เนื้อหาในหมวด ข่าว

\

"แอน ทองประสม" น้อมรับทำละครดราม่าหนักมือ ปรุงรสขม! ไม่เสียขวัญถูกวิจารณ์

เพิ่งจบไปหมาดๆ สำหรับละครเรื่อง แค้น ของผู้จัดมากฝีมือ แอน ทองประสม ซึ่งระหว่างดำเนินเรื่องออกอากาศ ก็มีกระแสติชมจากแฟนละครอยู่ตลอด จนมาถึงตอนจบก็มีดราม่าในโซเชียลวิจารณ์ฉากฆ่าตัวตายอีก เมื่อ sanook.com มีโอกาสเจอ แอน ทองประสม มาโปรโมตละครเรื่องใหม่ เกมรักทรยศ จึงได้ชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว      

ละครแค้นจบแล้วเหมือนยกภูเขาออกจากอกไหม ?

“โอ้โห ลุ้นทุกตอน ก็ยกภูเขาพอสมควร ตอนทำงาน ตอนอ่านบทแอนมีความสุขมากนะคะ กองถ่ายมีความสุขกันทุกวันทุกคนแฮปปี้ แต่พอละครออกก็มีทั้งคนที่ชอบและคนที่ไม่ชอบ มีคนติและคนให้มุมมอง ก็ผสมๆกันไปจนจบเรื่อง”

แอฟ ทักษอร บอกความรู้สึกตามชื่อเรื่องเลย ?

“แค้นแอน (หัวเราะ) ก็ตามชื่อเรื่องค่ะ บทของเขายากจริงๆ ตัวละครนี้จะเป็นตัวจอมบงการ หว่านล้อมให้ทุกคนทำสิ่งที่ตัวเองต้องการ จะมีอาการขึ้นๆลงๆ บทเขาจะค่อนข้างยาก แอฟเหมือนคนที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย เวลากระโดดตบท่าอาจจะดูไม่ค่อยแข็งแรง แต่ถามว่าโดดได้ไหม โดดได้ ถ้าเพิ่มกล้ามเนื้อหน่อยก็อาจจะกระโดดได้สวย”

“เราก็จะบอกเขาในเรื่องของเทคนิค ทางกายภาพมากกว่า เหมือนเขาได้รับจากแอน และไปทำในสิ่งที่มันยากขึ้นไปอีก เขาก็เลยแค้นแอนเท่านั้นเอง (หัวเราะ) เขาน่ารักกับแอนมากค่ะ แอนโชคดีนักแสดงทุกคนน่ารักกับแอนหมดเลย ถึงเรื่องมันจะดูเครียดแต่ว่าตอนทำงานแอนไม่ได้รู้สึกเครียดเลย”

เปลี่ยนคาแรคเตอร์ของนักแสดงหมดเลย อย่าง แอฟ, ต้นหอม, อ้น ศรีพรรณ ?

“คือเราก็รู้สึกว่าถ้าเป็นมุมของนักแสดง อย่างต้นหอมปกติเขาเล่นแสบแสบๆร้ายๆ เราก็เลยบอกว่าเรื่องนี้ลองเล่นเบาๆหน่อยแต่งหน้าเบาๆปกติ เขาชอบแต่งตัวจับเราก็เลยกดเขาลง เราอยากให้เขาลองทำอีกมุมเท่านั้นเอง อย่างแอฟมุมนี้เราก็ไม่เคยเห็นเขาระเบิดออกมา อย่าง อ้น ศรีพรรณ ปกติเล่นแต่ตลกไม่เคยเล่นดราม่า ก็ลองมาเล่นปกติดูสิ”

เหมือนเราทดลองใหม่หมดเลย ทั้งตัวละคร ทั้งบทละคร มันมีความเสี่ยงไหม ?

“ตอนแอนทำแอนมองทุกอย่างในแง่ดีหมดเลย ไม่ทันคิดจริงๆ นะว่าอันนี้มันเสี่ยง คิดว่าคนที่เขารับเขาน่าจะทำได้และเขาก็ทำได้จริงๆ เพียงแต่ว่าจะถูกใจคนดูไหมมันก็อีกเส้นนึงแล้ว คือมันเป็นเรื่องของจริตคนชอบมากกว่า บางคนอาจจะไม่ชอบที่เห็นคนนี้เปลี่ยนแปลงไปแบบนี้ แต่บางคนอาจจะ เฮ้ย! ไม่เคยเห็นว้าวว่ะ คือมันก็มีทั้งสองทางค่ะ”

หลายคนบอกว่าเรื่องเหมือนเราแกงนักแสดง ?

