งแรก? ถูกโยงข่าว สามีมีบ้านเล็ก ถ้าพูดว่าไม่รู้สึกคงโกหก
ออกมาเคลียร์ให้ฟังจากปากกันชัดๆ ไปเลยทีเดียว สำหรับคุณแม่ซุปตาร์ ชมพู่ อารยา หลังถูกพุ่งเป้าข่าวลือว่าเป็นนางเอกที่สามีมีบ้านเล็ก จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ตามมาอีกมากมาย
ล่าสุด ชมพู่ อารยา ได้เดินทางมาร่วมงาน House of Hyaluron จึงถือโอกาสพูดถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น พร้อมเผยถึงเรื่องที่สามีหนุ่ม น็อต วิศรุต ทำพินัยกรรมยกสมบัติพันล้านให้เธอเพียงผู้เดียว...
ถามถึงกระแสข่าวลือที่ถูกโยงว่าสามีมีบ้านเล็กบ้านน้อย ?
"ก็มันไม่ใช่แล้วไง ก็...ฟิ้ว... หายไปแล้ว"
พอได้ทราบข่าว เรารู้สึกยังไงบ้าง ?
"เอาจริงๆ ชมว่าไม่มีใครชอบให้มาแตะครอบครัวหรอก ถูกไหมคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราก็เป็นคนที่เรียกว่ากับสถาบันครอบครัวเนี่ย เราก็ให้คุณค่าเนอะ เป็นอะไรที่มันเป็นอันดับ 1 สำหรับเราอะ คงไม่ได้ถึงกับว่า จ้า อะไรก็ได้ คงไม่ได้ขนาดนั้น ชมเชื่อว่าถ้าเกิดขึ้นกับครอบครัวใคร ก็คงไม่ชอบหรอก"
มีโอกาสได้คุยกับ พี่น็อต ถึงเรื่องนี้บ้างไหม ?
"อ๋อ คุยค่ะ ก็มีคุย แต่ไม่ได้คุยในเชิงลักษณะว่า มันเป็นใคร ทำไมเป็นแบบนี้ (ขึ้นเสียงสูง) ไม่ใช่ แต่เราคุยว่า มันเป็นแบบนี้ ใครทำอะไรเรา เป็นในเวนั้นมากกว่าค่ะ"
แปลกใจไหมว่าทำไมเขาถึงโยงมาที่ครอบครัวเราได้ ?
"จะใช้คำว่าแปลกใจเหรอ ขอใช้คำว่าผิดหวังมากกว่าค่ะ เพราะเรารู้สึกว่าเราก็อยู่ของเรา โดยที่เราไม่เคยรังแกใคร"
ข่าวก็โยงไปถึง แทน ธนัชชา น้องที่ทำงาน พี่น็อต ได้คุยกับน้องบ้างไหม ?
"ชมไม่ได้คุยค่ะ เพราะไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นจุดที่จะต้องไปเคลียร์หรืออะไร เพราะเรารู้ตรรกะ รู้เหตุผลของมันอยู่แล้วว่าอะไรมันเป็นอะไร มันเลยไม่ต้องคุยกันอะ ถ้าจะบอกว่าเดือดร้อน ก็คงต้องเดือดร้อนกันทุกคน เดือดร้อนกันทุกฝ่าย ก็อยู่กับเรื่องของตัวเองกันไป"
ข่าวเกิดขึ้นตอนเราอยู่ต่างประเทศด้วย กระทบความรู้สึกในการทำงานไหม ?
"จริงๆ ชมกลับมาตั้งนานแล้วค่ะ ชมไม่ได้ไปนาน แต่รูปยังไม่หมดนะ"
พี่น็อต ในฐานะหัวหน้าครอบครัว เขาเสียใจกับข่าวที่เกิดขึ้นมากขนาดไหน ?
"เขาก็บอกว่า เขารู้ว่าความรู้สึกเราคืออะไร อย่างแรกเลยที่โฟกัสคือความรู้สึกเรา และแล้วแต่เราว่าอยากจะยังไง"
กับข่าวนี้ เราลอยตัวเหนือดราม่า หรือไม่อยากปล่อยให้เรื่องมันผ่านไป ?
"อย่างที่บอกค่ะ ถ้าชมจะบอกว่าชมไม่รู้สึกอะไรเลย ชมคงโกหกอะ ต้องแบ่งออกเป็น 2 กรณีนะ ข้อ 1. คือพอมันมีข่าวใช่ไหมคะ ก็จะมีความเข้าใจของสังคม คนที่มองเข้ามา ซึ่งตรงนี้ชมรู้อยู่แล้วว่ามันห้ามอะไรใครไม่ได้ ใครจะคิดอะไร มองยังไง คือชมไม่สามารถทำให้ทุกคนมองเห็น หรือคิดอย่างที่เราอยากให้คิด เหมือนกันหมดทั้งประเทศ มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ซึ่งเราอยู่วงการมา เรารู้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็คงต้องปล่อย ไม่รู้จะไปดีลกับมันทำไม แต่อีกจุดที่ว่า เราอยู่ของเราดีๆ ทำไมเกิดขึ้นกับเรา"
อยากหาต้นตอไหม ว่ามาจากไหน ?
"คือชมไม่ต้องตามหา ก็มีคนบอกอยู่แล้วไหม"
เราบอกกับลูกๆ ยังไง ถ้าเห็นข่าว ?
"คือเด็กก็ยังเด็กมากค่ะ ยังไม่รู้เรื่องอะไร"
อีกมุม ก็มีคนซัพพอร์ตเราเยอะมาก ?
