"บอล อัศนัย" ควงหวานใจ "ลูกเกด ดรัล" เปิดตัว เผยเคยป่วยโรคแพ้ภูมิตัวเอง จนเดินไม่ได้!
นักแสดงและพิธีกรมากความสามารถ บอล อัศนัย ที่วันนี้ควงแฟนสาว ลูกเกด ดรัล มาเปิดตัวที่แรก พร้อมเผยเส้นทางความความรัก 6 ปีที่ยอมรับว่าปรับตัวกันหนักมาก มีรักๆ เลิกๆ กันตลอด อีกทั้งเคลียร์ประเด็นพระเอกเรื่องเยอะไม่รับงานนาน 2 ปี และเปิดใจเคยป่วยหนักเป็นโรค SLE หรือโรคพุ่มพวง เกือบเดินไม่ได้ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มีหนิง ปณิตา และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
คบกันมานานเท่าไหร่แล้ว?
บอล : 6 ปีครับ
ทำไมไม่ค่อยเอาแฟนออกสื่อ?
บอล : เป็นคนชอบใช้ชีวิตอยู่เงียบๆ ครับไม่หวือหวา คุยกันว่าเรารักกันไม่จำเป็นต้องโพสต์ให้คนทั้งโลกรู้ ส่วนตัวเราเราไม่ได้ชอบอะไรที่มันหวือหวาแบบนั้น แต่ว่าก็มีโพสต์รูปลงเวลาไปเที่ยวหรือไปทำอะไรพิเศษก็โพสต์ครับผม แต่ไม่ใช่โพสต์ทุกวัน
คุณลูกเกดโอเคไหมที่เขาโพสต์น้อย?
ลูกเกด : เมื่อก่อนก็รู้สึกแปลกๆ มากกว่า เราก็เพิ่งรู้จักกัน ยังไม่ได้ทราบเรื่องไลฟ์สไตล์ขนาดนั้น ใหม่ๆ ก็แปลกๆ จนตอนนี้เขาก็แบบไม่ลงเหรอ ลงบ้างสิ
มีความรู้สึกไหมที่เขาไม่ลงรูปเขาปิดบังอะไรหรือเปล่า ช่วงแรกๆ ที่คบกัน?
ลูกเกด : ไม่ค่ะ แต่รู้ว่าพี่บอลเขาเป็นคนมีสเปซ มีโลกส่วนตัว แล้วมีความคิดของเขา เราก็รู้สึกเคารพในการตัดสินใจการใช้ชีวิตของเขา
บอล : มันมีเหตุผลแบบนี้ เราเห็นในโลกโซเชียลที่บางคนเวลารักกันก็โพสต์ แต่พอเวลาเลิกกันมาโพสต์แบบสาดสีใส่กัน รักกันก็ให้โลกรู้ ทะเลาะกันก็ให้โลกรู้ เรารู้สึกว่าไม่อยากเป็นอย่างนั้น ดังนั้นไม่ว่าเราจะมีปัญหาอะไร มันก็เป็นเรื่องของคนสองคนไม่จำเป็นต้องให้ใครรู้
คู่นี้เขาเจอกันในกองถ่ายละคร?
บอล : เรื่องรักออกอากาศ
ไปปิ้งกันยังไง?
บอล : ตอนนั้นยังไม่ได้ปิ้งเลย ตอนนั้นทำงานด้วยกัน ปี54
ลูกเกด : ตอนนั้นเราทำงานด้วยกันไม่มีอะไรเลย
บอล : หลังจากนั้นอีกสัก 3-4 ปีมั้ง น้องไปทำธุรกิจเกี่ยวกับเสริมความงาม แล้วเขาก็
ลูกเกด : ขอให้พี่บอลมาช่วย พีอาร์ ให้ ตอนเปิดคลินิกเขาก็มาช่วยเป็นพี่ในวงการ ลูกเกดเองมองพี่บอลเป็นรุ่นพี่ในวงการ เราก็มีพี่ๆ น้องๆ ในวงการเยอะอยู่แล้ว มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน
บอล : แต่ก่อนหน้านั้นก็มีคุยเรื่องหมา เรื่องแมวกัน เพราะชอบเลี้ยงหมา เลี้ยงแมวเหมือนกัน
ลูกเกด : ตอนนั้นพี่บอลชวนไปทำบุญวันเกิด
บอล : คือผมเป็นคนจีบเขาเอง ตอนเขาชวนไปทำหน้าเพื่อโปรโมทคลินิก เราก็ไปทำ ตอนแรกคิดว่าเสียเงิน แต่เขาบอกพี่บอลไม่ต้องเสียเงิน มาแล้วถ่ายรูปให้หน่อย เราก็เลยชวนกินข้าวแล้วกัน ตอนนั้นยังไม่ได้ชอบ แต่แบบพอชวนกินข้าวเสร็จ ดูหนัง หลังจากนั้นก็ชวนไปทำบุญวันเกิดที่บ้านพักคนชรา
ลูกเกด : เราไม่ได้คิดอะไร ใครชวนทำบุญเราก็ไป เรามองเขาเป็นพี่ รู้สึกว่าเขาชวนพี่ๆ น้องๆ คนอื่นไปด้วย
วันนั้นมีใครไปบ้าง?