“เป็นบางคนค่ะที่พลิกคาแรกเตอร์ อย่างน้องนายแอนก็ไม่ได้พลิกเขานะ แต่เขาอาจจะเล่นโตขึ้น นายเป็นคนที่เล่นละครน้อยมากนะ แต่ทางการแสดงเขาก็ลองเล่นอะไรที่ยากขึ้นอีกสเต็ปหนึ่ง แต่ก็อาจจะไม่ได้ยากที่สุดหรอก รอบข้างประหลาดหมด ไปออกทะเลทำอะไรยากกันไปหมด (หัวเราะ)”

“อย่างเก่งกาจเขาก็มาแบบศูนย์เลย ไม่เคยเล่นอะไรมาก่อนเลย แต่เขามาเล่นบทที่ยากขนาดนี้ คือเราไม่ได้ต้องการคนที่เล่นเก่งเราต้องการคนที่อ่อนต่อโลก ทุกอย่างเป็นของใหม่ไปหมด แล้วก็ใสๆเลยไม่ต้องมีชั้นเชิง ดีใจก็ดีใจเกลียดก็เกลียด ก็เป็นเด็กอ่ะรู้สึกยังไงก็อย่างงั้น”

หลายคนถามทำไมพี่แอนไม่เล่นเอง เพราะเห็นเบื้องหลังเล่นให้ดูทุกฉาก ?

จริงๆไม่ได้ทุกฉากนะ แต่ว่ามีภาพแอนไปอยู่ในฉากเยอะ จริงๆแอนไปดูกองน้อยมาก เพราะแอนอยู่กองเรื่องนี้ ทุกอย่างแอนไปช่วยดูไม่เกิน 30 ฉาก ส่วนใหญ่จะไปดูฉากข้นๆ มันเลยทำให้ดูเหมือนว่าแอนมีส่วนร่วมเยอะ

ถ้าพี่แอนเล่นเองจะดูถึงพริกถึงขิงกว่า ?

“คือเวลาแอนเล่นแอนไม่ค่อยคิดถึงตัวเอง คือถามว่าถ้าเราเล่นก็ได้อีกมิติหนึ่ง ถ้าแอฟเล่นก็ได้อีกมิติหนึ่ง ก็ไม่รู้ว่าอันไหนจะดีกว่า แต่แอนว่ามันก็ได้ทั้งสองทาง คนอาจจะมองว่าแอนเคยเจอบทแบบนี้มา บทยากๆแอนก็ร่ายรำทำมันได้ คือมันก็ได้แหละแต่จะว้าวไหมมันก็อีกเรื่องนึง แต่ถ้า แอฟ ทักษอร เล่นมันก็จะอีกแบบนึง มันก็จะดูแปลกตา เราแค่รู้สึกว่าเราอยากเห็นแอฟเล่นในมุมที่เราไม่เคยเห็น เราปรารถนาดีคิดว่าบทนี้ค่อนข้างท้าทายสำหรับคนเป็นนักแสดงเผื่อว่าเขาจะสนใจ ให้เขาอ่านและเขาก็ตัดสินใจเล่น”

กระแสตอนจบค่อนข้างรุนแรงมีดราม่าในทวิตเตอร์ ?

“มันก็มีมุมที่แอนรู้สึกว่าเขาก็พูดถูก บางทีแอนอาจจะปรุงขมไปหน่อย นึกออกไหมคะคาปูชิโน่ที่ขมมาก บางคนก็บอกว่าฉันไม่กินรสชาตินี้ บางคนก็จะบอกว่ามันส์จริงๆ สนุกจังก็มี บางคนก็ไม่คิดอะไรเลย บางคนก็บอกว่าเยอะ คือมันก็หลากหลาย บางครั้งเราคนทำงานเราก็ต้องแยกชิ้น แอนว่าถ้าธรรมชาติคนที่ไม่หรอกตัวเอง เราก็จะบอกว่าคอมเมนต์นี้เราเชื่อเขาเถอะเขาไม่ได้หลอกเรา อันนี้เราทำไอ้นี่ไปแล้วก็ไปปรับ อันนี้มันคือการผสมเพื่อความเมามันส์ ท็อกซิก เราก็ทำเพิกเฉยไป เราก็ต้องพยุงตัวเราด้วย คอมเมนต์นี้ให้เขาชมเราก็เป็นน้ำหล่อเลี้ยงในใจ หน้าที่คนเป็นผู้จัดเราก็ต้องเปิดใจรับฟัง”

