เนื้อหาในหมวด ข่าว

\

"เจมส์ มาร์" ยอมรับคลั่งรัก "พาย" 100% ใจเต้นแรงขอเป็นแฟนต่อหน้าพ่อแม่

เพิ่งผ่านโมเมนต์ฉลองวันเกิดอายุเข้าเลขสามหมาดๆ สำหรับพระเอกหนุ่ม เจมส์ มาร์ แถมปีนี้ยังพิเศษมีหวานใจ พาย รินรดา ที่เพิ่งเปิดตัวคบหาดูใจกัน มาร่วมยกเค้กอวยพรวันเกิดเป็นปีแรกด้วย จนหลายคนแซวเป็นอีกคู่คลั่งรัก ล่าสุดเจอ เจมส์ มาร์ มาร่วมงานพิธีเปิด SIRIRAJ H SOLUTIONS ศูนย์สุขภาพเชิงป้องกันและบูรณาการสมดุลชีวิต จึงได้สัมภาษณ์อัปเดตเรื่องราวความรัก

โดย เจมส์ เผยว่า “ปีนี้ 30 แล้วครับ ดีมากๆ รู้สึกชอบเพราะว่าที่ผ่านมามองย้อนกลับไป 10 ปี เราทำอะไรเยอะมากๆ ดีใจและภูมิใจกับตัวเองตรงที่ว่า เราสามารถทำตามเป้าหมายของชีวิตได้เกือบทุกอย่างเลย บางอันอาจจะยังไม่สำเร็จบ้าง แต่เราได้เริ่มทำหลายๆ อย่างที่เราอยากทำ พอ 30 ก็เลยไม่ได้รู้สึกรู้อย่างนี้น่าจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ คือทำได้หมดแล้ว รู้สึกดีใจกับการได้เริ่มอายุ 30 เป็นต้นไปครับ”

“ปีนี้เป้าหมายต่อไปของผมที่มีเลย คือทำสิ่งที่มีอยู่ให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะเป็นสิ่งที่เราเอ็นจอย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน การแสดง งานอดิเรกของตัวเอง เรื่องของยูทูบ คืออยากทำไปเรื่อยๆ แล้วก็อยากจะให้เวลากับครอบครัว คนรอบข้าง เพื่อนฝูงมากขึ้น เมื่อก่อนรู้สึกว่าช่วง 20-30 เราโฟกัสตัวเองเยอะอยู่ จากนี้เป็นต้นไปก็อยากจะโฟกัสเพื่อนๆ ครอบครัว ให้มากขึ้น”

“วันเกิดปีนี้เค้กก็หวาน และน่ารักมากๆ ครับ เขาก็มาเซอร์ไพรส์ตอนเที่ยงคืน มากับ พี่อ๋า ผู้จัดการ มาที่บ้านกันหลายๆ คน รวมถึงครอบครัวเราด้วย ไม่เคยมีโมเมนต์แบบนี้มาก่อน มีคนมาเซอร์ไพรส์ตอนเที่ยงคืนพอดี เคยเห็นแต่โมเมนต์แบบนี้ พอได้เจอกับตัวเอง รู้สึกว่าเป็นโมเมนต์ที่ดีมาก เพราะว่ามีคนที่อยู่ในชีวิตเรา คุณพ่อคุณแม่ พี่ๆ ที่ทำงาน พี่อ๋า น้อง ก็คืออยู่ตรงนั้นหมดเลย เป็นโมเมนต์แรกของ 30 ที่ประทับใจมากครับ”

“น้องให้ของขวัญ ก็คือเค้กก้อนนั้นแหละครับ ซึ่งทุกวันนี้เค้กก้อนนั้นก็ยังอยู่ ยังไม่ได้กิน ชิมไปนิดนึง เก็บไว้ๆ คือตัวการ์ตูนตัวนั้นพอดีดูซีรีส์นั้นด้วยกัน ก็เลยมีความผูกพันก็เลยเก็บไว้ก่อน ส่วนที่คนแซวเราก็เป็นคนคลั่งรัก ถ้ามองในเรื่องของความรู้สึก เราก็เต็มร้อยในเรื่องความรู้สึก การดูแลกัน การซัพพอร์ตกันเมื่อมีเวลาว่าง ผมว่าเรื่องนี้สำคัญมากๆ อาจจะไม่ได้ลงรูปเยอะมาก แต่ก็มีลงบ้างเมื่อมีโอกาส เพราะว่าทั้งสองคนไม่ค่อยได้เป็นฟีลลงรูปในไอจีอยู่แล้ว พอดีไม่มีคนถ่ายรูปให้กันและกันบ่อยๆ”

“พอลงรูปคู่คนกดไลก์ให้เยอะมาก ก็ดีใจที่คนชอบคนติดตาม เพื่อนๆ แซว เราก็รู้สึกเขิน แต่ในความเขินเราก็ดีใจ ขอบคุณที่ทุกคนให้การตอบรับที่ดี ผมว่าการโดนแซว มันก็มีแต่รอยยิ้มที่เราจะยิ้มกลับให้เขา บวกกับความเขิน เราไปไหนมาไหนอาจจะไม่ได้เขินมาก เพราะว่าที่ผ่านมา 5 ปีที่เคยรู้จักกัน ก็มีไปข้างนอกด้วยกันบ้างแต่ไปกันเป็นกลุ่ม ตอนนี้ไปกันสองคนก็คล้ายๆ กัน ทุกอย่างเหมือนเดิม เป็นฟีลลิ่งเหมือนเดิม แค่มันสเปเชียลขึ้นมา ใส่ใจมากขึ้นเท่านั้นเองครับ จะเรียกว่าเป็นปีที่พิเศษอย่างนั้นก็ได้ เป็นความรู้สึกที่ดี มันพิเศษขึ้น ก็ขอบคุณโชคชะตาที่ทำให้เราได้มีโอกาสตรงนี้ครับ”