บอล : เขาคนเดียว
ลูกเกด : หนูก็งงๆ เหมือนกัน มีหนูคนเดียวเลยเหรอ
เริ่มจีบคุณลูกเกดตอนไหน?
บอล : หลังดูหนังเสร็จก็เอ๊ะ...คุยถูกคอ นิสัยดี น่ารัก ตอนนั้นทีมงานมาบรีฟก่อนว่า ลูกเกด ใช่สเปคหนือเปล่า เราก็บอกตั้งแต่แรกเลยว่าจริงๆ ลูกเกดไม่ใช่สเปคผม ถ้าถามสเปคผม ผมจะชอบผู้หญิงขาวๆ หมวยๆ ผมก็ไม่ใช่สเปคเขาเขาชอบสายฝรั่ง แต่พอคุยกัน น่ารักดี แต่สิ่งที่เห็น เขาสวย เซ็กซี่ เราก็โสดไม่มีใครก็จีบ
คุณเจ้าชู้อยู่นะ ทำไมมาจบที่คนนี้?
บอล : ตอนนั้นมันเป็นด้วยเรื่องของวัย ตามเพื่อนในกลุ่ม และด้วยคาแรคเตอร์เราเป็นอย่างนี้คนจะคิดว่าเราเจ้าชู้ แต่จริงๆ ผมไม่ได้เจ้าชู้นะ ผมคบทีละคน
ลูกเกด : ตอนที่ทำงานด้วยกันในกองก็ไม่ค่อยได้คุยเรื่องส่วนตัว เราไม่ทราบว่าเขาเป็นยังไง แต่เท่าที่ทราบมาก็มีได้ยินมาบ้าง แต่ก็ไม่ทราบว่าเขาเจ้าชู้ขนาดไหน
คุณมีปัญหาเรื่องหึงหวงกันไหม ใครขี้หึงกว่ากัน?
บอล : ช่วงแรกเป็นเขา แต่ช่วงหลังจะเป็นผม คือมันทั้งหึงทั้งหวง แล้วก็ห่วงด้วย ช่วงโควิดเราห่างกันพักนึง เราไม่ได้คุยกัน พอตอนนี้กลับมา มันไม่รู้ความเป็นไป มันเลยหวงเขาในเรื่องของการแต่งตัว เขาสวยมาก มีคนเข้ามาหาเขาเราก็หึง ผมว่ามันก็ตามปกติ
หึงขั้นทะเลาะไหม?
บอล : มันก็ต้องมีบ้าง คือถ้าไม่รู้สึกก็ไม่ทะเลาะไง แต่นี้มันก็หึง
คู่นี้เกือบมีการเลิกกันเกิดขึ้น?