“ง่ายๆ อย่างคอมเมนต์ของพี่สมรักษ์ ผู้บริหารช่อง เขาก็จะบอกแอนว่าพี่ว่าตอนท้ายมันเยอะไปนะเลือด บางทีคนดูเขาก็จะรู้สึกว่าตัวละครตัวนี้มันต้องเรียนรู้นิดนึงนะ ทำสิ่งนี้ซ้ำซากไปนะ คนดูเขาอึดอัดเขาเอาใจช่วยไม่ไหว คือภาษาที่ของพี่สมรักษ์มันก็แมสเสจเดียวกับคนที่คอมเมนต์บอกแอน แต่คนละอารมณ์ (ยิ้ม) ซึ่งมันก็จริงแอนอาจจะต้องลดน้ำหนักมือลงหน่อย”

ฉากฆ่าตัวตายค่อนข้างเซนซิทีฟ ?

“คนที่ทำในเรื่องคือตัว ต้นหอม เขาถูกตัว ปรางทอง ชักจูง ให้ไปวางยาดีเจพุฒให้ดีเจพุฒหลับในแล้วก็เสียชีวิตนั่นก็คือจุดเริ่มต้น ต้นหอมเคยฆ่าคนคนนึงมา มันเหมือนว่าเป็นสิ่งที่เขาเคยทำมา คือเค้าก็โดนปรางทองพูดหวานล้อมโดยที่ปรางทองไม่ต้องใช้ปืนยิงเลยนะในการฆ่าเขา เหมือนเขาใช้ปืนในการปิดตัวเองตายเอง เหมือนฉันไม่ควรได้รับการให้อภัย เหมือนเขารู้สึกผิดกับสิ่งที่เขาทำในวันนี้ด้วย เหมือนเขาหาทางออกไม่เจอรู้สึกผิดกับดีเจพุฒ ไปทำให้ดีเจพุฒเสียชีวิต เหมือนเขาก็ใช้เหตุการณ์ในวันนั้น กับสิ่งที่คุณเคยทำกับคนอื่น เหมือนเขาก็รับผิดชอบในสิ่งที่เขาเคยทำกับตัวเขาเอง”

“เหมือนเป็นวิถีเรื่องราวของตัวละคร แอนก็ไม่ได้ท้าทายหรือชี้นำใครนะคะ มันก็เป็นโทนละครที่เส้นทางมันเป็นแบบนี้ ก็บอกว่าละครเราชื่อแค้นนะ โทนละครเป็นแบบนี้ โปสเตอร์ละครเป็นสีนี้ เราก็พยายามบอกทุกคน เรามาในทิศทางแบบนี้ เพียงแต่ว่าคนไม่อยากเห็นหรือเปล่า ไม่อยากเห็นคนฆ่าตัวตาย อันนี้ก็ไม่รู้จะตอบยังไง แต่เจตนาเราไม่ได้ชี้นำให้ใครฆ่าตัวตาย คือตัวละครมันสำนึกผิดก็เลยเลือกวิธีแบบนี้”

จริงๆ ในมุมการนำเสนอสามารถพลิก หรือใช้การสื่อสารอย่างอื่นได้ไหม?

“ก็ได้ค่ะ จริงๆ ละครมันเป็นศิลปะมันเป็นมิติไหนก็ได้จะทำเป็นแบบเฟดไปเลย มืดดำ เห็นอยู่ในรถแล้วก็เงียบไปได้หมด หรือเราจะขยี้ให้มันบี้กันไปข้างนึง มันแล้วแต่ว่าเราจะไปทางไหน ของแอนก็เป็นสื่อสารแบบตรงไปตรงมา มายังไงก็ไปอย่างงั้น เราก็โอเค บางคนก็รู้สึกว่า เฮ้ย มัน บางคนก็มันมาก ดูแล้วมันจุกจังก็มีหลายแบบ”

เรื่องหน้าต้องระวังฉากอะไรแบบนี้ไหม ?