"ใช่ค่ะ ก็ต้องขอบคุณทุกๆ คนค่ะที่รักครอบครัวเราด้วย ต้องบอกว่าตรงนี้คือซาบซึ้งจริงๆ"
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พี่น็อต ทำให้เรามั่นใจในความเป็นสามี พ่อของลูก และหัวหน้าครอบครัว มากแค่ไหน ?
"จะบอกว่า อย่าลืมดูรายการสามแซ่บ วันอาทิตย์นี้ (หัวเราะ) คือชมจะบอกว่า ถ้าให้พูดก็จะเหมือนเราโอบผู้ชายอะ แปลไทยเป็นไทย มันจะเหมือนเรามาออกตัวแทนเขา ไม่รู้สึกว่าเราจะต้องมาอธิบายว่า เขาเป็นคนแบบนี้ๆ นะ ไม่ทำเรื่องแบบนี้หรอกแก เข้าใจไหม ในขณะเดียวกัน คุณน็อต เอง เขาก็บอกว่า เขาไม่ได้สนใจว่าใครจะมองเขา คิดว่าเราไม่ได้มีหน้าที่ที่จะต้องมาอธิบายว่า เราเป็นอย่างนั้นอย่างนี้นะ"
"แต่ถ้าถามว่าอะไรที่ทำให้เรามั่นใจ เพราะเรารู้จัก และเราก็รู้ว่าเรามีโฟกัสอะไร เรามีความฝัน เรามีภาพบางอย่างร่วมกัน ซึ่งมันไม่ควรที่จะต้องมาถูกทำลายด้วยเรื่องแบบนี้ เพราะเรามีภาพใหญ่ มีจุดมุ่งหมายบางอย่างที่เราอยากจะไปด้วยกัน และเราก็ต่างคนต่างทำในพาร์ทของเราอยู่ค่ะ"
ผู้ชายมีครอบครัวมักจะดูมีเสน่ห์เพิ่มขึ้น เคยมีเหตุการณ์แนวนี้เข้าหูบ้างไหม ?
"ก็ไม่เคยนะ ที่ผ่านมาก็ไม่รู้ และไม่เคยโฟกัสด้วย หรือจะต้องมานั่งจับผิดว่า คนนี้มองเขา หรือคนนี้จะแท็กมา หรือคนนี้ดูหิว อะไรแบบนี้ คือเราไม่ได้ไปโฟกัสตรงนั้นค่ะ"
อาจจะเพราะว่า พี่น็อต หล่อขึ้น และดูฮอตมาก คนเลยจับตาเยอะขึ้น ?
"อื้ม... ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ คือเราห้ามความคิดคนไม่ได้ อยากจะคิดอะไร เอาที่สบายใจเลย แม้แต่วันนี้ คนดูสัมภาษณ์นี้จบ จะคิดอะไรต่อ ชมก็ห้ามความคิดใครไม่ได้"
ข่าวที่เกิดขึ้น ทำให้ความเชื่อใจเราลดลงไหม ?
"ไม่นะ ชมกลับรู้สึกว่ามันยิ่งทำให้เราได้ยิ่งกลับมามองเป้าหมายที่เหมือนกัน ได้จับมือกันแน่นขึ้นด้วยซ้ำ"
อีกข่าวที่ฮือฮาไม่แพ้กันคือ พี่น็อต เซ็นพินัยกรรม ยกมรดกหมื่นล้าน ให้เรา ?
"จริงๆ คือมันเป็นเรื่องที่เราคุยกันมาตลอดอยู่แล้ว อาจจะเป็นเพราะว่าเราผ่านการสูญเสียมา เราก็อยู่กันมานาน ตั้งแต่ คุณน็อต กลับมาใหม่ๆ ทำธุรกิจของที่บ้าน จนเริ่มทำของตัวเอง คือเราฟังความฝัน ฟังแผนการทุกอย่างของเขามาตลอด เราค่อนข้างจะคุยกันเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติว่า ถ้าเกิดวันหนึ่งใครไม่อยู่ ลูกจะยังไง ทรัพย์สมบัติจะดูแลกันยังไง ถ้าพี่เป็นอะไรไป ธุรกิจถ้าดูไม่ไหว ให้จัดการยังไง อะไรแบบนี้ คือเราคุยและอัปเดตกันตลอดเวลาอยู่แล้วค่ะ"
พี่น็อต เซ็นให้จริงๆ ใช่ไหม ยกมรดกทั้งหมดให้ ชมพู่ อารยา แต่เพียงผู้เดียว ?
"แม่เขินเหมือนกัน (หัวเราะ) ประมาณนั้นค่ะ เขาไว้ใจเรามากกว่า เพราะเขาคงเห็นว่าถ้าใครคนใดคนหนึ่งไม่อยู่ คนที่เหลือก็ต้องดูแลลูก"
ถามอีกเรื่อง กระแสข่าว ดิว อริสรา ในฐานะพี่ใหญ่ของบ้าน เป็นห่วงแค่ไหน ?
"ก็ห่วงนะคะ ก็รู้จากข่าวค่ะ ไม่อยากคอมเมนต์มากเลยอะ เอาเป็นว่าเป็นกำลังใจให้เขาแล้วกัน เรายังไม่ได้คุยกันเลยค่ะ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันก็ล้วนเป็นบาดแผล เป็นประสบการณ์ที่ไม่ดีทั้งนั้นแหละ เราก็มีลูกสาวด้วยใช่ไหมคะ"