บอล : ใช่ครับ เลิกกันเป็นช่วงโควิดปี64 มันเกิดจากบางทีเราทะเลาะกันด้วยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แล้วจากห่างกันด้วยเพราะว่าลูกเกดบ้านเขาเป็นครอบครัวใหญ่
ลูกเกด : เกดอยู่กับครอบครัวคุณแม่ คุณตา คุณยาย ตอนที่โควิดระบาดช่วงแรกลูกเกดแพนิคมาก แล้วทั้งบ้านค่อนข้างเป็นกังวล เรากลัวทุกคนติด เราเป็นห่วงเขา เราไม่อยากเจอใครเลย แม้กระทั่งพี่บอลเอง ตอนนั้นพี่บอลก็ซ้อมมวยเราก็บอกว่าพี่บอลเกดกลัว ถ้าติดเราไม่อยากเดือดร้อนคนอื่น มันเลยเป็นความเข้าใจที่ไม่ตรงกันมากกว่า
บอล : มันมีการทะเลาะแบบไม่ได้เจอกัน แล้วพอทะเลาะแล้วต่างคนเริ่มงอน พองอนกันเสร็จเริ่มไม่อยากพูดคุยกัน แล้วพอไม่ได้เจอกัน ด้วยการล็อคดาวน์ด้วย มันก็ห่างกัน ปกติถ้าทะเลาะแล้วได้คุย ได้เคลียร์กัน มันจะหาย แต่พอไม่ได้คุยได้เคลียร์กัน บางทีฟังแค่เสียง เราไม่เห็นหน้ากลายเป็นขึ้นไปอีก เหมือนจากเรื่องเล็กๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่ ก็เลยเว้นช่วง เขาบอกว่าพี่บอลถ้าเป็นอย่างนี้ เขาก็เหนื่อยที่จะทะเลาะ เพราะเขาก็เหนื่อยที่ดูแลที่บ้าน แล้วถ้าเรามาทะเลาะกันอีก เราห่างกันสักพักดีกว่า แต่พอห่างกันมันก็มีความห่วงเพราะคบกันมานาน เรายังมีไลน์ไปถามคุณตา คุณแม่เป็นยังไงบ้าง
ที่ไลน์ไปถามคือคิดถึงเขาใช่ไหม?
บอล : ใช่ครับ คิดถึงเขาครับ ช่วงที่ห่างไม่ได้คุยกันอาจจะรู้สึกสบายใจอยู่พักหนึ่ง แบบโล่ง ไม่ต้องทะเลาะกัน แต่พอเวลาผ่านไปก็รู้สึกว่ามีเขาอยู่มันดีกว่า ค่อยๆ ทักไป เพิ่งกลับมาคุยกันเมื่อปลายปีที่แล้ว
ก่อนหน้านี้เหมือนบอลหายหน้าหายตา ใครติดต่อละครไปก็ปฏิเสธ 4-5 เรื่องก็ไม่เล่น?
บอล : ลูกเกดบอกผมติสท์ ณ ตอนนั้นผมอธิบายไม่ถูก แต่ผมรู้สึกไม่ค่อยอยากเล่น ไม่ไช่ ไม่อยากได้เงินนะ แต่มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายตอนนั้นไม่ถูก แต่ผมเล่นละครมา 10 กว่าปีแล้ว แล้วก็บทบาทที่ติดต่อมามันจะเป็นเหมือนบทเดิมๆซ้ำๆ กัน เรารู้สึกว่าเราเล่นแบบนี้มาเยอะแล้ว คือมันเหมือนกับว่ามันไม่มีอะไรใหม่ๆ ท้าทาย ตอนนั้นเลยปฏิเสธไป แต่พอปฏิเสธไป ปฏิเสธมา 2 ปีที่ไม่ได้รับละคร
ก็เลยมีข่าวว่าพระเอกเรื่องเยอะ?
ลูกเกด : จริงๆ เขาไม่ได้เรื่องเยอะ นี่ขนาดมีงานเข้ามา เขาก็เหมือนอยากทำงาน แต่พี่ก็รู้สึกว่ามันยังไม่ชาเลนจ์พอ ขออีกนิดนึงจนมันไปหลายเรื่องมากเลย
บอล : ถามว่าเรื่องเยอะไหม มันไม่ได้เรื่องเยอะ แต่ว่าถ้าเราไม่อยากเล่นแล้วถ้าเราไปทำมันจะไม่โอเค
2 ปีที่หายไปไปทำอะไร?
บอล : จริงๆ ผมก็รับงานปะปลาย มีพิธีกรบ้าง ไปเที่ยวต่างประเทศ
ตอนนี้กลับมารับงานยัง?
บอล : กลับมาแล้วครับ ผมอยากจะบอกว่าโควิดมันเปลี่ยนชีวิตผม เปลี่ยนความคิดผม อย่างที่บอกโควิดเราเอาเงินเก็บมาใช้โดยเฉพาะปี64 ที่มันหนักสุดๆ ที่มันล็อคดาวน์ งานโดนยกเลิกบ้าง หรือบางงานที่ถ่ายค้างก็ต้องพักไว้ก่อน
ลูกเกด : ความท้าทายมันเข้ามาเต็มไปหมด
บอล : เหมือนที่เราเอาเงินเก็บที่เราเก็บมาเอามาใช้ในช่วงนั้น เราเอาเงินออกมาอย่างเดียวโดยไม่มีเงินเข้าก็เลยคิดมาก พอเขาคลายล็อคดาวน์ พอมีงานขึ้นมาเราก็ไม่ได้เลิกเยอะ เราก็รับมากขึ้น แต่มันก็มีเลือกบ้าง อยากเล่นอะไรที่มันท้าทาย
คุณบอลไม่สบายมีโรงประจำตัว?