“คือถ้าเป็นต่อไปเหรอคะ มันแล้วแต่เรื่อง แอนไม่กล้าพูดวันนี้ว่าแอนจะไม่ทำอะไรแบบนั้นหรือเปล่า เอาเป็นว่าแอนเชื่อว่าทุกอย่างมันจะต้องมีสมดุลของมันต่อไป เราใช้ชีวิตเราก็ต้องเรียนรู้ขึ้นทุกวัน ทำงานเราก็ต้องเรียนรู้ขึ้นทุกวัน เราจะรู้ได้ว่าอันนี้คนน่าจะชอบ เรายังต้องมีมุมของความหวังในการทำงานต่อไป ในขณะเดียวกันเราก็ต้องระวังอะไรที่มันรอบคอบให้มากกว่านี้ก็ได้”

มีการโพสต์เรื่องเรท 13+ โซเชียลกังวลว่าทำไมถึงสามารถนำเสนอฉากความรุนแรงได้ ?

“13+ ปกติช่องจะเป็น ท. นะ แต่ของเรื่องนี้ก็คือเราก็บอกช่องไป ช่องก็ให้ 13 แทบจะเป็นละคร 13+ 1ในรอบหลายๆ ปี คือเราก็ประกาศตัวเองย่างชัดเจน เรา 13+ นะ ก็คิดว่าทำตามสีของ 13+ ค่ะ คือบางทีถามว่ามันก็ตีเหมือนกับละครบางเรื่อง แต่อาจจะสมมติเวลาอาจจะยาวกว่า มันเลยดูแล้วอึดอัด อันนี้แอนอาจจะลากมันยาวไป สำหรับบางคนที่เขารู้สึกว่า เฮ้อ พอได้แล้ว ก็มีนึกออกมั้ยคะ (หัวเราะ) กูรู้แล้ว กูเหนื่อยแล้วอะไรแบบนี้หรือเปล่า เขาก็เลยรู้สึกว่ามันเยอะมั้ง ถ้าถามว่ามันก็เหมือนคิวบู๊ เอาแจกันมมาผลักกันล้มลงไป แอนก็ไม่รู้จะตอบยังไง แต่ว่าถ้าถามเรา เราก็เข้าใจ”

พอเสร็จแล้วลองทำรีเสิร์ชว่าคนชอบดูละครรสชาติแบบนี้ไหม หรือไม่ถูกจริตคนดูทีวีไหม ?

“อ๋อ ก็อาจจะแค่ช่วงนี้คนอาจจะยังมีเรื่องให้โฟกัสเยอะ มีเรื่องเครียดทางบ้านเมือง เขาอาจจะรู้สึกอยากดูอะไรที่เขาคลายตัวสบายใจ เราทำละครก็ต้องดูจังหวะนิดนึง ก็ไม่แน่ใจถ้ามันไปอยู่ในช่วงเวลาอื่น หรือแบบที่คนคลายตัวกว่านี้ เรายังถูกมองหรือถูกตัดสินในลักษณะนี้หรือเปล่าแอนก็ตอบไม่ได้เหมือนกันค่ะ”

ในฐานะผู้จัดอยากทำละครรสชาติแบบนี้อีกไหม ?

“คือแอนยังไม่ได้เสียขวัญถึงขั้นจะแหยง ก็แค่เหมือนแบบว่าประเมิน อ๋อ อันนี้เขาไม่ชอบแล้วยังไงนะ เป็นความประเมินอย่างนี้มากกว่า แต่มันจะไม่ถึงขั้นเอาตัวเองเข้าไปในซอก แล้วก็คดคู้แล้วก็กลัวไปหมด นี่เทียบอาการให้ฟังนะคะ ก็ไม่ได้อย่างนั้น แต่ว่าเราก็โอเค เราก็จับทิศ แค่นั้นเองแอนไม่รู้จะตอบยังไง แต่แอนไม่พูดหรอกว่าวันนี้แอนจะไม่ทำแบบนั้นอีก แอนพูดไม่ได้จริงๆ เพราะแอนเชื่อว่าละครมันก็ตองมีหลายๆ รสชาติ บางทีแอนอยากทำละครตลก หรือบางทีแอนก็อยากทำละครดราม่า หรือแอนอยากจะทำละครรอมคอม แอนยังอยากทำได้หลากหลายเหมืนเดิม”

ละครจบก็แค่อันนี้ควรไปพัฒนาต่อ อันนี้ควรจะเบรกไว้ก่อน ?