“สำหรับเรื่องดูเราก็คลั่งรักมาก ด้วยฟีลลิ่งด้วยความรู้สึกเราก็100 เปอร์เซ็นต์ เราก็คลั่งรัก 100 เปอร์เซ็นต์ก็ว่าได้ ที่ผ่านมาเราก็ซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเอง ถ้าเรารู้สึกยังไงก็รู้สึกอย่างนั้น ใช่ก็ใช่ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ มีก็มี ไม่มีก็ไม่มี เมื่อโอกาสตรงนี้มาเราก็อยู่กับมันให้เต็มที่ ดูแลเขาให้เต็มที่ ดูแลสิ่งที่เรามีให้เต็มที่ เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่สวยงามสำหรับเราและทุกคนเช่นกัน เราก็เลยรู้สึกว่าเป็นการเริ่มต้น 30 ที่ดีครับ”

“ถ้าพูดถึงการใช้ชีวิตไม่ค่อยเปลี่ยนนะครับ มีแค่กิจกรรมเพิ่มขึ้น ถ้ามีโอกาสก็ไปเจอกัน แล้วก็อาจจะมีคนหนึ่งที่เราคุยได้ด้วยมากขึ้น นอกเหนือจากนั้นการทำงาน การใช้ชีวิตเหมือนเดิมมากๆ เรารู้จักกันอยู่แล้วมานาน มันทำให้เรื่องอื่นๆ ไม่ต้องปรับตัวกันเท่าไหร่ เคยทำงานด้วยกัน การใช้ชีวิตในกองถ่ายก็เคย มันมีแค่เรื่องของความพิเศษที่มันพิเศษขึ้น เราก็แบ่งเวลาไปให้เขาตรงนั้นมากขึ้นเท่านั้นเอง”

“ที่ผ่านมาเราอยู่คนเดียวมาตลอด ก็เลยไม่รู้สึกว่าอะไรหายไป รู้สึกว่าทุกอย่างเหมือนเดิม เขาก็เข้าใจไลฟ์สไตล์เรา เราก็เข้าใจไลฟ์สไตล์เขา เคารพซึ่งกันและกัน แค่นี้เองที่มีการเปลี่ยนแปลง มันไม่มีความคาดหวังต่อกัน เรารู้สึกว่าการอยู่ด้วยกันมันเป็นสิ่งพิเศษ เราเคารพซึ่งกันและกัน เข้าใจกัน เราไม่ต้องไปคาดหวังอะไรมากกว่าที่เคยเป็นอยู่ เรารู้จักกันมานานมันก็เลยทำให้เราเข้าใจกันดีครับ”

“สำหรับเรื่องก่อนจะคบเป็นแฟน เราได้ไปคุยกับพ่อแม่เขา ขออนุญาตดูแล ก็มีคุย มีบอกด้วยครับ คือเราบอกน้องก่อน แล้วค่อยไปบอกคุณพ่อคุณแม่ มันเป็นเรื่องจริงจังครับ ผมแค่รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง พ่อแม่ก็สอนเรามาตั้งแต่เด็ก หรือแม้แต่เราเห็นมาตลอดสิ่งที่ดีที่สุดคือบอกพ่อแม่เขาด้วย บอกผู้ใหญ่ให้รับรู้ เพราะว่ามันเป็นประเพณีเป็นสิ่งที่ควรทำ และผมก็อยากทำด้วย ผมก็เลยทำสเต็ปนั้นไป”

“ความรู้สึกตอนนั้นก็ต้องยอมรับว่าตื่นเต้นครับ แต่เป็นความตื่นเต้นที่ดี เรียกว่าเป็นโมเมนต์ยิ่งใหญ่โมเมนต์หนึ่งก็ได้ในชีวิต ที่เรากำลังจะบอกขออนุญาตคุณพ่อคุณแม่เขา ผลออกมาเราก็พูดปกติอย่างที่ผมพูดนั่นแหละ แต่ข้างในใจเต้นเหมือนกัน ผมว่าทุกคนก็ต้องมีลุ้นบ้าง เราก็มั่นใจว่าเราจะดูแลเขาดีแน่นอน”

“ส่วนที่หลายคนแซวขอเป็นแฟนยังขนาดนี้ ถ้าขอหมั้นขอแต่งจะขนาดไหน อันนี้ก็คงตอบไม่ได้ว่าจะเป็นประมาณไหน คงให้เป็นธรรมชาติที่สุดครับ ที่ผ่านมาชีวิตเราพยายามทำให้มันธรรมชาติที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำงาน การใช้ชีวิต ให้เป็นคนที่สุด ทุกอย่างในชีวิตก็อยากจะให้เป็นธรรมชาติที่สุด เวลาเราแบ่งเวลาให้ใครไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พ่อแม่พี่น้อง หรือว่าจะแฟนคลับ เราก็อยากให้เขาสัมผัสกับเราจริงๆ ที่สุด คงไม่ได้มีอะไรที่มันแปลกตาไปกว่าปกติ แต่อยากให้มันจริงใจและจริงจังที่สุด และถูกต้องครับ”

ช็อตนี้ละลาย \

ช็อตนี้ละลาย "เจมส์ มาร์" โอบ "พาย รินรดา" ใช้ตัวเองเป็นร่มกันแดด โรแมนติกมาก

เจมส์ มาร์ หวานไม่แผ่วคลั่งรักสุดๆ ภาพโอบ พาย รินรดา ใช้ตัวเองเป็นร่มบังแดดให้ อิตาลีเป็นสีชมพูจริงๆ