บอล : มันไม่ใช่โรคประจำตัว
มันคือโรคอะไร?
บอล : ผมเคยป่วยเมื่อตอนอายุ 23 แต่มันหายได้ครับผม
มันคือโรคอะไร?
บอล : SLE โรคภูมแพ้ตัวเอง ที่พี่ผึ้ง พุ่มพวง เป็นอะครับ ผมไม่ทราบว่าเกิดขึ้นได้ยังไง ช่วงตอนที่ผมอายุ 23 มันมีช่วงที่ผมทำงานหนักมาก ตอนนั้นผมเป็นพระเอกอยู่ 2 ช่อง แล้วตอนนั้นผมปี4 ตอนนั้นจะจบแล้ว ด้วยความเราเป็นพระเอกคิวเราเยอะ มันเลยใช้ร่างกายหนักมาก ตอนแรกผมรู้สึกปวดที่ข้อเท้า เราคิดว่าจากการออกกำลังกายหรืออะไรหรือเปล่า พอผ่านไปสัก 2 อาทิตย์ตอนแรกปวดข้างเดียว แล้วก็มาปวด 2 ข้าง เริ่มแปลกๆ แล้ว ตอนนั้นเราไปหาหมอนวดแล้วเอายาคลายเส้นมากิน แล้วทีนี้มาลามมาที่ข้อเข่า 2 ข้าง แล้วก็ข้อมือหนึ่งข้าง เป็นเหมือนโรคข้ออักเสบเหมือนคนที่เป็นโรคเก๊าท์ พอมันขึ้นมาที่ข้อเท้าทั้ง 2 ข้าง ข้อเข่าทั้ง 2 ข้าง แล้วข้อมืออีก 1 ข้าง คราวนี้เราเดินไม่ได้เลยมันปวดหนักมาก เหมือนคนที่เป็นข้ออักเสบ มันลงน้ำหนักไม่ได้เลย จะเข้าห้องน้ำต้องใช้ไม้ค้ำ ตอนที่มันเป็น 4-5 ข้อเกือบเดือน ตอนนั้นเราได้ไปเจออาจารย์หมอท่านหนึ่งที่เขาดูแลครอบครัวผมอยู่ที่วิชัยยุทธ เราโทรไปเล่าอาการให้เขาฟังว่ามันไม่มีสาเหตุอะไรเลย เขาเลยให้ผมไปตรวจที่วิชัยยุทธ เจาะเลือด ตรวจทุกอย่าง คุณหมอวินิฉันว่าผมน่าจะเป็นโรคภูมิแพ้ตัวเอง ซึ่งเราก็ถามว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง คุณหมอบอกว่าบางทีคนแข็งแรงก็เกิดขึ้นได้ สภาวะร่างกายที่เหมือนกับภูมิตก หรือว่าตอนที่ร่างกายมันอ่อนแอ หรือมีอะไรที่ทำให้ภูมิต้านทานมันออกมาต่อสู้แล้วร่างกายเราไม่แข็งแรงพอ แต่ว่าสาเหตุที่แน่นอนว่าเกิดจากอะไรคุณหมอเขาให้คำตอบไม่ได้
แต่เป็นแล้วหายได้?
บอล : เป็นแล้วหายได้ครับ คือช่วงที่บอลเป็นเป็นคุณหมอก็วางแผนวินิจฉัยว่าบางคนจะหาย 3 เดือน บางคนจะ 6 เดือน บางคน 1 ปี
แนวทางในการรักษาเขาได้บอกไหมว่าต้องรักษายังไงถึงจะกลับมาแข็งแรง?
บอล : ของบอลเป็นภูมิแพ้มันจะหนักที่ข้อ คนที่เคยรักษามาจะมี 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี บอลใช้เวลาการรักษา 6 เดือนจะบอกคนที่เป็นโรคพวกนี้ต้องทำใจอยู่กับมันมันต้องใช้เวลา แต่ถ้าปกติคุณหมอให้หยุดยาจริงๆ มันต้อง 1 ปี คือ 1 ปีถึงกลับมาถ่ายละครได้ แต่ 6 เดือนถึงกลับมาใช้ชีวิต ออกไปไหนได้ ขับรถได้ครับ
โหดนะ?