“อันนี้เขายังไม่น่าจะชอบ ก็เบรกๆ ไป คือไม่ต้องแอนเบรกหรอก ช่องเขาเบรกแอนเองแหละ ช่วงนี้มันมือหนักไปหน่อยเอามันเบาๆ เขาก็อาจจะไม่ให้แอนทำละครดราม่าแป๊ปนึง อาจจะให้แอนทำละครรักอย่างที่แอนก็ทำอยู่เรื่อยๆ ก็ได้”

ในฐานะผู้จัดชอบทำอะไรใหม่ๆ ตั้งแต่เรื่องแรกจนมาถึงเรื่องนี้ ละครแบบหนคือทางของเราและรสนี้ถูกใจคนดู ?

“แอนไม่รู้จริงๆ ต้องให้คนดูตัดสินเหมือนกันนะว่า จริงๆ แล้วแอนเป็นคนต้องทำละครทางไหนเหรอ แต่แอนทำมาแทบทุกอัน ปัญญาชนก้นครัว ก็คือตลกไปเลย แอบรักออนไลน์ ลิขิตรัก เป็นเจ้าหญิงเจ้าชายเพ้อฝัน คือเธอ เพียงชาย ละครน้ำเน่า แอนก็ทำมาทุกรสชาติ แอนก็อยากรู้ว่าไปอะไรได้อีกนะ พอมาตอนนี้เรื่องแค้นโอ้โหแอนทำแบบรสขมจริงๆ ปกติแอนจะเป็นคนละครรักนำด้วย จริงๆ แอนชอบเพ้อๆ หน่อยๆ อยู่แล้ว หมายถึงว่าเป็นคนมีความฝันหวาน เป็นคนรู้สึกดีๆ กับความรัก หมายความว่าชอบละครรัก”

“แต่ แค้น ก็เป็นโจทย์ที่เส้นรักมันค่อนข้างบางกว่ารสชาติที่มันรุนแรง หรือรสชาติที่มันความเครียดแค้นของตัวละครมันอาจจะจัดกว่า มันเลยทำให้สีนั้นมันโดดขึ้นมา คนเลยอาจจะมองว่าหรือจริงๆ แอนไม่ได้เหมาะที่จะทำละครขมๆ แอนก็ไม่แน่ใจว่าแอนจะไม่มีสิทธินั้นอีก แต่แอนอาจจะต้องปรับลีลาในการนำเสนอใหม่ หรืออาจจะต้องเข้าใจศิลปะในการนำเสนอเพิ่มขึ้น เราต้องให้กำลังใจตัวเองในการทำงานต่อด้วย”

เหมือนต้องเรียนรู้ไปด้วยไม่ได้ปิดกั้นตัวเอง ?

“ไม่ถึงขั้นบ๊ายบาย ต่อไปนี้แอนจะไม่ทำ แอนว่าให้เวลาแอนได้ลองไปเขย่าตัวเองก่อน หรือขมไปเราก็ปรับรสชาตินิดนึง เหมือนเราไปซื้อกาแฟ วันนี้เปรี้ยวมากเลย เมล็ดกาแฟพันธุ์นี้เราไม่กิน ต้องคั่วเข้มคั่วอ่อนเราก้ต้องไปปรับ ลูกค้าเขาว่ามาอย่างนั้นเราก็ต้องปรับตัว”

เรื่องจังหวะเวลาสภาพแวดล้อมบ้างเมือง ณ ขณะนั้นอาจะทำให้คนไม่อยากดูละคร แบบนี้ละครเรื่องต่อไปต้องมองปัจจัยพวกนี้มากขึ้นไหม?

“คือจริงๆ ไม่ได้โทษบ้านเมือง (หัวเราะ) เอาจริงๆ พูดตรงๆ แมนๆ คุยกันเลย ตรงนั้นเป็นปัจจัยภายนอกที่เป็นแค่เอฟเฟกเล็กๆ คือมันนิดหน่อย หลักๆ มันมาจากชิ้นงานของเรา พี่เชื่ออย่างนั้น ของที่มันจะอยู่ได้มันอยู่ได้ไม่ว่าจะสถานการร์ไหน หลักๆ ถ้ามันแข็งพอไม่มีอะไรต้านได้ แสดงว่าแอนยังทำไม่แข็งพอมันก็เลยต้านไม่ได้”

ทุกครั้งที่ทำบทละครมีส่วนร่วมในการเขียน หรือปรับไดอะรอกนักแสดงไหม ?

“จริงๆ มีค่ะ แต่เรื่องนี้แทบไม่มีเลย ปกติที่ผ่านมาคันไม้คันมือ แต่เรื่องนี้แทบจะเป็นเรื่องแรกที่ไม่แตะบทเลย เพราะว่าเขาก็เขียนมาดีอยู่แล้ว ถ้าถามแอนนะตอนนั้นมันก็เป็นเหตุเป็นผล เพียงอาจจะมีตัดต่อบ้าง เช่น แอนอาจจะโยกไม่เอาหนึ่ง สอง สาม สี่ อาจจะเป็น สี่ หนึ่ง สอง สาม เป็นการลำดับเรื่องที่โยกไปโยกมา”

มีคนบอกว่าเพราะละครไทยถูกจำกัดหลายๆ อย่าง ถ้าเปรียบเทียบกับต่างชาติ ในฐานะผู้จัดมีความเห็นอย่างไรบ้าง ?

“มีมั้ยก็มีบ้าง มันเป็นอุสาหกรรมที่เรายังต้องช่วยเหลือตัวเองกันอยู่เยอะ อย่างของต่างชาติเขายังมีสมาคมหรืออะไรที่ทำให้การถูกสนับสนุนภาพใหญ่ของการเอ็นเตอร์เทรนเมนต์บ้านเราให้มันแข็งแรงขึ้น แต่ของเราต้องต่างบริษัทต้องต่อสู้กันเอง ต่างค่ายต้องต่อสู้กันเอง เรายังตามคนอื่นเขานิดนึง”

“แต่ในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ แอนว่าก็ไม่มีใครมาปิดกั้นเรานะเพียงแต่เราต้องชานฉลาดพอ และไหวตัวทันพอที่จะนำเสนอยังไงให้ถูกจริตผู้คนในบ้านเรา เรารู้จักผู้คนในบ้านเราดีที่สุดว่าประชาชนยเราชอบอะไร หรือเราจะไปทำให้ต่างชาติ เราต้องไปทำให้สากลยังไง”

“แอนก็ไม่เชื่อว่าจะถูกปิดกั้นอยู่ที่ว่าเราแกร่งพอที่จะทำมันได้มั้ย ต่อให้คุณคิดแปลกทำใหม่แต่สิ่งเหล่านั้นมันว้าวจริง แล้วก็ไม่ได้ดูไปพาดพิงหรือเหยียบย่ำใคร มันทำได้นะ ช่องก็ไม่เคยถามเลยว่าห้ามทำละครนั้น ห้ามทำละครนี้ แอยรู้สึกว่ามันแค่โอกาสบางอย่างเท่านั้นเองที่ไม่ได้ถูกเปิดอ้าให้ภาพรวมของผู้หลักผู้ใหญ่จะมาช่วยซัพพอร์ตให้งานเอ็นเตอร์เทนเมนต์มันไปได้รวดเร็วกว่านี้”

บ้านเรายังไม่มีหน่วยงานรัฐมาช่วยผลักดันสนับสนุน ?

“ใช่ๆ สมมติถ้าแอนอยากจะทำละครที่ไปตามตรอกซอกซอย ที่เที่ยวใหม่ๆ ที่มันแบบน่าเที่ยวมาก แต่กว่าจะไปถ่ายได้ก็ต้องถามตำรวจ ถามเทศกิจ มันหลายขั้นตอนกว่าจะอนุมัติ ความหมายแอนคืออะไรเหล่านี้มากกว่า ถ้ามีหน่วยงานหรืออะไรที่มาทำให้การขับเคลื่อนตรงนี้มันง่ายขึ้น เราก็จะได้ใช้ความน่าสนใจของประเทศเราในหลายๆ อย่าง เอามานำเสนอได้แบบง่ายดาย มันไม่ต้องแบบหืดขึ้นคอมาก แค่นั้นแหละ”

ภาพอุ่นใจ \

ภาพอุ่นใจ "นัท มีเรีย" นั่งเล่นบ้าน "แอน ทองประสม" เพื่อนรัก 30 ปี อยู่ด้วยกันทุกช่วงเวลา

นัท มีเรีย มาเยี่ยมบ้าน แอน ทองประสม มิตรภาพยาวนานเพื่อนรัก 30 ปี หลายคนเห็นแล้วยิ้มตามเลย