"ครูเต้ย" เซ็ง! โดนโกงครั้งแรกในชีวิต ตกใจตำรวจบุกบ้านยึดรถหรู
จู่ๆ ก็งานเข้า สำหรับนักร้องหนุ่ม ครูเต้ย อภิวัฒน์ ที่เจอเรื่องช็อก! หลังซื้อรถหรูลัมโบร์กีนีมาขับได้ไม่นาน ล่าสุดถูกตำรวจบุกบ้านยึดรถคันดังกล่าว ซึ่งพอทราบรายละเอียดเจ้าของเก่าไม่ได้ส่งค่างวด เป็นเหตุทำให้รถโดนไฟแนนซ์ตามมายึด โดยทางเต็นท์รถไม่ได้แจ้งก่อนจะตกลงซื้อขายกัน ว่ารถคันนี้ติดไฟแนซ์อยู่ ทำเอาหนุ่มเต้ยเสียความรู้สึกมาก ยกเป็นการโดนโกงครั้งแรกในชีวิตที่หนักมาก
โดย ครูเต้ย ได้ให้สัมภาษณ์กับ อีจัน บันเทิง ว่า "เรื่องนี้คือว่า ผมได้ไปซื้อรถจากเต็นท์ขายรถเต็นท์หนึ่งครับ เป็นรถซุปเปอร์คาร์คือ ลัมโบร์กินี แล้วผมก็เอารถ ออดี้ ของผมไปเทิร์น แล้วเราก็เพิ่มเงินในสัญญาคือผมจ่ายทุกอย่าง แล้วเขาจะทำเรื่องโอนให้ หลังจากนั้นก็จะส่งเล่ม โอนให้ผมทีหลัง สามารถรับรถไปวันนั้นได้เลย ผมก็เลยรับรถมาใช้ เขาบอกว่าใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ เรื่องทุกอย่างก็จะเสร็จ”
"พอถึงเวลาผมก็ตามเขา พอตามก็ไม่ได้สักที เขาก็มีท่าทีบ่ายเบี่ยง ติดปัญหาอะไรประมาณนี้ เราก็ตามเรื่อยๆ เขาก็บอกว่าเจ้าของรถคนเก่าติดไปต่างประเทศบ้าง จนถึงประมาณช่วงเดือนเมษา ผมก็เลยเข้าไปคุยตอนแรกว่าจะขอคืนรถ จะขอรถออดี้คืนขอเงินคืน เขาก็บอกให้มาทำสัญญาว่าถ้ารถคันนี้โอนไม่ได้ก็จะคืน รถนี้เราซื้อตั้งแต่มกรา จนกระทั่งมาถึงกรกฎาคม ก็มีตำรวจและไฟแนนซ์เข้ามาทำการตรวจสอบรถ แล้วแจ้งว่ารถคันนี้ไม่ได้ส่งค่างวดรถเขา ซึ่งมันเกินกำหนดชำระเขาต้องมายึดรถ"
"ซึ่งตอนที่เราซื้อเราไม่ทราบจริงๆ ว่ารถมีปัญหา เราก็เลยให้ตำรวจเอาไปที่สน. แล้วก็โทรหาทางเต็นท์ให้เขาไปเคลียร์ ซึ่งเขาก็ไปเคลียร์ประมาณว่าเจ้าของยังผ่อนไม่หมดแล้วให้ทางเต็นท์ขายให้ ซึ่งในระหว่างที่รอขายเต็นท์ต้องเป็นคนจ่ายไฟแนนซ์ให้เขา ซึ่งผมไม่ทราบรายละเอียดตรงนี้ ในตอนที่ผมไปซื้อทางเต็นท์บอกว่ารถโอนได้ปกติ และไม่ได้บอกว่ารถติดไฟแนนซ์หรืออะไร ซึ่งเขามีปัญหากันตรงนั้นผมไม่รู้ แต่ปัญหาคือเขาไม่คืนรถให้ผม และก็ไม่คืนเงินที่ตกลงกันไว้ แล้วตอนนี้เราก็ไปแจ้งความเอาไว้แล้วครับ มันเป็นช่วงที่กำลังไกล่เกลี่ยกัน ว่าเขาจะคืนรถคืนเงินเรายังไงแบบไหน ส่วนเรื่องที่เขามีปัญหากันเกี่ยวกับรถเราไม่ทราบด้วย ส่วนปัญหาของเราคือเขาไม่คืนรถเรากับเงินเท่านั้นเอง"
"ผมก็มีความหวังนะ จริงๆ ผมคิดว่าเขาน่าจะเทคแคร์ลูกค่ามากกว่านี้ ในเรื่องของคนที่ผิดสัญญากันอันนี้เราไม่รู้ คุณน่าที่จะซัพพอร์ตลูกค้ามากกว่า เพราะว่ายังไงเราก็คือคนที่ตั้งใจไปซื้อรถกับคุณ ด้วยความตั้งใจดี"
"เรายังไม่ได้เจอตัวเจ้าของเต็นท์รถ ได้แต่เราได้โทรคุย แล้วก็ให้พี่ทนายคุย สำหรับวันนัดไกล่เกลี่ยกันยังไม่ทราบ ช่วงนี้ก็พยายามไกล่เกลี่ยกันทางโทรศัพท์ ตกใจด้วยที่ตำรวจมาที่บ้าน ลูกผมกลัวตำรวจด้วย เพราะที่บ้านชอบขู่ว่า ถ้าดื้อตำรวจจะจับนะ วันนั้นตำรวจไปล้อมบ้าน 4-5 คน ลูกผมร้องไห้ใหญ่เลยกลัวตำรวจจับ ยอมรับว่าเสียความรู้สึกครับ เพราะว่าเราไปซื้อรถมาเราไม่รู้จริงๆ ว่ารถมีปัญหา ซึ่งเขาก็บอกว่ารถปกติ ทำอะไรโอนได้ปกติ ซึ่งเราไม่คิดว่าจะโดนตำรวจมาบุกที่บ้าน มายึดรถอะไรแบบนี้ มันก็เสียความรู้สึกครับ มันรู้สึกแย่มากๆ"
"สำหรับจำนวนเงินที่เขาต้องจ่ายคืน คือผมเพิ่มเงินไป 1.5 ล้านบาท เราก็รถออดี้อีกหนึ่งคันของผม ที่คุยกันล่าสุดเค้าบอกว่ารถน่าจะขายไปแล้ว เขาใช้คำว่าน่าจะซึ่งเราไม่รู้ว่าสรุปแล้วขายไปแล้วหรือยัง เท่าที่คุยกับทนายถ้าไม่ได้รถเขาก็ต้องคืนเป็นเงินสดทั้งหมดรวมแล้ว ประมาณ 8 ล้านครับ"