บอล : โหดครับ คนเคยทำงานปกติแล้วอยู่ดีๆ ต้องมานอนอยู่บ้าน รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่โหดร้ายที่สุดในชีวิตผม
คุณไม่มีความเชื่อในด้านอิทธิฤทธิ์ของหมอดูเลยเหรอ?
บอล : เมื่อก่อนเคยเชื่อนะครับ แต่มันเคยเกิดเหตุการณ์กับตัวเองแล้วไม่เชื่อ เหมือนแอนตี้ไปด้วย
มันเกิดอะไรขึ้น?
บอล : ย้อนกลับไปในช่วงที่ผมป่วย ตอนนั้นผมไม่ได้รักษากับแพทย์แผนปัจจุบันอย่างเดียว ผมก็มีหาหมอดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเรา เรากำลังทำงานอยู่ดีๆ มันเกิดอะไรกับชีวิตเรา แล้วตอนนั้นมีหมอดูท่านหนึ่งที่คนในวงการนิยมกันมาก ผมก็เลยไปหา ก็มีดาราพาเราไปหา ผมเป็นอะไร ทำไมอยู่ดีๆ เป็นแบบนี้ เขาก็บอกว่าเป็นโรคเวรโรคกรรม เราก็พอเข้าใจ ตอนเด็กๆ เราชอบยิงปืนอะไรแบบนี้มันเป็นวัยคะนอง แต่เขาทักมาเรื่องนึง ตอนนั้นเรากำลังป่วยแล้วเราอายุ 23 เรายังไม่หนักแน่นพอ เขาบอกที่ป่วยแบบนี้เขาเห็นเราทำแท้ง มีเด็กมาเกาะขา เรามั่นใจว่าเราไม่ทำ ตอนนั้นความที่เราป่วยด้วย แล้วเราก็อยากหาย ความหนักแน่นในความคิดของเรายังไม่มี เราเลยบวช จนสึกก็ไปหาเพื่อพิสูจน์ว่าเคยทำแล้วไม่เคยบอก สรุปไม่ได้ทำ เรามั่นใจแล้วกลับไปหาเขาอีกรอบบอกว่าผมไม่ได้ทำนะ เขาบอกว่าชาติที่แล้ว ผมนึกในใจอยากเตะหน้าอย่างนี้เลย คืออารมณ์นั้นปล่อยให้เราดาวน์
เราก็เลยมีปมกับศาสตร์ทางนี้?
บอล : ใช่ครับ
ล่าสุดเขาโพสต์ว่าเหมือนรับกรรมแทนลูกดวง คุณบอลเลยรู้สึก?
บอล : มันไม่ใช่ก่อนหน้านั้นมันมีอะไรหลายๆ อย่างรู้สึกว่ามันไม่ค่อยเข้าท่าในหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะโหนกระแสในหลายเรื่อง จนเราเห็นผ่านๆ หน้าฟีตไอจีว่ามารับกรรมแทนลูกดวงมันไม่สามารถรับกรรมแทนกันได้
ที่โมโหๆ คือมาโดนคนใกล้ตัวเราด้วย?
บอล : ใช่ ถูกต้อง
ยูรู้สึกว่าบุคคลท่านนั้นมาโหนกระแสคนใกล้ตัวของเรา?
บอล : ใช่ ซึ่งเขาเสียไปแล้วด้วย ควรจะให้เกียรติเขา ไม่ควรมาหากินแบบนี้ เลยแอนตี้เขาแบบรุนแรง
แล้วเราพิมพ์ไปว่าอะไร?
บอล : พิมพ์ไปแบบดีมากเลยนะ ไม่ใช่ตัวจริงพิมพ์เลยนะ ถ้าตัวจริงอีกเรื่องนึง ในทางพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม คนเราทุกคนย่อมมีกรรมเป็นของตัวเอง ไม่มีใครรับกรรมแทนกันได้แล้วก็เอ่ยชื่อเขาไป
ไปคอมเมนต์แบบนั้นคุณไม่กลัวทัวร์ลงเหรอ?
บอล : ตอนนั้นไม่กลัวครับแล้วไม่ได้คิดมากกว่า แค่เห็นว่าขัดหู ขัดตา ขัดความรู้สึกก็เลยไปคอมเมนต์
ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama